ไปเยือนระยอง


อดไม่ได้ที่จะขอถ่ายทอดความรู้สึกที่อยากจะทำให้ผู้อ่านได้คล้อยตามและมีความสุขกับผู้เขียนได้บ้าง.

เยี่ยมเยือนเมืองระยองกับทีมสมาคมผู้ให้ความรู้โรคเบาหวาน

            วันที่ 14 กันยายน  2554 เช้าตรู่ 6.25 น. ผู้เขียนได้พบกับอาจารย์อารยา เป็นคนแรก  หลังจากลงรถแท๊กซี่ที่จอดข้างโรงพยาบาลเปาโลเมมโมเรียลมองผ่านกระจกเห็นสุภาพสตรีท่านหนึ่งกับสุภาพบุรุษรุ่นลูกกำลังง่วนกับถุงเอกสาร  อาจารย์อารยานั่นเองเดินมากับน้องปริญญา (ผู้แทนเทอรูโม) มาเจ๊อะกันกับผู้เขียนหน้าประตู   ผู้เขียนพนมมือ “สวัสดีค่ะ” อาจารย์แนะนำเอกสารในถุง ซึ่งเพียบพร้อมทุกอย่าง แผนการเดินทาง สิ่งที่จะต้องปฏิบัติ คู่มือความรู้ในการจะใช้ในการเจาะลึก ถ้าเป็นนักขุดเจาะเราก็จะมีเครื่องเจาะประสิทธิภาพสูง (high quality digging machine.. คิกคิก) แต่จะใช้เป็นหรือเปล่า โอ! มีคู่มือการใช้มาด้วย เหลือแต่อ่านออกหรือเปล่าและเข้าใจได้ไหม...สุดยอดจริงๆ  จากนั้นทีมสมาคมฯก็ทะยอยกันมา อาจารย์เกษนภา อาจารย์สุวิณา และอาจารย์ศัลยากับผมดัดเก๋ทรงใหม่ต่างจากที่เห็นครั้งสุดท้าย และอาจารย์อารยาก็ยังคงแจกเอกสารและแนะนำให้กับทุกคนอย่างกระจ่างชัด

   ทุกคนโดยสารรถตู้จากโรงพยาบาลเปาโลเมมโมเรียล ออกจาก สะพานควาย มุ่งไปสู่ทะเลตะวันออกเมืองระยอง เสียดายมาก สำหรับความพร้อมในการเตรียมตัวมาน้อยไปนิด..ไม่งั้นจะตั้องใจเล่าเรื่องราวและเก็บภาพมาฝากได้มากกว่านี้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะขอถ่ายทอดความรู้สึกที่อยากจะทำให้ผู้อ่านได้คล้อยตามและมีความสุขกับผู้เขียนได้บ้าง.....

                      

