จากที่ข้าพเจ้าได้ทำการศึกษาโครงการศึกษาวิจัยเพื่อสำรวจสถานการณ์และศึกษาความเป็นไปได้ ในการขจัดปัญหาการจดทะเบียนการเกิด และปัญหาสถานะบุคคลตามกฎหมายของประชาชนในพื้นที่ประสบภัยสึนามิ จะเห็นได้ว่าจากข้อเท็จจริงดังกล่าว เมื่อพิจารณาตามพระราชบัญญัติสัญชาติไทยแล้ว เด็กหญิงปิยนุช ไม่อาจมีสัญชาติไทยได้ และเมื่อพิจารณาจากอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคี กรณีดังกล่าวนั้นนั้นอยู่ภายใต้ ข้อ 7 ของอนุสัญญา ฯ คือ เรื่องการจดทะเบียนเกิด และการให้สัญชาติเด็กผู้ลี้ภัย หรือผู้อพยพที่เกิดในประเทศไทย และข้อ 22 ของอนุสัญญาฯ คือ เรื่องสถานะของเด็กผู้ลี้ภัย ซึ่งทั้ง 2 ข้อดังกล่าว ประเทศไทยได้ตั้งข้อสงวนไว้ และเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงในกรณีของเด็กหญิงปิยนุชนั้น มิได้มีเด็กหญิงปิยนุชเพียงกรณีเดียวที่ประสบปัญหาในเรื่องดังกล่าว แต่ยังมีอีกหลายๆบุคคลที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกับเด็กหญิงปิยนุชในพื้นที่ประสบภัยสึนามิ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่คณะนักวิจัยได้ดำเนินโครงการอยู่นั้น
จากเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ประเทศไทยควรที่จะสร้างกฎเกณฑ์เพื่อแก้ปัญหาในดังกล่าว เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคล ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 18 มกราคม 2548 โดยอาจจะออกกฎเกณฑ์ในรูปของกฎหมายหรือระเบียบขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าว ตัวอย่างเช่น การจัดให้มีการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับเด็กที่ตกอยู่ในสถานะดังกล่าว และเมื่อจบการศึกษาขั้นพื้นฐานแล้วก็อาจจะพิจารณาถึงคุณสมบัติของเด็ก ณ เวลาดังกล่าวว่า ผลการเรียน ความประพฤติของเด็กคนดังกล่าวในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง และพิจารณาถึงการให้สัญชาติไทยแก่เด็กคนดังกล่าวต่อไป โดยอาจจะใช้หลักเกณฑ์ในการพิจารณาการให้สัญชาติ ว่าเป็นบุคคลที่จะทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติในเวลาต่อไปได้ หรืออาจจะเป็นกรณีที่หาผู้อุปการะให้กับเด็ก เพื่อที่จะให้เด็กได้รับการอบรมเลี้ยงดูตามที่ควรจะได้ และเมื่อได้มีการศึกษาครบตามการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือมีอายุครบตามเกณฑ์ที่กฎหมายได้วางไว้ ก็ให้เด็กได้กลับประเทศที่ตนมีสัญชาติอยู่ หรืออาจจะพิจารณาให้สัญชาติเด็กต่อไปในกรณีที่เด็กได้มีการร้องขอ
ไม่ว่าจะเป็นกรณีอย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่เด็กอยู่ในระหว่าการศึกษานั้น ทางรัฐบาลควรที่จะทำความร่วมมือเพื่อพิสูจน์สัญชาติที่แท้จริงของเด็กผู้นั้น โดยวิเคราะห์จากข้อเท็จจริงตามที่ได้ทราบมา เพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาเมื่อเด็กได้มีอายุครบตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดให้กลับประเทศหรือเมื่อเด็กมีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะเลือกได้ว่าจะอยู่ในประเทศไทยต่อไปหรือไม่
ไม่มีความเห็น