ไม่รู้ชื่อเรื่องคืออะไร


ไม่รู้ชื่อเรื่องคืออะไร

ตลอดช่วงอายุที่มีชีวิตอยู่นี้มีสิ่งที่ต้องพบเจอซ้ำ ๆ อยู่ 2 เรื่องคือ การนินทา และ การหาเพื่อนแท้ ทั้ง 2 เรื่องนี้มันช่างสอดคล้องกันอย่างไม่น่าเชื่อ ..... การนินทานั้นไม่ว่าจะอยู่ในสังคมไหนจะชั้นสูงหรือชั้นต่ำ ก็มีการติฉินนินทาไม่จบไม่สิ้น ต่อหน้าำพูดดี ยิ้มเข้าหา ใส่หน้ากาก แต่พบลับหลังยิ่งกว่าอสูรร้ายที่พร้อมจะทำลายเราได้ทุกเมื่อ เป็นเรื่องธรรมดาของปุทุชน เพื่อมีคน 3 คนแล้วคนใดคนหนึ่งเดินออกมา อีก 2 คนที่เหลือจะต้องกระหน่ำบุคคลที่เดินออกมาแน่นอน ดังนั้นไม่มีใครอยากจะเป็นคนที่เดินออกมาเพื่อให้คนที่เหลือนินทาหรอก บางคนอาจมองว่าการนินทาเป็นเรื่องปกติ เมื่อคุณได้นินทาผู้อื่น คุณก็นินทาอย่างสนุกปาก แต่เมื่อคิดดูดี ๆ เมื่อไหร่ที่คุณถูกนินทา คุณจะรู้สึกว่าการถูกนินทานั้นมันโหดร้ายกับคุณมากเพียงใด ยกเว้นเสียแต่ว่า คนที่นินทาคุณนั้นเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนคุณ ดังนั้นจึงนำมาสู่ เพื่อนแท้  ที่อยากจะพบเจอ คิดว่าคนทุกคนก็คงอยากเจอเพื่อนแท้กันทุกคน ไม่มีใครหรอกที่ต้องการแค่เพื่อนกิน ที่จะนึกถึงคุณหรือต้องการคุณเมื่อยามที่เค้าต้องการผลประโยชน์จากคุณ เพียงแต่มองหน้า คุณไม่รู้หรอกว่าเค้าจะเป็นเืพื่อนแท้หรือเพื่อนกิน บางทีคนหน้าตาดี ดูมีฐานะ หรือมองภายนอกดูจะเป็นคนที่แสนดีจนคุณคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนแท้คุณได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่ บางครั้งคนที่ไม่มีอะไร ดูธรรมดา ๆ อาจจะเป็นเพื่อนแท้ที่รอให้คุณตามหาอยู่ก็ได้ ซึ่งฉันก็เป็นคนหนึ่งที่พยายามตามหาเพื่อนแท้มาตลอด เพื่อนแท้ที่พร้อมจะทุกข์และสุขไปด้วยกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอเมื่อไหร่ เป็นเพราะที่ผ่านมามักจะพบเจอเพียงเพื่อนที่ใช้คำว่าเพื่อนแต่ไม่ได้รู้สึกถึงความหมายของคำนั้น ฉันเคยเจอเพื่อนอยู่กลุ่มหนึ่ง ตอนแรก ๆ เราก็คบ ก็สนิทสนมกันดีแต่เนื่องด้วยเพราะว่าฉันมีปัญหาส่วนตัวก็เลยอยากหาคนที่สามารถให้คำปรึกษาหรือคนที่จะรับฟังเรื่องของฉันได้ แต่พอพูดไปก็เหมือนกับฉันกำลังทำร้ายตัวเองอยู่ ซึ่งเรื่องที่ฉันเล่าไปกลายเป็นประเด็นที่ทำให้คนกลุ่มนั้นพูดกันสนุกปาก โดยที่ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าเรื่องที่ฉันทุกข์ใจอยู่นั้นจะทำให้คนกลุ่มนั้นมีความสุขได้ถึงเพียงนี้ ไม่เพียงแต่เอาไปคุยกัยสนุกปากแล้วคนกลุ่มนั้นยังใส่ร้ายฉันไปต่าง ๆ นา ๆ จนเสียหาย ถึงขั้นขึ้นโรงพักกันเลยทีเดียว ฉันไปแจ้งความเอาเรื่องคนกลุ่มนั้นและคนที่พยายามใส่ร้ายฉัน แต่ก็ติดตรงคำว่าเพื่อนนั่นแหละ ก็เลยต้องให้คดีความหมดอายุไปโดยที่ต้องแบกความอับอาย กลายเป็นขี้ปากของคนทั้งมหาวิทยาลัย แต่ที่ยืนหยัดมาได้ก็เพราะมีครอบครัวที่เข้าใจ มีพ่อกับแม่ให้กำลังใจทุกอย่าง วันที่โหดร้ายเหล่านั้นฉันจึงผ่านมาได้แม้จะต้องใช้เวลาที่ยาวนานมาก ๆ ก็ตาม แต่ก็นั่นแหละเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ก็เลยอโหสิกรรมให้ทุกอย่างแม้บางครั้งบางทีมีความคิดที่ไม่อยากอโหสิกรรมให้ก็ตาม ก็เลยต้องหันหน้าเข้าวัด ไปทำบุญทุกครั้งที่มีโอกาส กรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวรและคนกลุ่มนั้น จะได้ไม่ต้องมีเวรมีกรรมกันอีกต่อไป และเผื่อว่าผลบุญที่ฉันทำไปอาจส่งผลให้เจอเ่พื่อนที่ดี ๆ ที่เป็นเพื่อนแท้สำหรับฉัน แต่ฉันก็หวังในใจว่าเพื่อนกลุ่มใหม่ของฉัน คนใดคนหนึ่งในนั้น อาจเป็นเพื่อนแท้ฉันก็ได้ (แค่หวังนะ แต่ก็ไม่กล้าคิดจริงเพราะกลัวว่าจะเป็นเหมือนเดิมอีก)

หมายเลขบันทึก: 459729เขียนเมื่อ 10 กันยายน 2011 23:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม 2012 12:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ทุกวันนี้พยายามให้กำลังใจตัวเอง แต่บางครั้งก็ท้อใจเช่นกัน ...

ทุกวันนี้พยายามให้กำลังใจตัวเอง แต่บางครั้งก็ท้อใจเช่นกัน ...

ชื่อเรื่อง"อันนินทากาเลเหมือนเทแกลบ"

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท