หัวใจสีขาว


ปล่อยให้ความยึดมั่นในความเป็นตัวตน บุคคลและสิ่งต่างๆ ความคาดหวัง ความอยาก ความโกรธ ความน้อยใจ ความคับแค้นใจทั้งหลาย ตลอดจนความลุ่มหลงทั้งปวง



หัวใจสีขาว



มนุษย์ทุกคนในโลกนี้เกิดมาพร้อมกับยีนแห่งความสำนึกผิดชอบชั่วดีในสายเลือด
มีดวงใจอันใสสะอาดบริสุทธิ์ ประกอบด้วยเมล็ดพันธุ์แห่งความดีงาม และเชื้อแห่งความเป็นอริยะอยู่ในตัวตนทุกคน
ไม่ว่าจะเกิดมาในสถานภาพใด ตั้งแต่เศรษฐี ผู้ดี ไพร่ ยากดีมีจน หรือจะถือเชื้อชาติ
สัญชาติ ศาสนา ภาษา และภูมิลำเนาใดก็ตามบนโลกใบนี้  เราล้วนเกิดมาพร้อมกับความดีงาม และความบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นทุนเดิม
อาจมีบ้างที่บางคนเกิดมาพร้อมหัวใจที่หมองคลํ้า ขุ่นมัว มีบาดแผลติดตัวมาแต่กำเนิด
แต่ก็ไม่หนักหนาสาหัสเกินจะเยียวยาแก้ไข หากให้เราสังเกตและประเมินจิตใจในตอนนี้ หัวใจของเราเป็นสีอะไร
มีความใส สะอาด สว่าง และบริสุทธิ์ผุดผ่องดั่งที่เคยเป็นมาหรือไม่ เคยมีช่วงใดในจังหวะชีวิตเราบ้างที่ได้มีโอกาสสัมผัส
หัวใจสีขาวอันใส สว่าง บริสุทธิ์ มันเป็นเวลานานเท่าไรแล้ว ที่เราได้มีความรู้สึกอบอุ่นทว่าสงบเย็นเช่นนั้น
เมื่อผ่านการอบรมเลี้ยงดู ศึกษาเล่าเรียน ทำงานหาเลี้ยงชีพ ดูแลครอบครัว จากชีวิตในช่วงปฐมวัยที่ต้องมีพ่อแม่ผู้ปกครองคอยดูแลอุ้มชูสั่งสอนด้วยความทะนุถนอม
จากแบเบาะสู่ช่วงวัยรุ่นหัวเลี้ยวหัวต่อ ก้าวสู่วัยแห่งการสร้างฐานะความเป็นอยู่ทั้งด้านครอบครัวและการงาน
สู่โค้งสุดท้ายแห่งชีวิตที่เริ่มอ่อนล้าและเสื่อมลงไปตามวัย จากหัวใจที่เคยขาวบริสุทธิ์
ก็ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันต่างๆ ตามแต่ประสบการณ์ชีวิตจะลิขิตและร้อยเรียง ทั้งยังเก็บสะสมเรื่องราวมากมายที่ผ่านมา
ทำให้ชีวิตจิตใจเสมือนมีภาระอันหนักอึ้ง คับแคบ ร้อยรัดด้วยสารพัดเงื่อนไขที่ซํ้าซากจำเจ
ขาดอิสรภาพ ไร้ชีวิตชีวา หาที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวไม่ได้     นอกจากหัวใจสีขาวดวงเดิมจะถูกแต่งแต้มด้วยสีสันภายนอกแล้ว
ยังได้สะสมมลพิษทางความคิดและทางอารมณ์ ที่ผลักดันจากความอยากได้ อยากมี อยากเป็น หรือความไม่อยากได้
ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น ทั้งนี้เพราะพื้นที่ในจิตใจของเราได้ให้สัมปทานกับแขกผู้มาเยือนอย่างต่อเนื่องยาวนาน
ปล่อยให้ความยึดมั่นในความเป็นตัวตน บุคคลและสิ่งต่างๆ ความคาดหวัง ความอยาก ความโกรธ
ความน้อยใจ ความคับแค้นใจทั้งหลาย ตลอดจนความลุ่มหลงทั้งปวง
ดาหน้าเข้ามาปักหลักครองพื้นที่ในจิตในใจ ทั้งผลักดัน ทั้งชี้นำและบงการให้เราต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้
ตั้งแต่ตื่นยันหลับ และบ่อยครั้งก็เอาไปฝันต่อ หากแข็งขืนไม่ปฏิบัติตามคำบงการ เจ้าของสัมปทานเหล่านี้ก็จะสำแดงฤทธิ์เดช
สร้างความเดือดร้อนให้แก่จิตใจเรา ทำให้เกิดความหงุดหงิด ฟุ้งซ่าน รำคาญใจ บางทีถึงกับร้อนรุ่ม
งุ่นง่าน อึดอัด คับแค้น ถือเป็นการลงโทษเจ้าของพื้นที่ในจิตใจที่บังอาจฝ่าฝืนคำสั่งการบัญชาของผู้ได้รับสัมปทาน
จนไม่รู้ว่า ใครกันแน่เป็นเจ้าของตัวจริง ใครกันแน่เป็นเพียงแขกผู้มาเยือน แล้วในที่สุดจิตใจอันอ่อนแอและบอบบางของเราก็ไม่สามารถฝ่าฝืนคำบงการที่เกรี้ยวกราด
จึงยอมทำตามอำนาจกิเลสที่ผลักไปครั้งแล้วครั้งเล่า ให้เราต้องทำอย่างนั้น ต้องทำอย่างนี้ตามแต่เขาจะเสี้ยมสอนสั่งการ
สะสมจนกลายเป็นความเคยชิน ทั้งความคิด คำพูด การกระทำ จนกลายเป็นอุปนิสัยใจคอ บุคคลิก
ตลอดจนชะตากรรมของเราในที่สุด แน่นอน รางวัลตอบแทนที่เจ้าของสัมปทานมอบให้แก่จิตใจของเรา
คือ ความรู้สึกสะใจ สบายใจ เมื่อได้ลงมือพูดและกระทำตามคำบงการเสร็จสิ้นเรียบร้อย เป็นการประกาศต่อโลกภายนอกว่า
ชนะแล้ว ได้ลงมือทำแล้ว แต่หลังจากนั้นไม่นาน มักจะหวนกลับมาคิดคำนึงว่า ไม่ควรทำเลย
ไม่น่าพูดเช่นนั้นเลย!  หากสังเกตให้ดี มนุษย์ส่วนใหญ่มักจะเป็นสารพัด โรคใจ
ซึ่งมีสาเหตุมาจากการขาดความเป็นปกติและความสมดุลในจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นความกังวล ความหงุดหงิดใจ
ความฟุ้งซ่าน รำคาญ เศร้าหมอง เหม่อลอย หดหู่ ท้อแท้ อิจฉาริษยา หวาดกลัว พยาบาท โกรธ
เคียดแค้น ชิงชัง ลุ่มหลง หึงหวง ลังเลใจ                                                            ดังนั้น
จงหมั่นสังเกตตัวเองว่า เรามีอาการโรคใจ เหล่านี้บ้างหรือไม่ และมีอาการใดปรากฏอยู่บ่อยๆ
บ้างตั้งแต่เช้ายันคํ่า อาการของโรคใจเหล่านี้ เป็นผลโดยตรงจากการที่เราให้พื้นที่สัมปทานใจแก่ความโลภ
ความโกรธ ความหลง ความอยาก ความยึดทั้งหลายเข้ามายึดครอง จนฝังรากลึกเปรียบประหนึ่งเป็นเจ้าของจิตใจเสียเอง
ทำให้เราต้องประสบกับปัญหาต่างๆ มากมายในชีวิต ทั้งที่บางอย่างรู้ดีอยู่แก่ใจว่าไม่ควรคิด
ไม่ควรพูด ไม่ควรทำ แต่ก็อดใจไว้ไม่ไหว ดังคำกล่าวที่ว่า ‘ดีชั่วรู้หมด
แต่อดใจไม่ไหว’ ทั้งนี้ เพราะเราไม่มีพื้นที่เหลือที่จะยืนหยัดอีกต่อไป
ต้องถูกจิกหัวเป็นทาสรับใช้กิเลส ตัณหา และอุปาทานชนิดข้ามภพข้ามชาติ เพราะสัมปทานที่ให้ไว้ไม่ได้มีสัญญาเพียงชาติเดียวเท่านั้น
จึงทำให้หัวใจของเราถูกจองจำ บอบชํ้า ขาดอิสรภาพ ด้วยเครื่องร้อยรัดพันธนาการที่เผลอไผลไปให้สัมปทานไว้
เพราะไม่รู้จึงอยาก เพราะอยากจึงยึด เพราะยึดจึงเป็นทุกข์……

หมายเลขบันทึก: 460448เขียนเมื่อ 14 กันยายน 2011 17:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 20:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท