การจัดการความรู้จังหวัดชุมพร
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔
ประเด็นยุทธศาสตร์ : พัฒนาระบบการตลาดและสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ
เกษตรกรต้นแบบ
การรับรองมาตรฐาน GAP
สำนักงานเกษตรอำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร
ข้อมูลเกษตรกรเจ้าของแปลง
ชื่อ-สกุล นางสมคิด วรรณจิตต์ อายุ 44 ปี
ที่อยู่ เลขที่ 84 หมู่ที่ 4 ตำบลปังหวาน อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร
หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 3 8606 00094 79 8
ชนิดพืชที่ผ่านการรับรอง GAP กาแฟ
ขนาดพื้นที่ปลูก 5 ไร่
ประวัติและประสบการณ์ของเกษตรกรในการทำการเกษตรตามระบบส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและได้มาตรฐาน GAP
นางสมคิด วรรณจิตต์ เป็นเกษตรกรที่ขยันขันแข็งมีคามตั้งใจในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม เป็นผู้ศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ มาพัฒนาเพื่อที่จะให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตามความต้องการของตลาด แต่ประสบปัญหา เรื่อง การดูแลรักษาพืชผลปัจจัยการผลิตราคาสูง และที่สำคัญด้านการตลาดราคาผลผลิตที่จ่ายได้ไม่คุ้มต้นทุน นอกจากนั้นฤดูการผลิต สภาพอากาศ ปริมาณน้ำฝน และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตได้แปรเปลี่ยนไปมาก ยากแก่การควบคุมคุณภาพผลผลิตให้มีคุณภาพ โดยเฉพาะในฤดูกาลผลิตกาแฟ ปี 2554 กาแฟออกดอกได้สมบูรณ์มาก แต่ระยะดอกบานช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ฝนตกชุกมากส่งผลให้กาแฟติดผลประมาณ 40% ของผลผลิตทั้งหมด
ประสบการณ์ของเกษตรกร
ปี พ.ศ. |
ชนิดพืชที่ปลูก |
การเข้าสู่ระบบ GAP |
สภาพการณ์การผลิต |
2529-2541 |
กาแฟแซมทุเรียน |
- |
ราคากาแฟตกต่ำมากโค่นกาแฟไว้เฉพาะทุเรียน |
2542 |
ทุเรียนหมอนทอง (70 ต้น) |
- |
ทำทะวายตายทั้งแปลง |
2542 |
กาแฟ (เบอร์ 027) เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ 500 ต้น |
- |
- |
2553 |
ปลูกทุเรียนแซมกาแฟ |
เตรียมความพร้อม GAP |
ผลผลิตกาแฟเมล็ดเล็ก |
2554 |
ปลูกทุเรียนแซมกาแฟ |
สู่ระบบรับรองมาตรฐาน GAP |
ปฏิบัติตามระบบจัดการคุณภาพพืช (GAP) |
นอกจากนั้น นางสมคิด วรรณจิตต์ ได้สร้างบ้านอยู่ในแปลงปลูกกาแฟทำให้มีเวลาบำรุงรักษาสวนกาแฟตามระบบการจัดการคุณภาพพืชเป็นอย่างดี แต่ผลผลิตกาแฟในฤดูกาลผลิต ปี 2554/2555 ให้ผลผลิตเพียง 40% และเมล็ดกาแฟมีขนาดเล็กทำให้ขาดกำลังใจ แต่ทั้งนี้ได้ปลูกทุเรียนแซมในสวนกาแฟไว้แล้ว และมีการเลี้ยงไก่พื้นบ้าน (ไก่ชน) เพื่อจำหน่าย นำมูลไก่ ทำปุ๋ยหมัก ปลูกผักสวนครัว และเลี้ยงปลาในบริเวณสวนกาแฟ เพื่อสนับสนุนระบบ GAP และเสริมรายได้แก่ครอบครัว
องค์ความรู้ที่เกษตรกรใช้ในการทำการเกษตรตามระบบ GAP
1. แหล่งน้ำ
แหล่งน้ำที่ใช้ มี 3 ประเภท
1.1 น้ำห้วยเป็นแหล่งธรรมชาติมีลักกษณะสภาพแวดล้อมที่ดีไม่มีสารปนเปื้อน
1.2 น้ำฝน
1.3 น้ำจากบ่อเลี้ยงปลา
2. พื้นที่ปลูก
พื้นที่ปลูก จำนวน 5 ไร่ สภาพพื้นที่เป็นเนินดิน มีพื้นราบหลังเนินล้อมรอบด้วยภูเขา มีลำห้วยน้ำไหลผ่านทั้งปี สภาพพื้นที่เหมาะสมเพื่อทำการเกษตร ลักษณะดินเป็นดินร่วนและมีดินลูกรังอยู่บ้างบางส่วนของพื้นที่
3. การใช้วัตถุอันทรายในการทำการเกษตร
วัตถุอันตราย ไม่ใช้ เพราะในแปลงปลูกกาแฟมีการเลี้ยงไก่พื้นเมือง (ไก่ชน) เพื่อจำหน่าย ใช้ตาข่ายล้อมรอบแปลงกาแฟเป็นจุด ๆ จุดละ 1-2 งาน เพื่อเลี้ยงไก่และจัดทำโรงเรือนให้ไก่ได้พักในแปลงกาแฟ
4. การเก็บรักษาและการขนย้ายผลิตผลภายในแปลง
ผลผลิตกาแฟ เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วที่ผ่านมานำผลผลิตตากในบริเวณบ้านซึ่งอยู่ในแปลงกาแฟไม่ได้ขนย้ายออกนอกแปลง การขนย้ายทำด้วยความระมัดระวัง
5. การบันทึกข้อมูล
การบันทึกข้อมูลที่ผ่านมาเกษตรกรจะไม่บันทึกข้อมูลจะใช้การจำข้อมูลการปฏิบัติงานในแปลง พอพูดคุยกับเกษตรกรจะจำไม่ได้ สับสน ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้เกษตรกรใช้การ
บันทึกข้อมูลที่ปฏิบัติงานในแปลงทุกครั้ง และเป็นปัจจุบันและให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อการผลิตและการตลาด
6. การผลิตให้ปลอดจากศัตรูพืช
การผลิตกาแฟไม่ใช้สารเคมีเนื่องจากที่อยู่อาศัยอยู่ในแปลงกาแฟ และมีการเลี้ยงไก่พื้นเมือง (ไก่ชน) ในแปลงกาแฟด้วย การผลิตให้ปลอดจากศัตรูพืชที่มีอยู่ในธรรมชาติเป็นตัวควบคุมศัตรูพืช นอกจากนั้นมีการจัดการแปลงกาแฟให้สะอาด ทำลายที่อาศัยของศัตรูพืช โดยเฉพาะมอดกาแฟ ทำให้ผลผลิตปลอดศัตรูพืชได้ส่วนหนึ่ง
7. การจัดกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้ผลผลิตคุณภาพ
การจัดการกระบวนการผลิตกาแฟ ได้ดำเนินการตามแผนควบคุมการผลิตหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิต ให้ดำเนินการตัดแต่งกิ่ง
7.1 ทำความสะอาดแปลง กำจัดกิ่งแห้ง เพื่อกำจัดที่อยู่อาศัยของมอด
7.2 ใส่ปุ๋ย โดยการใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ผสมปุ๋ยสูตร 46-0-0 อัตรา 1:1 ควบคู่กับปุ๋ยอินทรีย์ตามความเหมาะสมของต้นกาแฟ โดยแบ่งใน 2 ครั้ง ต้นฝนและปลายฝน
7.3 การให้น้ำ มีการให้สม่ำเสมอ โดยระบบสปริงเกอร์ และระมัดระวังการให้น้ำในระยะกาแฟดอกบานจะต้องไม่ให้น้ำไปถูกดอกกาแฟ
7.4 การป้องกันกำจัดแมลงกาแฟ โดยใช้ศรัตรูธรรมชาติช่วยในการป้องกันกำจัดประกอบการตรวจแปลงกาแฟอย่างสม่ำเสมอ ศัตรูที่สำคัญมอดเจาะผลกาแฟกัดกินภายในผลกาแฟตั้งแต่เริ่มสุข เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ
8. การเก็บเกี่ยวและการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว
การเก็บเกี่ยว กาแฟที่ปลูกเบอร์ 027 เป็นพันธุ์กาแฟเพาะเนื้อเยื้อ มีผลขนาดเล็กข้อถี่ เป็นพันธุ์กาแฟที่สุกเร็ว ซึ่งขณะนี้ วันที่ 25 กรกฎาคม 2554 ผลผลิตกาแฟเริ่มสุกบ้างแล้วและมีมอดเข้าทำลาย ฉะนั้นจะต้องทยอยเก็บผลผลิตกาแฟที่มีสีแดง สีเหลือง ออกจากต้น การเก็บเกี่ยวทำได้ไม่ยาก เพราะกาแฟมีอายุ 3 ปี ต้นกาแฟมีขนาดไม่สูงมาก ปัญหาที่ผลกาแฟมีขนาดเล็กมาก ผลผลิตไม่ดกติดผลเพียง 40% ของผลผลิตทั้งหมด เพราะฝนตกในระยะดอกบาน
การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว ผลผลิตกาแฟหลังการเก็บเกี่ยว เมล็ดกาแฟมีความชื้นสูง มีเศษดิน กิ่งแห้ง ผลแห้ง สิ่งสกปรกต่างๆคละปนมากับเมล็ดกาแฟ สิ่งที่ต้องปฏิบัติ
? คัดแยกผลกาแฟ โดยการนำผลผลิตกาแฟไปลอยน้ำ เพื่อนำสิ่งที่ปะปนออกมาจากเมล็ดกาแฟในขั้นต้นก่อน
? นำกาแฟที่คัดแยกเป็นเมล็ดกาแฟที่สมบูรณ์นำไปตากบนร้านตาก หรือบนลานตากกาแฟ จะไม่หมักกาแฟไว้ในกระสอบหรือรวบรวมไว้
? เมื่อตากเมล็ดกาแฟแห้งได้พอเหมาะพร้อมสีได้ นำเมล็ดกาแฟบรรจุใสกระสอบเก็บไว้ในที่แห้งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เมื่อรวบรวมเมล็ดกาแฟแห้งได้ 300-500 กิโลกรัม พร้อมตรวจสอบราคากาแฟที่พอขายได้จะนำไปโรงสี เมื่อสีกาแฟเสร็จแล้วนำไปจำหน่ายให้ผู้ค้ากาแฟในท้องถิ่นในวันเดียวกัน
9. หลังได้รับรองมาตรฐาน GAP มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
มีความคิด ความตั้งใจ เพื่อพัฒนาคุณภาพผลผลิตกาแฟให้ดีที่สุดตามศักยภาพ
10. ระบบ GAP ดีอย่างไรในความรู้สกของเกษตรกร
1) มีความรู้ในกระบวนการผลิต ทำให้ผลผลิตกาแฟมีคุณภาพ
2) การจดบันทึก ช่วยให้สามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้
3) ช่วยให้กาแฟที่ปลูกในแปลงมีความสมบูรณ์ มีอายุการให้ผลผลิตได้ยาวนาน
4) มีเจ้าหน้าที่เกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเยี่ยม เพื่อให้ความรู้ด้านการผลิต และการตลาด
11. ท่านได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเกษตรกรรายอื่นอย่างไรบ่าง
ได้มีการพูดคุยกับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ เรื่องพันธุ์กาแฟที่ปลูกเป็นกาแฟเบอร์ 027 เพาะเลี้ยงเนื้อเยื้อ ซื้อจากบริษัทควอลิตี้คอฟฟี่ โปรดักท์ จำกัด มีปัญหาเมล็ดเล็ก นอกจากนั้นได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการป้องกันกำจัดมอดกาแฟ การลดต้นทุนการผลิต การพัฒนาคุณภาพผลผลิตกาแฟ และเรื่องการตลาด