ต่อจากตอนที่แล้วครับ
สำหรับท่านผู้อ่านที่ได้ติดตาม วิธีการนี้มาอย่างต่อเนื่อง ต้องทำความเข้าใจ "ข้าว กับ น้ำ"
ในเบื้องต้นก่อน 2 ประเด็น ก็คือ
1.ข้าวเป็นพืชทนน้ำท่วมขัง แต่ไม่ชอบ (เพราะรากข้าวจะไม่ได้รับออกซิเจน การแตกกอจะน้อยกว่า รากที่ได้รับออกซิเจน= หน้าดินแตกระเเหง)
2.วัตถุประสงค์หลัก ที่เอาน้ำใส่ไว้ในนา คือ คุมหญ้า คุมวัชพืช (ผลที่ตามมา ทำให้ต้นข้าวอวบน้ำ อ่อนแอ ต่อ โรคและเเมลงลงได้ง่าย
(วิธีการจัดการหญ้าได้นำเสนอไปแล้วในบันทึกก่อนๆ)
เมื่อ "อดอยาก" ต้นข้าวไม่ยอมตายแน่นอนครับ
ต้องออกรากไปหาอาหารและน้ำ
=อัตราการเกิดใหม่ของรากข้าวเพิ่มขึ้น ทวีคูณ(ดูจากภาพจะเห็นเส้นสีขาวๆ) หากินอย่างอารมณ์ดีเพราะได้ออกซิเจนเต็มที่
"ระบบรากข้าวนาดำ"จะไม่ลอยหาอาหารหน้าผิวดินเหมือนนาหว่าน แต่จะหากินลงไปใต้ดิน ช่วยยึดลำต้น กับดินไว้ ไม่ให้ต้นข้าวล้มตอนเก็บเกี่ยว
=ลดต้นทุนค่าสูบน้ำเข้านา ค่าปุ๋ย ค่ายาเคมีของเกษตรกรลง เพราะต้นข้าวหากินเลี้ยงตัวได้ !!!
เมื่อเป็น นาที่ "ไม่เผาตอซังข้าว" ภาพที่ท่านเห็นก็คือสิ่งที่ได้ ตอซังฟางข้าว จะเป็นตัวเก็บความชื้น ไว้ใต้ผิวดิน ให้รากข้าวได้ดูดซับน้ำอย่างเพียงพอสำหรับการแตกกอ
"เป็นระบบการผลิตข้าว โดยใช้ศักยภาพข้าวอย่างเต็มที่"
โดยใช้ฟิสิกส์นำเคมี เพื่อคืนคุณภาพชีวิตดีๆกลับสู่เเปลงนาไทย "
เก็บภาพมาฝากทุกท่านครับ กับเครือข่ายชาวนาวันหยุด เยี่ยมชมเเปลงนา (ลงนาขาไม่เปื้อนโคลน ถ่ายรูปกันสนุกสนานครับ)
คุณต้นกล้าผมอยากได้ข้อมูลไปศึกาดูบ้างอะครับ คุยกับผมได้ที่ [email protected]
คุณชลเทพ
ติดตามข้อมูล ได้จาก "สารบัญ" ครับ ครบถ้วนอยู่แล้ว
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็ถามได้จากหน้าบันทึกนั้นๆครับ