           แวะทานอาหารเช้าที่ร้านก๋วยเตี๋ยวจุดพักรถมอเตอร์เวย์ ที่ร้านห่างจากแมคโดนัลสัก 4-5 ห้องเป็นร้านดูสะอาดสะอ้านทีเดียว มองเข้าไปหลังจากได้ยินเสียงเชิญชวนกันว่า “ร้านนี้ดีไหม” มองเข้าไปเห็นห้องน้ำในมุมที่ไม่ได้กว้างขวางอะไรนักประตูห้องน้ำที่เปิดอยู่เครื่องสุขภัณฑ์ขาวสะอาดจริงหนอ เสียงในใจผุดขึ้นมา “น่าสนใจทีเดียวร้านนี้” ทุกคนเดินเข้าไปในร้าน อาจารย์เกษนภาช่างสังเกต บอกว่าโต๊ะที่นี่ทำมาจากจักรเย็บผ้าเก่า  มองลงไปที่ใต้โต๊ะ มีวงล้อหมุน ขาเหยียบขยับขึ้นลงได้ตามจังหวะเหยียบ อาจารย์เกษนภาสั่งเกาเหลาเลือดหมูไม่เอาใส้ ไม่เอาตับ เอาผักเยอะๆ ที่นี่มีผักอะไรคะ สาวรับorderตอบว่า“ จิงจูฮวยไฉ่”สำหรับอาจารย์สุวิณา อาจารย์อารยาและผู้เขียน รับประทานก๋วยเตี๋ยวปลาเส้นเล็ก และเราก็มีน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวเป็นที่สนใจของอาจารย์ศัลยาและอาจารย์ศัลยามองดูก๋วยเตี๋ยวในชามของอาจารย์เกษนภาแล้วบอกว่า ปริมาณก๋วยเตี๋ยวกำลังพอเหมาะ (หนึ่งคาร์บค่ะ)  อาจารย์ศัลยาเองสั่งต้มยำปลา แต่อาจารย์ดูจะไม่ค่อยชอบใจชามเสริฟนี้เท่าไร รสชาติเผ็ดเกินไปและผักน้อยที่น้อยเกินไป  อาจารย์ขอผักเพิ่มและก็ได้กรุณาแจกผักให้กับทุกคนด้วย และอาจารย์ก็ยังไม่สามารถรับประทานต่อไปได้อยากได้น้ำซุบและดูเหมือนจะเกรงใจเจ้าของร้านที่เราจะขอเยอะไปหน่อยหรือเปล่า..กระวนกระวายเล็กน้อย และในที่สุดเราก็ได้น้ำซุบมาเพิ่ม อาจารย์ศัลยาเจือจางน้ำซุบในชามแล้วก็ยังไม่ไหว สุดท้ายอาจารย์โกยส่วนประกอบที่ไม่ใช่น้ำมาใส่ชามซุบซะเลย อาจารย์อารยาบอกว่า “ เป็นการคิดใหม่ไปเลย innovation” อย่างไรก็ตาม อาจารย์ก็ยังมาขอน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวจากอาจารย์อารยา ตามที่ใจได้เล็งไว้..555

  

หมายเลขบันทึก: 462312เขียนเมื่อ 23 กันยายน 2011 20:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม 2012 11:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

มาเยี่ยมเยือนเหมือนเคยครับผม

สวัสดี เภสัช มด ดีใจที่นำบันทึกใหม่มาลงให้อ่าน .... เมื่อคืนที่งานเลี้ยงเกษียณ ลูกจ้างของ รพฒหาราช นครศรีธรรมราช ก็ได้พบ ได้รู้จัก ได้พูดคุยกับเภสัชท่านหนึ่ง ....พูดถูกคอกันมาก แต่เสียดายไม่ได้ถามชื่อ แต่ก็แนะนำให้ท่านเภสัช เข้ามาทำความรู้จักคุ้นกันต่อใน GotoKnow คาดว่าคงมีนักบันทึกเภสัชอีก หนึ่งท่าน.....

ด้วยความดีใจครับ

ไม่เห็นมีพี่มดเลยครับ

ไปไหนมาไหน ไม่ว่าใคร เรื่องกินเรื่องใหญ่

เอนกพี่เป็นคนเก็บภาพนี่คะ กรรมการสมาคมผู้ให้ความรู้เบาหวาน ไปเยี่ยม รพ ระยอง รอบสุดท้าย 1ใน 2 อ่ะ

สวัสดีคะ

เห็นภาพว่าเผ็ดจริงๆ เลยได้ innovation การรับประทานก๋วยเตี๋ยว ล้างน้ำ(ซุป)

ที่เชียงใหม่ มีร้านข้าวต้ม เอาโต๊ะจักรเย็บผ้ามาทำโต๊ะอาหารเก๋ๆ เหมือนกัน เป็นแนวคิด reuse ที่น่าชื่นชมคะ

พรุ่งนี้  ครูอ้อยกับเพื่อนๆครู ทั้งโรงเรียน จะไประยอง สัมมนาวิจัย กันค่ะ http://www.gotoknow.org/blogs/posts/505557

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท