ส่วนใหญ่แล้วคงเคยได้ยินแต่ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือ ส.ส.ท. กัน แต่เร็วๆ นี้เราอาจคุ้นเคยกับ “สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น” หรือ ส.ท.ญ. กันมากขึ้น เนื่องจากทราบข่าวว่าการก่อสร้างสถาบันการศึกษาแห่งใหม่นี้ใกล้เสร็จแล้ว และจะเปิดในเดือนตุลาคม 2550
สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (Thai-Nichi Institute of Technology-TNI) เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่จัดตั้งขึ้นมา เพื่อสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยี ป้อนให้แก่สถานประกอบการภาคอุตสาหกรรมของไทย มีการเรียนการสอนทั้งในระดับปริญญาตรี-โท ในหลักสูตรที่เน้นด้านวิศวกรรม เทคโนโลยีอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีการบริหารจัดการเป็นหลัก
ด้วยชื่อของสถาบันฯ แล้ว คงทำให้เป็นที่ยอมรับของภาคอุตสาหกรรมไม่น้อย เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต่างก็อยากได้เด็กรุ่นใหม่ไฟแรงเข้าไปทำงาน แต่อีกใจหนึ่งก็คงอยากได้คนมีประสบการณ์เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการสอนงาน
ปัญหาที่พบในผู้ที่จบ ป.ตรี คือ แก่วิชาแต่ขาดประสบการณ์ ต่างจากสายวิชาชีพที่ผ่านระดับ ปวช. ปวส. ซึ่งไม่ถนัดวิชาการ แต่ทำงานเป็นเลิศ ยังไงก็เสียตรงที่ไม่มี กว.รับรอง หากเด็กรุ่นหลังผ่านการเรียนด้วยประสบการณ์จริง การเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ และระบบคุณภาพต่างๆ ให้สามารถใช้งานได้เลย ก็เป็นที่น่าดึงดูดใจจากผู้ประกอบการไม่น้อย
ในแง่ลักษณะเด่นของหลักสูตรมีความชัดเจน และช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสมกับวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ อย่างแท้จริง แต่ถ้ามองในแง่ของการตลาดแล้ว ถือว่าวางรากฐานได้ดีเพราะบุคลากรที่จบจาก ส.ท.ญ. คงหนีไม่พ้นภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของกิจการอื่นๆ ใน ส.ส.ท. เป็นการหยั่งรากลึกลงไปในองค์กรต่างๆ เสริมสร้างความมั่นคงให้ ส.ส.ท. มากยิ่งขึ้น
สิ่งที่คาดหวังในตอนนี้ คือขอให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมบ้านเรา ไม่ใช่เพียงแต่ผลิตบุคลากรกันออกมามากมาย แต่ขาดจิตสำนึกที่จะช่วยกันพัฒนาประเทศเราให้ก้าวทันและล้ำหน้า มีการคิดนวัตกรรมใหม่ๆ เอง ไม่ใช่รอแต่จะไปลอกเลียนแบบต่างชาติ หรือถูกกลืนกินไปกับวัฒนธรรมองค์กรที่สร้างสมมานมนาน ก่อเกิดเป็นความหมักหมมอยู่อย่างนั้นเช่นเดิม
อยาเข้าสถาบันนี้มากๆค่ะ
ปล.เพลงเพราะมากเลย เพลงอะไรหรอคะ