ระยะนี้อาจจะเป็นช่วงที่ใกล้สิ้นปีงบประมาณ จึงมีงานด่วนที่สุดถึงด่วนที่สุดในโลกเวียนมาปรากฏโฉมอยู่บนโต๊ะไม่เว้นแต่ละวัน ประเภทรับเช้าต้องส่ง E-mail ตอบบ่าย หรือ รับบ่ายต้องตอบเช้าวันรุ่งขึ้นทันที โอกาสที่จะได้ศึกษารายละเอียดหรือหาข้อมูลให้รัดกุมก่อนลงมือทำจึงน้อยมาก ต้องอาศัย "บุญเก่า" คือ สัมพันธภาพที่ดีและไมตรีจิตที่มีต่อกันมาช่วยเอาตัวรอดเป็นประจำ ก็ยังรู้สึกเครียดอยู่บ่อยๆ นะคะ
แต่สิ่งที่ได้รับแล้วซาบซึ้งและตื้นตันใจมากในเช้าวันศุกร์ที่ 18 ส.ค. 2549 คือสิ่งนี้ค่ะ
อยากบอก......ความในใจ
รู้ว่ายุ่ง รู้ว่าเเหนื่อย รู้ว่าเครียด พี่ยังเจียด เวลา มาไต่ถาม
เอาใจใส่ คนรอบข้าง ทุกโมงยาม ช่างแสนงาม น้ำใจดี มิแชเชือน
เพียงเอ่ยปาก ถามไถ่ ใจชุ่มชื่น เพียงหยิบยื่น ความห่วงใย สุขใดเหมือน
เพียงถ้อยคำ เล็กน้อย คอยย้ำเตือน ยิ่งกว่าเพื่อน แต่เป็นพี่ ที่เมตตา
อยากจะบอก อย่ากังวล นะคะพี่ ซาบซึ้งดี พี่ตั้งใจ จะไปหา
แต่เป็นเพราะ ภารกิจ เหลือคณา พรากเวลา เราสองให้ ห่างไกลกัน
แค่สบตา ทักทาย วันละนิด ชุบชีวิต ดวงหทัย แสนสุขสันต์
พี่กับน้อง ส่งพลังใจ ให้แก่กัน ทุกทุกวัน จะเข้มแข็ง แกร่งสู้งาน
ขอขอบคุณ สิ่งดีดี ที่พี่ให้ ทั้งข้อคิด กำลังใจ หลายสถาน
ความรู้สึก ชื่นชมพี่ มีมานาน จากวันวาร จนวันนี้ มิลืมเลือน
เป็นการ์ดสีเขียวที่ปราณีตบรรจงพร้อมแจกันดอกกุหลาบสีแดงที่สวยงาม แต่สิ่งที่เพิ่มค่าความประทับใจและซาบซึ้งใจยิ่งขึ้น คือ ความตั้งใจและความละเมียดละไมของร้อยกรอง รวมทั้งสิ่งที่สัมผัสได้ด้วยใจค่ะ
ขอบคุณมากๆ นะคะ.......ปัทม์.......ที่ช่วยเติมสิ่งดีๆ ให้มีกำลังใจต่อไปค่ะ
สิ่งที่พี่สองคน เหมือนกัน....ก็คือ
เอาใจใส่ คนรอบข้าง ทุกโมงยาม
ช่างแสนงาม น้ำใจดี มิแชเชือ
เพียงเอ่ยปาก ถามไถ่ ใจชุ่มชื่น
เพียงหยิบยื่น ความห่วงใย สุขใดเหมือน
เพียงถ้อยคำ เล็กน้อย คอยย้ำเตือน
ยิ่งกว่าเพื่อน แต่เป็นพี่ ที่เมตตา
ยืนยันความรู้สึกเดิม เป็นกำลังใจให้สำหรับหญิงเก่งในดวงใจค่ะ
ขอขอบพระคุณทุกกำลังใจและข้อเสนอแนะค่ะ