หน้าแรก
สมาชิก
พิมล มองจันทร์
สมุด
ภูมิปัญญาอีสาน
อุปขยานจากเรื่องท...
พิมล มองจันทร์
สถิตย์ ภาคมฤค
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
อุปขยานจากเรื่องท้าวเต่าคำ (วรรณกรรมอำพลางกาย)
วรรณกรรมอำพลางกาย
๑) เรื่องควายสองพี่น้อง กล่าวว่ามีกระต่ายตัวหนึ่งไปพูดยุยงให้ควายของพี่น้องทะเลาวิวาทกันเพราะเชื่อคำยุยงของกระต่าย จนต่อสู่กันสุดท้ายควายตัวน้องก็ถูกควายตัวพี่ฆ่าตาย สอนให้รู้จักชั่งใจอย่าเชื่อคำยุยงของคนอื่น
๒) เรื่อง หงส์สองคอ กล่าวว่าหงส์ตัวหนึ่งในร่างเดียวแต่มีสองหัวสองคออยู่กันอย่างสามัคคี วันหนึ่งกระต่ายไปกระซิบข้างหูหัวด้านซ้ายแต่ไม่มีเสียงพูดเลยทำท่าทางกระซิบเท่านั้น กระต่ายทำเช่นนี้ ๒-๓ วัน แล้วก็มาทำเช่นนี้ที่หัวด้านขวาอีก ๒-๓ วัน ทั้งสองจึงคุยกันว่ากระต่ายพูดอะไรให้ฟัง แต่ทั้งสองก็บอกกันว่าไม่ได้พูด และก็ไม่เชื่อคำตอบของกันละกันจึงทะเลาะกันและตัดสินใจแบ่งร่างกันคนละด้าน สอนให้รู้จักสามัคคีกลมเกลียวกัน
๓) เรื่อง หงส์หามเต้า-เต้าหาบหงส์ กล่าวถึงหงส์คู่หนึ่งเป็นเพื่อนกับเต่า อาศัยอยู่กันในหนองน้ำอย่างมีความสุข อยู่ต่อมาหนองน้ำนั้นน้ำแห้งเขินขาดสัตว์น้อยใหญ่หนีหายตายไปสิ้นยังเหลือแต่เต่าตัวเดียว ฝ่ายหงส์สองตัวผู้เพื่อนบินไปหากินยังหนองน้ำแหล่งอื่นก็เกิดความคิดถึงเจ้าเต้าเพื่อเก่าจึงพร้อมใจกันบินกลับมาแล้วเอาขาจับไม้บินไปหาเต้าบอกจะพาไปหนองน้ำแห่งใหม่ แต่ต้องเอาปากคาบไม้ห้ามพูดห้ามอ้าปากเด็ดขาด แล้วก็พร้อมกันบินผ่านหมู่บ้านเพื่อไปหนองน้ำแห่งใหม่ ชาวบ้านแห่งจึงร้องบอกกันว่าหงส์หามเต่า เจ้าเต่านึกในใจว่าเต่าหาบหงส์ต่างหาก จะอ้าปากหมายที่จะพูดดังที่ตนคิด พออ้าปากก็พลันตกลงมาตาย สอนให้รู้จักคิดก่อนพูดไม่เช่นนั้นจะตายเพราะปาก
๔) เรื่อง ตายเพราะเห็นแก่ได้ กล่าวว่า มานพผู้หนึ่งมีคาถาอาคมรักษาคนที่ถูกพิษได้สารพัดจึงหากินเลี้ยงชีพด้วยกันรักษาผู้คน ต่อมาผู้คนทั้งหลายเกิดอยู่ดีมีสุขไม่มีพิษภัยมาทำร้ายมานพผู้นี้จึงขาดร้ายได้จึงไปหางูพิษแล้วเอาไปซ้อนไว้ในรังนกแกล้งบอกเด็กให้ขึ้นไปรังนกจะได้ถูกงูฉกแล้วตนเองจะรักษาเพื่อจะได้เงินค่ารักษา แต่เด็กคนนั้นซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์รู้ทันจึงฉวยงูโยนลงมาใส่มานพผู้นั้นแล้วจึงโดยงูฉกจนตาย สอนว่าอย่าเห็นแก่ได้จนหมายว่าจะทำร้ายผู้อื่นแล้วตนจะได้รับกรรมนั้นเอง
๕) เรื่อง นายพรานกับนกยูง กล่าวว่า นกยูงตัวหนึ่งมีเวทย์มนต์พร่ำบ่นภวนาทุกวัน วันหนึ่งนายพรานมาพบเข้าจึงหมายจะจับนกยูงให้ได้จึงวางบ่วงบาศไว้แต่ด้วยอำนาจเวทมนต์นกยูงตัวนั้นก็ทำลายได้สิ้น นายพรานจึงเอานกยูงตัวเมียมาหลอกล่อ นกยูงตัวนั้นเกิดมีตัณหาขึ้นลืมท่องบ่นภาวนาเวทย์มนต์จึงถูกพรานจับได้ในที่สุด สอนว่าอย่าอวดอ้างว่ามีเวทย์มนต์คาถาดีจงสำรวมระวังอย่างเผลอตนเพราะตนหาและความอวดเก่ง
๖) เรื่อง นกกระจอกฟ้าสอนลิง กล่าวว่า ยังมีต้นไม้แห่งหนึ่งเป็นที่อาศัยทำรังของนกกระจอกฟ้าและฝูงลิง วันหนึ่งฝนตกลิงเกาะกิ่งไม้หนาวสั่นนกกระจอกฟ้าออกมาจากรังจึงร้องบอกว่าท่านมีทั้งมือและเท้าทำไมไม่ทำเรือนอยู่เพื่อหลบแดดหลบฝน ข้ามีเพียงปากยังทำได้เลยพวกท่านเกียจคร้านกันยิ่งนัก ลิงโกรธมากจึงผูกใจเจ็บไว้ ครั้นเมื่อฝนหยุดตกลิงก็พากันปีนขึ้นไปทำลายฝูงนกจนพังเสียหายและฆ่านกเสีย ครั้นตายไปนกได้ขึ้นสวรรค์เป็นเทวดาส่วนลิงนั้นตกนรก สอนว่าจงฟังคำเตือนแม้ว่าเข้าจะเป็นผู้น้อยกว่าเพราะคำเตือนเหล่านั้นจะเป็นประโยชน์ต่อเราแน่
๗) เรื่อง นายพราน กล่าวว่า ณ เมืองแห่งหนึ่งนายสำเภาค้าขายได้มาเปิดเรือขายของอยู่ท่าน้ำ พรานป่าไปดูสิ้นค้าแล้วเห็นเสื้อตัวหนึ่งงดงามถูกใจยิ่งนักจึงต่อรองกับพ่อค้าว่าตนจะนำเอางาช้างมาแลกสินค้า จึงรีบเข้าป่าไปล่าเอางาช้างครั้นพบช้างป่าที่มีงาสวยงามแล้วจึงยิงหน้าไม้เข้าใส่ช้างตกใจวิ่งหนีเตลิดเข้าในป่าลึกไม่นานนักพิศจากลูกศรก็ทำให้ช้างล้มอยู่ใกล้จอมปลวก นายพรานวิ่งตามมาพบว่าช้างตายแล้วจึงขึ้นไปยืนบนจอมปลวกเพื่อตัดเอางาช้างแต่ถูกงูเห่าซึ่งอาศัยใกล้จอมปลวกฉกกัดจนตาย ต่อมาสุนัขจิ้งจอกวิ่งมาเห็นช้างและคนนอนตายใกล้จอมปลวกก็เลยกะว่าจะกินทั้งสองให้อิ่มท้อง แต่เลือกกินสายหน้าไม้ซึ่งเป็นหนังควายจัดสายหน้าไม้ขาดและฟาดจนสุนัขจิ้งจอกตายทันที ต่อมามีเสือโคร่งตัวใหญ่เดินผ่านมาเห็นซากศพ ซากช้าง และสุนัขจิ้งจอก จึงคิดว่าจะกินให้อิ่มและเก็บไว้กินเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมด จึงปีนขึ้นจอมปลวกแล้วยืนทับรูงูเห่า งูเห่าโกรธแค้นเป็นอย่างมากจึงฉกกัดเสือโครงจนตายแล้วร่ายก็ทับรูงูเห่านั้น ฝ่ายเจ้างูเห่าไม่มีหนทางออกจากรูกะตายในรูตัวเองเพราะอดอาหาร ต่อมามีกาสองตัวบินมาพบซากศพ และซากสัตว์ตายนอนรวมกันจึงโผลงมาจิกกินเนื้อ กาตัวหนึ่งเจาะเข้าไปในท้องซากช้างแล้วกินเครื่องในช้างจนเวลาบ่ายแดดจัดหนังช้างที่เจาะเข้ามาก็แห้ง กาไม่สามารถบินออกมาได้จึงตายอยู่ในตัวช้าง สอนว่าอย่าเห็นแก่ได้มากจนเกิดความประมาท
๘) เรื่อง หญิงกล่าวเท็จ ๑ กล่าวว่า หญิงนางหนึ่งเดินทางไปอาบน้ำที่ท่าน้ำเห็นเรือของกษัตริย์พายผ่านมาก็ตกใจรีบขึ้นจากท่าน้ำไปบอกชาวบ้านว่าตนได้พบพญานาคขอให้รีบออกมาดูเถิด แล้วแล้วชาวบ้านก็วิ่งตามหญิงนางนั้นไปที่ท่าน้ำจึงได้พบขบวนเรือของกษัตริย์จึงพากันรุมด่าว่าโกหกหลอกลวง
๙) เรื่อง หญิงกล่าวเท็จ ๒ กล่าวว่า หญิงนางหนึ่งไปเก็บผักในสวนเหลือบไปเห็นวัวของชาวบ้านที่ล่ามไว้ใกล้สวนผักเกิดตกใจอย่างแรงสติวิปลาสเข้าใจว่าเป็นเสือจึงรีบวิ่งเข้าไปในหมู่บ้านบอกว่าเสือเข้ามาที่สวนผัก ชาวบ้านพากันเอาอาวุธออกมาสวนผักหมายจะฆ่าเสือให้ตายแต่ก็พบเพียงวัวยืนกินหญ้าจึงรู้ว่าพวกตนถูดหลอกแล้วจึงรุมด่าทอ
๑๐) เรื่อง หญิงดี กล่าวว่า ชายหญิงคู่หนึ่งอยู่กินด้วยกันแล้วฝ่ายชายจึงเข้าป่าหาเผือกมันและฟืนเพื่อประทังชีวิต ต่อมาหญิงนางนั้นเกิดตั้งครรภ์ฝ่ายชายก็เข้าป่าหาเผือกมันเช่นเดิมแต่ได้พบกับหญิงหม้ายที่เข้าป่าหาเผือกมันเช่นกันจึงลักลอบคบชู้กัน ฝ่ายภรรยาท้องแก่เห็นว่าเผือกมันลดลงทุกวัน ซึ่งความจริงแล้วสามีตนจะเข้าไปในป่าเพื่อพบกับหญิงหม้ายแล้วหาเผือกมันได้เท่าใดก็ยกให้หญิงหม้ายมากกว่าตน จนภรรยาจับได้เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันสามีจึงหนีจากบ้านเพื่อไปอยู่กับหญิงหม้าย ฝ่ายภรรยาให้กำเกิดบุตรีแล้วก็เพียรเลี้ยงดูจนลูกโตใหญ่ได้หลายขวบจึงบอกลูกให้รออยู่บ้านแม่จะเข้าป่าหาเผือกมัน ฝ่ายแม่เมื่อเดินเข้าป่าก็ไปพบยักษ์เฝ้าสมบัติหมายจับจับกินนางจึงบอกว่าขอให้นางได้กลับไปให้นมลูกก่อนเถิดวันพรุ่งนี้จะเดินมาให้กิน ยักษ์เชื่อคำจึงปล่อยไป เมื่อกลับมาถึงบ้านจึงป้อนนมลูกแล้วบอกลูกรักษาตัวให้ดีเมียจะต้องเดินทางไปให้ยักษ์กินตามสัญญาในวันพรุ่งนี้ ครั้นถึงวันรุ่งขึ้นแม่จึงออกจากบ้านและลูกสาวก็ขอติดตามด้วยพอถึงที่ยักษ์ร้ายอาศัยอยู่ก็เข้าไปบอกยักษ์ว่าให้กินตนแทนแม่ยักษ์ซาบซึ้งในน้ำใจของหญิงผู้เป็นแม่ที่รักษา
เขียนใน
GotoKnow
โดย
พิมล มองจันทร์
ใน
ภูมิปัญญาอีสาน
คำสำคัญ (Tags):
#อีสาน
หมายเลขบันทึก: 459395
เขียนเมื่อ 9 กันยายน 2011 04:17 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 18:35 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
พิมล มองจันทร์
สมุด
ภูมิปัญญาอีสาน
อุปขยานจากเรื่องท...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท