เมื่อเช้านี้มาโรงเรียนแต่เช้า ขับรถผ่านสี่แยกจราจร 3 ครั้ง และทั้ง 3 ครั้ง ได้นับถอยหลังทุกครั้ง จึงมีเวลาคิดทบทวน เกิดเป็นสัจจธรรมของตนเองที่สี่แยกจราจร
ใครบ้างเล่าที่ต้องนับถอยหลัง การนับถอยหลังมีความหมายอย่างไร ทำไมต้องนับถอยหลัง นับถอยหลังเพื่ออะไร คำถามเหล่านี้เกิดขึ้นในระหว่างที่รอเวลาที่จะได้เข้าเกียร์ 1 อีกครั้ง
เท่าที่สังเกต การนับถอยหลังเกิดขึ้นทุกปี ที่เรียกเป็นภาษาสากลว่า Count Down ในเทศกาลการส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ ซึ่งทุกๆคนที่เห็นว่าเทศกาลนี้มีความหมาย จะนัดกันไปพบกันที่ใดที่หนึ่ง สังสรรค์รื่นเริง เมื่อถึงเวลาก็จะนับถอยหลัง และจุดพลุบ้าง เพื่อเป็นสิริมงคลให้ตนเอง ยังไม่ทราบว่า เหตุการณ์นี้เกิดชึ้นกับสังคมไทยกันเมื่อไร แต่ก็ปฏิบัติกันเรื่อยมา จนเกือบจะถือว่าเป็นเทศกาลที่จำเป็น
การนับถอยหลังอีกสถานการณ์หนึ่ง คือใกล้จะเกษียณอายุราชการ 60 ปี ก็จะมีการนับถอยหลัง โดยเฉพาะผู้ที่จะเกษียณนั้น ก็จะนับถอยหลังกันเอง บางท่านก็จะมีความสุขที่จะเกษียณจะได้อยู่กับลูกหลาน ไม่ต้องทำกิจการ ราชการใดใด ซึ่งทุกคนชาวข้าราชการ และหน่วยงานอื่นที่กำหนดไว้ก็จะต้องมีการนับถอยหลังด้วย
บางคนก็นับถอยหลังให้คนอื่น อาจะจะมีสองนัย คือ ยังคงต้องการให้อยู่ต่อไปเพราะท่านเป็นคนดี กับอีกนียหนึ่งก็คือ เมื่อไรจะหมดเวลาของคนนี้สักที คิดกันไปได้
จะมีการนับถอยหลังที่เกิดขึ้นทุกๆวันก็คือ การนับถอยหลังที่สี่แยกจราจรอัจฉริยะ ที่ผู้เขียนพบมาเมื่อเช้านี้ มีตัวเลขปรากฏขึ้น ให้นับถอยหลังกัน บางคนก็มองมันอย่างมีความหมาย เพราะจะต้องเริ่มนับใหม่ ทำงานในสิ่งใหม่ หลังจากที่ได้พักผ่อน
สัจจธรรมจึงเกิดขึ้นที่สี่แยกจราจร คือ การพักผ่อน เพื่อที่จะเริ่มต้นใหม่ บางคนมีความเบื่อหน่ายในชีวิต ท่านอาจจะยังไม่ได้พักผ่อนสักระยะ เพื่อการเริ่มต้นใหม่ที่ดี
สวัสดียามเช้าคะอาจารย์...
กะปุ๋มเป็นคนหนึ่งคะ...ที่ตอนนี้เริ่มนับถอยหลัง...ของชีวิต...
เพราะมีเวลาเหลือที่จะทำในชีวิตไม่มากนัก...
รอยที่เหลือที่ทำในตอนนี้คือ...เผื่อแผ่ความรัก...ไปให้แก่ทุกสรรพสิ่ง...เพื่อเพราะพยายามลดสิ่งที่ค้างคาใจ...
และใช้ชีวิต ณ ปัจจุบันอย่างมีสติ...
สุขหรือว่าสุข
ทุกข์หรือว่าทุกข์...
รับรู้และเผชิญกับความเป็นไป...
....
ว่าแต่ว่าครูอ้อยแก้ propasal เสร็จหรือยังคะ...มีอะไรที่กะปุ๋มพอที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้...ยินดีนะคะ
กะปุ๋ม