ขอบคุณแม่ไก่ที่ให้ทั้งไข่และลูกเจี๊ยบ


เลี้ยงไก่ทำให้ใจเราผ่อนคลาย และเกิดความเมตตาได้อย่างมากมาย

          จุดเริ่มต้นในการเลี้ยงไก่(อีกครั้ง) ของบ้านครูนกคือ พระในวัดบอกว่าไก่ที่วัดเยอะมาก แล้วชอบตีกัน ดังนั้นจึงยกให้แม่ครูนก  ได้ไก่ตัวผู้มาหนึ่งตัวด้วยความเกรงว่าไก่จะเหงา น้องชายเลยซื้อไก่ตัวเมียให้สองตัว เราพร้อมใจเรียกว่า คุณดี้กับคุณเรยา (ตามละครโด่งดังในยุคสมัยนั้น)  แล้ววันหนึ่งคุณดี้กับคุณเรยาก็เริ่มไข่ จนบ้านเรามีไข่มากมาย  ต้องแจกไปสู่เพื่อนๆของแม่ ในที่สุดแม่ตัดสินใจว่า จะให้คุณเรยากับคุณดี้ได้ฟักไข่บ้าง หากโตขึ้นจะทำเล้าไก่ในสวนให้  ปรากฏว่าเรื่องราวไม่ได้ราบรื่นไปตามที่เราคิดคุณดี้กับคุณเรยาแย่งกันฟักไข่ในสถานที่เดียวกัน       แต่คุณเรยาก็ชนะ แต่คุณดี้ก็ไม่ยอมแพ้ยังคอยระรานเมื่อมีโอกาส ในที่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาครูนกได้เห็นเจ้าเจี๊ยบตัวแรกของคุณเรยา
         คุณเรยารักลูกมากๆ คอยดูแลไม่ให้คุณดี้ที่ชอบฉวยโอกาสจิกตีเจ้าเจี๊ยบ เป็นภาพที่น่ารัก แต่เจ้าเจี๊ยบก็ฉลาดในการเอาตัวรอด
         วันอาทิตย์ขณะที่ครูนกทำงานบ้านอยู่ใกล้ๆ กับกรงไก่ จะเห็นภาพเจ้าเจี๊ยบกับแม่ไก่ที่แสดงความผูกพันกันอย่างมากมายทำให้คิดถึงเพลงกล่อมเด็ก หรือบทท่องจำในวัยเด็ก
                    กุ๊ก กุ๊ก ไก่ เลี้ยงลูกมาจนใหญ่
                    ไม่มีนมให้ลูกกิน ลูกร้องเจี๊ยบ ๆ
                    แม่ก็เลียบคุ้ยดิน ทำมาหากิน
                     ตามประสาไก่เอย
           ตอนนี้สิ่งที่รอคอยคือ รอคุณดี้กับคุณเรยาฟักเพิ่มเติมเพื่อจะได้เป็นครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่น เจ้าเจี๊ยบจะได้มีพี่น้องร่วมเจี๊ยบๆ อย่างมีความสุข ในฐานะคนเฝ้ามองรู้สึกสบายใจ  และรู้สึกเมตตาต่อสิ่งมีชีวิตอื่นได้เพิ่มขึ้นอย่างน่ารื่นรมย์ ตอนนี้มีเพื่อนๆ บ้านเริ่มสนใจหันกลับมาเลี้ยงไก่เพื่อคุณค่าหลายๆอย่างในชีวิต

คำสำคัญ (Tags): #การเลี้ยงไก่
หมายเลขบันทึก: 458710เขียนเมื่อ 5 กันยายน 2011 19:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 ตุลาคม 2013 21:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

ขอบคุณน่ะค่ะ ที่ช่วยกันอนุรักษ์ วิถีไทยๆ บ้านสมัยเก่า ต้องมีไก่เดินทั่วบ้าน

ที่บ้านสวนต้องกั้นคอกให้ต้นไม้ค่ะ เพื่ออิสระของกุ๊กไก่ อิอิ...:)

อะไรเอ่ย

กินเท่าไหรก็ไม่หายยาก

แต่พอกินมากเจ็บจมูก

ใช้ตีนป้อนลูก

ใช้จมูกป้อนปาก" (มีสี่ตำตอบครับ)

ระวังหน่อยนะครับ เจ้าตัวนี้คอยจ้องๆมองๆ อยู่เสมอเลย


กึ๋ย เจออาจารย์โสภณ พร้อมปริศนา :-) . . ชื่นชมที่คุณครู สังเกตพฤติกรรม และนำมาถ่ายทอดผ่านเรื่องเล่าน่ารักนี้คะ

ไม่มีนมให้ลูกกิน ลูกร้องเจี๊ยบ ๆ
                    แม่ก็เลียบคุ้ยดิน ทำมาหากิน 


 

มาเฉลยปริศนาอย่าให้คิดนาน จะพาลเครียด ต้องใช้ยาธาตุบำรุงสมองตราควายบิน ของวินทร์ มาช่วยขับ

กินเท่าไหรก็ไม่หายยาก คือไฟ

แต่พอกินมากเจ็บจมูก คือหมู

ใช้ตีนป้อนลูก คือไก่(ไม่มีนมให้ลูกกิน ลูกร้องเจี๊ยบ ๆ

แม่ก็เลียบคุ้ยดิน ทำมาหากิน ) คุณหมอทาเฉลยให้แล้ว

ใช้จมูกป้อนปาก คือช้าง

สวัสดีค่ะ คุณหนูรี

ใช่เมื่อเห็นภาพไก่เดินรอบบ้าน...รู้สึกบรรยากาศเก่าๆ ย้อนกลับมา สมัยเด็กๆ ครูนกอยู่กับตาและยาย บริเวณจะกว้างกว่าตอนนี้เลี้ยงไก่แจ้คู่หนึ่ง เคยมีเล้าแบบคอนโดสองชั้นข้างบนไก่อยู่ ข้างล่างเป็ดอยู่ สนุกดีค่ะบรรยากาศแบบนั่น

สวัสดีค่ะหัวเช้าค่ะบังวอญ่า

ปริศนาคำทายยากนะค่ะ ครูนกก๊ะตอบได้นิดหนึ่ง "กินมากเจ็บมูก" แม่หมูเลยชอบดุ้น ขอบคุณนะค่ะมาอะไรเอ่ย...ได้เข้าบรรยากาศมากค่ะ

สวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์โสภณ

สัตว์ในภาพนี้แถบบ้านครูนกไม่มีแล้ว หรือต้องเข้าไปในแถบสวนยางพาราลึกๆ ...สงสัยพบได้มากแถวสภาฯ ค่ะ

สวัสดีค่ะ อาจารย์CMU pal

ธรรมชาติรอบๆ ตัวเรา หากสังเกตจะพบอะไรๆน่ารักหลายอย่างค่ะ ขอบคุณค่ะที่แวะมาให้กำลังใจกันค่ะ

สวัสดีครับครูนก

แรกวา รอรถหน้าอำเภอหาดใหญ่ นึกๆเหมือนอี้เดินเข้าไป รร ญว. แต่ไม่แน่ใจว่าครูนกสอนที่ญว. นี้หรือไม่

สวัสดีค่ะ ท่านวอญ๋า

วันหลังแวะมาเลยนะค่ะ....โรงเรียน ญส. โดยปกติถ้าไม่ไปราชการที่ไหนครูนกก็จะอยู่ที่โรงเรียน...เจอใครๆ ถามหา ครูนกได้เลยค่ะ....มาแวะทานกาแฟสักแก้วก็ดี...เชิญไว้ล่วงหน้าเลยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท