ขอบคุณน่ะค่ะ ที่ช่วยกันอนุรักษ์ วิถีไทยๆ บ้านสมัยเก่า ต้องมีไก่เดินทั่วบ้าน
ที่บ้านสวนต้องกั้นคอกให้ต้นไม้ค่ะ เพื่ออิสระของกุ๊กไก่ อิอิ...:)
อะไรเอ่ย
กินเท่าไหรก็ไม่หายยาก
แต่พอกินมากเจ็บจมูก
ใช้ตีนป้อนลูก
ใช้จมูกป้อนปาก" (มีสี่ตำตอบครับ)
ระวังหน่อยนะครับ เจ้าตัวนี้คอยจ้องๆมองๆ อยู่เสมอเลย
กึ๋ย เจออาจารย์โสภณ พร้อมปริศนา :-) . . ชื่นชมที่คุณครู สังเกตพฤติกรรม และนำมาถ่ายทอดผ่านเรื่องเล่าน่ารักนี้คะ
ไม่มีนมให้ลูกกิน ลูกร้องเจี๊ยบ ๆ
แม่ก็เลียบคุ้ยดิน ทำมาหากิน
มาเฉลยปริศนาอย่าให้คิดนาน จะพาลเครียด ต้องใช้ยาธาตุบำรุงสมองตราควายบิน ของวินทร์ มาช่วยขับ
กินเท่าไหรก็ไม่หายยาก คือไฟ
แต่พอกินมากเจ็บจมูก คือหมู
ใช้ตีนป้อนลูก คือไก่(ไม่มีนมให้ลูกกิน ลูกร้องเจี๊ยบ ๆ
แม่ก็เลียบคุ้ยดิน ทำมาหากิน ) คุณหมอทาเฉลยให้แล้ว
ใช้จมูกป้อนปาก คือช้าง
สวัสดีค่ะ คุณหนูรี
ใช่เมื่อเห็นภาพไก่เดินรอบบ้าน...รู้สึกบรรยากาศเก่าๆ ย้อนกลับมา สมัยเด็กๆ ครูนกอยู่กับตาและยาย บริเวณจะกว้างกว่าตอนนี้เลี้ยงไก่แจ้คู่หนึ่ง เคยมีเล้าแบบคอนโดสองชั้นข้างบนไก่อยู่ ข้างล่างเป็ดอยู่ สนุกดีค่ะบรรยากาศแบบนั่น
สวัสดีค่ะหัวเช้าค่ะบังวอญ่า
ปริศนาคำทายยากนะค่ะ ครูนกก๊ะตอบได้นิดหนึ่ง "กินมากเจ็บมูก" แม่หมูเลยชอบดุ้น ขอบคุณนะค่ะมาอะไรเอ่ย...ได้เข้าบรรยากาศมากค่ะ
สวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์โสภณ
สัตว์ในภาพนี้แถบบ้านครูนกไม่มีแล้ว หรือต้องเข้าไปในแถบสวนยางพาราลึกๆ ...สงสัยพบได้มากแถวสภาฯ ค่ะ
สวัสดีค่ะ อาจารย์CMU pal
ธรรมชาติรอบๆ ตัวเรา หากสังเกตจะพบอะไรๆน่ารักหลายอย่างค่ะ ขอบคุณค่ะที่แวะมาให้กำลังใจกันค่ะ
สวัสดีครับครูนก
แรกวา รอรถหน้าอำเภอหาดใหญ่ นึกๆเหมือนอี้เดินเข้าไป รร ญว. แต่ไม่แน่ใจว่าครูนกสอนที่ญว. นี้หรือไม่
สวัสดีค่ะ ท่านวอญ๋า
วันหลังแวะมาเลยนะค่ะ....โรงเรียน ญส. โดยปกติถ้าไม่ไปราชการที่ไหนครูนกก็จะอยู่ที่โรงเรียน...เจอใครๆ ถามหา ครูนกได้เลยค่ะ....มาแวะทานกาแฟสักแก้วก็ดี...เชิญไว้ล่วงหน้าเลยค่ะ