7 วิธี การบริหารสมอง


7 วิธี การบริหารสมอง

"7 วิธี การบริหารสมอง"

การบริหารสมองแบบง่าย ๆ เพียงแค่ 7 วิธีเท่านั้นนะค่ะก็จะช่วยให้สมองของคุณกระตุ้นและทำงานได้เร็วยึ่งขึ้น นอกจากนั้นยังไม่พอ การบริหารสมอง ยังจะช่วยให้ความจำของคุณกลับมาดีขึ้นได้อีกด้วยค่ะ แม้ว่าคุณะจะมีอายุที่มาขึ้นในทุก ๆ ปี แต่สมองของคุณก็ยังสามารถทำงานเป็นปกติดังเดิมได้ด้วย 7 วิธี การบริหารสมอง ที่ดิฉันนำมาฝากค่ะ


1. ท่องไปในโลกอินเตอร์เน็ต

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยยูซีแอลเอ กล่าวว่า การค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนกลางที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจและเหตุผล การตัดสินใจเลือกคลิกเข้าไปในข้อมูลกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนนี้ได้มากกว่าการอ่านหนังสือ

ผลจากการศึกษาพบว่า การค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตทำให้วงจรระบบประสาทเกิดการทำงานซึ่งจะไม่เกิดขึ้นเมื่อเราอ่านหนังสือ จากการสแกนสมองด้วยวิธีเอ็มอาร์ไอ (MRI) พบว่าวงจรประสาทของผู้ที่ค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเป็นประจำนั้นทำงานมากกว่าผู้ที่เพิ่งเข้ามาท่องอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งแรกมากถึง 3 เท่า นั่นทำให้เชื่อว่าการท่องอินเทอร์เน็ตเป็นประจำเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเสริม สร้างการทำงานของสมองให้แข็งแกร่งขึ้นได้แม้วัยจะล่วงเลย

Tips
ใช้เวลาท่องอินเทอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูลที่เราอยากรู้วันละประมาณ 20 นาที 2-3 วันต่อสัปดาห์ ไม่จำเป็นต้องค้นคว้าข้อมูลที่มีสาระจริงจังอาจเพียงแค่ค้นหาข่าวคราวของดาราคนโปรดหรือหาข้อมูลเกี่ยวกับเพลงที่ไม่ได้ฟังมานานแล้ว หรือเล่นเฟสบุ๊คที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ (แต่อย่าเล่นนานจนเกินไปนะค่ะ)สมองก็ได้รับประโยชน์ไม่ต่างจากการค้นคว้าข้อมูลอื่น ๆ


2. ออกกำลังกาย 

การออกกำลังกายช่วยป้องกันและชะลอการเป็นโรคจิตเสื่อม ซึ่งเป็นโรคที่มีผลต่อความสามารถในการคิด ความจำ และความประพฤติ การออกกำลังกายช่วยต้านความเสื่อมของสมองอันเป็นผลจากการที่คนเราอายุมากขึ้น

นักวิจัยได้นำผลการศึกษาจำนวนมากกลับมาวิเคราะห์ใหม่ทำให้พบข้อมูลว่า การออกกำลังกายด้วยการแอโรบิคไม่เพียงแต่กระตุ้นให้สมองทำงานอย่างรวดเร็วและมีความคิดที่แหลมคมเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มปริมาณของเนื้อเยื่อในสมองด้วย

Tips : เพียงออกเดินอย่างกระฉับกระเฉงวันละประมาณ 50 นาที 3 วันต่อสัปดาห์ ก็ช่วยให้สมองขยายตัวขึ้นได้ ยิ่งไปกว่านั้นการเดินในสวนสาธารณะจะช่วยเสริมสร้างสมองได้ดีกว่าการเดินในเมืองที่พลุกพล่าน เรื่องนี้นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนได้ศึกษากลุ่มตัวอย่างที่เป็นอาสาสมัคร พบว่าอาสาสมัครกลุ่มที่เดินผ่านสวนสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้มีความจำที่ดีกว่าและสามารถทำข้อสอบได้ดีกว่ากลุ่มอาสาสมัครที่เดินผ่านตัวเมืองถึง 20%


3. แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟัน


เป็นที่ชัดเจนว่าสุขภาพช่องปากที่ดีนั้นเกี่ยวข้องกับการมีกระบวนการคิดที่ดีของสมอง สอดคล้องกับผลการศึกษาของกลุ่มจิตแพทย์และทันตแพทย์ชาวอังกฤษที่ได้ศึกษากลุ่มคนอายุ 20 ถึง 59 ปี จำนวนหลายพันคน พบว่าโรคเหงือกอักเสบและโรคในช่องปากต่าง ๆ มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการคิดที่แย่ลงไปจนตลอดชีวิตของคนคนนั้น ไม่ใช่มีผลแค่เพียงไม่กี่ปีหรือเฉพาะในช่วงที่เป็นโรคเท่านั้น

Tipsปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน ใช้เวลาแปรงฟันอย่างน้อยครั้งละ 2 นาทีทุกวัน

 

4. ดื่มไม่เกินวันละแก้ว


ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่ปลอดภัย ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินกว่าวันละ 1 แก้ว เพราะหากดื่มแอลกอฮลล์มากขึ้นเท่าใด สมองก็ถูกทำลายมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ผลการศึกษาล่าสุดจากวิทยาลัยเวลเลสเลย์ พบว่าการดื่มแอลกอฮอลล์มีความเกี่ยวข้องกับปริมาณของสมองที่ลดลง และมีผลเสียต่อผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย นั่นอาจเพราะแอลกอฮอล์มีผลกระทบต่อคนที่ตัวเล็กกว่าได้มากกว่าคนตัวใหญ่

Tips : ถ้าคุณชอบดื่มไวน์หลังอาหาร ชอบดื่มเบียร์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่น ๆ และไม่สามารถเลิกได้ แนะนำว่าหลังจากดื่มแอลกอฮอล์แล้วควรดื่มน้ำเปล่าแก้วใหญ่ตามลงไป น้ำจะไปช่วยเจือจางแอลกอฮอล์และลดผลกระทบของแอลกอฮอล์ที่มีต่อร่างกายลงได้


5. กินผัก ผลไม้สีม่วง

พืชสีม่วง อาทิ ดอกอัญชัน กะหล่ำม่วง มะเขือม่วง แบล็กเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ มีสารแอนโทไซยานิน นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าสารตัวนี้ช่วยต่อต้านสารก่อมะเร็งและสารแอนโทไซยานินนี้ยังออกฤทธิ์ทางขยายเส้นเลือด ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและอัมพาตด้วย

มีผลการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า บลูเบอร์รี่ช่วยให้กระบวนการคิดแหลมคมขึ้น ฃนักวิจัยอธิบายว่า การที่สารแอนโทไซยานินซึ่งเป็นสารสีม่วงเข้มที่พบมากในผักผลไม้ที่มีสีม่วงมีผลต่อการคิดที่ดีขึ้น ได้นั้นเนื่องจากสารแอนโทไซยานินประกอบด้วยสารเคมีที่สามารถเดินทางผ่านเส้นเลือด เลือดในสมองเข้าไปในพื้นที่ของสมองส่วนที่ควบคุมเกี่ยวกับการเรียนรู้และความจำได้

Tipsเติมบลูเบอร์รี่ลงในโยเกิร์ต หรือนำมาปั่นเป็นน้ำสมูธตี้ ใส่ผักใบสีม่วง มะเขือม่วง หรือดอกอัญชัญลงในจานสลัด


6. เล่นเกมสมองอ่อนกว่าวัย

คุณอาจไม่เชื่อว่าการเล่นโซโดกุช่วยลดอายุของสมองลงได้เป็นสิบปีเลยล่ะ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอลาบามาได้ศึกษาชายหญิงสูงอายุจำนวน 3,000 คน พบว่า กลุ่มผู้สูงอายุที่เล่นเกมต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นสมองอยู่เสมอ เช่น โซโดกุ ปริศนาอักษรไขว้ หมากรุก ฯลฯ และเล่นแต่ละครั้งนานตั้งแต่ 60 นาทีจนถึง 75 นาที นั้นมีสุขภาพจิตที่ดีมาก และสมองของพวกเขามีลักษณะคล้ายสมองของคนที่มีอายุอ่อนกว่าตัวเองถึง 10 ปี

Tipsเริ่มจากเกมง่าย ๆ ก่อน ฝึกเล่นระหว่างที่รอรถเมล์ รอรถไฟ หรือรอคิวที่ธนาคาร เมื่อเริ่มเก่งแล้วจึงหาเกมที่ท้าทายยิ่งขึ้น หรือหาเกมใหม่ ๆ มาเล่นอยู่เสมอ


7. ฝึกสมาธิ


การทำสมาธิไม่เพียงช่วยผ่อนคลายความเครียดเท่านั้นแต่ยังช่วยชะลอความชราได้อีกด้วย ผลการศึกษาของโรงพยาบาลแมสซาชูเซสส์ในเมืองบอสตัน พบว่ากลุ่มคนที่ทำสมาธิเป็นประจำเปลือกสมองมีการพัฒนา ซึ่งเปลือกสมองนี้เป็นสมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความจำ ภาษา และประสาทสัมผัส

นอกจากนี้มหาวิทยาลัยเคนตัคกี้ได้ศึกษาพบว่ากลุ่มคนที่ทำสมาธิเป็นประจำทำแบบทดสอบความฉลาดทางจิตใจได้ดี กว่ากลุ่มคนที่ไม่ได้ทำสมาธิ

Tipsฝึกสมาธิให้เป็นนิสัยจากการศึกษาพบว่า การทำสมาธิประมาณ 40 นาทีต่อวันมีประโยชน์ต่อสมอง แต่เราอาจไม่ต้องทำสมาธิทีเดียว 40 นาทีก็ได้ อาจทำสมาธิครั้งละ 15 นาที ตอนพักเที่ยง ก่อนเลิกงาน หรือก่อนนอน เทคนิคการทำสมาธิแบบง่าย ๆ คือ เพียงนั่งหลังตรง หลับตา ไม่ว่าจะได้ยินเสียงนกร้องหรือเสียงลมหายใจของเราเองก็เพียงแต่รับรู้และทำจิตใจให้อยู่กับปัจจุบันขณะ

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีที่ทุกคนก็สามารถทำได้เพื่อกระตุ้นสมองให้หนุ่มสาวกระฉับกระเฉงและแหลมคมอยู่เสมอลองทำดูนะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก momypedia

หมายเลขบันทึก: 458459เขียนเมื่อ 4 กันยายน 2011 20:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 19:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท