๘. แม่ - โม่ ที่หนึ่ง


"เอาเงินมาให้แม่ทำไม แม่ไม่มีปัญญาเก็บให้หรอก ให้แม่มาแม่ก็ใช้หมด เก็บไว้เถิดเผื่ออนาคตจะได้ใช้"

"โม่.." เป็นภาษากะเหรี่ยง มีความหมายตามภาษาไทย ว่า "แม่" ด้วยความที่ผู้เขียนเป็นกะเหรี่ยง จึงเรียกแม่ว่า "โม่" แม่ของผู้เขียนมีลูกชายหญิงรวมเก้าคน แต่แม่ต้องสูญเสียลูกตั้งแต่แบเบาะไปสองคน (สมัยนั้นวิวัฒนาการด้านการแพทย์เข้าไม่ถึงหมู่บ้านผู้เขียน) แม่จึงเหลือลูกที่เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่เพียงเจ็ดคน

 

ในจำนวนลูกทั้งเจ็ดนั้น ผู้เขียนเป็นคนสุดท้อง และน่าจะเป็นลูกที่สร้างความเหนื่อยหน่าย และหนักใจ ให้แม่เป็นที่สุด เพราะผู้เขียนเป็นเด็กผู้ชายและเป็นลูกคนสุดท้อง จึงเป็นแหล่งรวมของความดื้อ ซน เอาแต่ใจ ฯลฯ

 

ผู้เขียนจำได้ว่าแม่จะเล่าให้ผู้เขียนฟังบ่อยๆ ถึงวีรกรรมในวัยเด็ก ว่า "วัยเด็กผู้เขียนดื้อมาก  ชอบทำเรื่องแผลงๆ ที่คนอื่นไม่ค่อยทำ เช่นไม่ยอมหย่านมแม้จะอายุย่างสองสามขวบ (ทำให้แม่ไปไหนมาไหนไม่สะดวก) ชอบปัสสาวะใส่ผู้เฒ่าผู้แก่ (ทำให้แม่ต้องไปขอขมาคนอื่นอยู่บ่อยๆ) ชอบเรียกร้องความสนใจด้วยการร้องไห้เกรือกกลิ้งไปกับพื้นดิน (อายเขาไหมนั่น)" และอีกหลายๆ เรื่องราวที่มิอาจจดจำได้หมดสิ้น (ต้องให้แม่เล่า)

 

แม้ผู้เขียนจะสร้างวีรกรรมมากมาย แต่ผู้เขียนก็รับรู้ได้ถึงความรักที่แม่มีให้ลูกๆทุกคน โดยเฉพาะตัวผู้เขียน เพราะแม้ฐานะทางบ้านเราจะยากจนถึงขั้นต้องอดมื้อกินมื้อ (บางคราวต้องกินหัวกลอยแทนข้าว) แต่ผู้เขียนก็ไม่เคยอดสักครั้ง (มีแต่แม่ พ่อ และพี่ๆ ที่อด) แม้เราจะไม่มีเสื้อผ้าใหม่ๆ ผ้าห่มหนาๆ มาสวมใส่ในยามหน้าหนาว แต่ผู้เขียนก็มิเคยรู้สึกว่าหนาวเหน็บเพราะได้รับไออุ่นจากอ้อมกอดของแม่เสมอ

 

จำได้บ่อยครั้งที่ผู้เขียนต้องติดตามแม่เพื่อนำพืชผักในไร่ไปขาย/แลกข้าวสารจากคนที่เขามั่งมีกว่าเรา อย่างเหน็จเหนื่อยด้วยการขึ้นบ้านนั้นลงบ้านนี้เพื่อให้ได้ข้าวสารมาให้ลูกๆ ได้กิน แม้จะได้เงินเพียงน้อยนิด แต่แม่ก็อดไม่ได้ที่จะเจียดเศษสตางค์มาซื้อขนมให้ลูกได้กินอย่างเอร็ดอร่อย

 

และทุกครั้งเช่นกันที่แม่กลับจากการหาของป่าในหน้าฝน แม้จะเปียกโชกไปด้วยน้ำฝนและแปดเปื้อนไปด้วยดินโคลน  แต่แม่ก็ไม่เคยลืมที่จะเก็บผลไม้ที่ขึ้นอยู่ตามป่ามาฝากลูกๆ แม้ผลไม้ที่แม่เก็บมาในบางครั้งจะเป็นเพียงฝรั้งขี้นก แต่ผู้เขียนและพี่ๆ ก็กินและรับรู้ถึงความรักที่แม่มีต่อลูกเสมอ

 

จวบจนเมื่อผู้เขียนจบชั้น ป.6 จำต้องออกจากบ้านเพื่อไปร่ำเรียนหาวิชาความรู้ ด้วยการเลือกบวชเป็นสามเณรตามคำแนะนำของพระธรรมจาริก (พระสงฆ์ที่มาเผยแผ่หลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าบนที่สูง) แม้จะรับรู้ได้ว่าแม่ไม่สนับสนุนมากนัก  ด้วยที่บ้านไม่เคยมีใครบวชเรียน และผู้เขียนไม่เคยห่างแม่ไปไหนไกลๆ แต่แม่ก็มิได้เอ่ยปากขัดขวางแต่ประการใด หนำซ้ำแม่ยังตามมาเยี่ยมบ่อยครั้ง แม้แม่จะไม่ถูกโฉลกกับการนั่งรถไปไหนมาไหนไกลๆ (แม่จะเวียนหัวเวลานั่งรถไกลๆ)

 

การได้บวชเรียนของผู้เขียนแม้ไม่ได้ทำให้ผู้เขียนได้มีงานทำ มั่งมีเงินทอง ถึงขนาดเลี้ยงดูแม่ให้สุขสบายอย่างล้นหลาม และผู้เขียนก็เชื่อว่าแม่ไม่เคยต้องการมัน เพราะบ่อยครั้งที่ผู้เขียนเอาเงินให้แม่แม้จะเป็นเงินเพียงน้อยนิด แม่จะถามด้วยความห่วงใยเสมอว่า "เอาเงินมาให้แม่ทำไม แม่ไม่มีปัญญาเก็บให้หรอก ให้แม่มาแม่ก็ใช้หมด เก็บไว้เถิดเผื่ออนาคตจะได้ใช้"

 

พรุ่งนี้แล้วซินะที่เขาเรียกกันว่าเป็นวันแม่ "12 สิงหา" เห็นผู้คนมากมายพร่ำพนานาถึงพระคุณแม่ บอกรักแม่ ซื้อของให้แม่ กลับไปเยี่ยมแม่ นำดอกมะลิไปไหว้แม่ ผู้เขียนเองก็อยากทำเช่นนั้น  แต่ด้วยหน้าที่ต้องอยู่ชายแดนคงไม่มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ปรารถนา กระนั้นผู้เขียนก็เชื่อว่าแม่จะรับรู้ถึงความรักที่ลูกมีให้ทุกวัน.. "แอะโม่โดะมะ  ซะเซอยื่อโม่เกาะมื่อนี" (รักแม่มาก คิดถึงแม่ทุกวันครับ...)

หมายเลขบันทึก: 453443เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2011 20:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 เมษายน 2012 15:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)
  • หญิงชราใบหน้ากร้านเพราะผ่านโลก
  • เผชิญโชคโศกสุขไปทุกอย่าง
  • กลั่นเลือดเนื้อเพื่อลูกยอมทุกทาง
  • หญิงตัวอย่างคือแม่โดยแท้จริง

 

น่ารักมากครับบันทึกนี้

สวัสดีครับ คุณหมอ ทิมดาบ ครับที่แวะมาเยี่ยมเยียน

แม่จะรักลูกคนสุดท้องที่สุดค่ะ

ขอบคุณที่ไปเยี่ยมบันทึกของพี่แก้วนะคะ

พี่เพิ่งรู้สึกว่าโชคดี..ที่ลูกชายไม่เคยดื้อ ซุกซน งอแง แบบนี้..อิอิ

แม่ท่านต้องรู้ดีว่า  เรากลับไปกราบท่านไม่ได้

แต่หัวใจเรา..ไม่เคยห่างแม่เลย..จริงมั๊ย

ขอบคุณสำหรับบันทึกที่ดีๆ

อ่านแล้วมีความสุขมากครับ

สวัสดีค่ะ

  • เห็นชื่อเรื่อง  สงสัยว่า "โม่" คืออะไรจึงเข้ามาอ่าน
  • อ่านแล้วซึ้ง  รักแม่มากขึ้น
  • ขอบคุณสำหรับบันทึกดีดีที่นำมาแบ่งปันค่ะ

ขอบคุณ คุณอักขณิช และkrusorn ครับ ที่แวะมาทักทาย และให้กำลังใจ "โม่" เป็นภาษากะเหรี่ยงครับ บางที่ก็ออเสียงเป็น "โมะ" แล้วแต่งท้องถิ่น... แตกต่างกันไปครับ แต่ความหมายก็คือ "แม่" ในภาษาไทยนี่แหละครับ..

สวัสดีค่ะ

    ลูกคนสุดท้อง ภาษาอีสานว่าเป็นลูกชายหล่า ศูนย์รวมความรักค่ะ

   ที่บ้านเรียกแม่ว่า"อีเบ๊ะ"ค่ะ เรียกสั้นๆว่า"เบ๊ะ" เรียกพ่อว่า"อีโพะ"หรือ"โพะ" คำเหล่านี้นี้เก่าแก่ ซาบซึ้งค่ะ ตอนนี้ก็ยังเรียกแม่ว่าเบ๊ะอยู่ค่ะ

    อ่านบันทึกแล้วก็นึกถึงวีรกรรมตัวเองเช่นกันค่ะเคยขโมยเงินแม่ (แม่สอนไม่ให้ขโมยคนอื่นค่ะ) หนีไปขึ้นต้นตะขบสูงๆ อดข้าวอดน้ำแต่คนที่ตามตีคือพ่อค่ะ เข็ดเลย ไม่ทำอีกแล้ว

    ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับแม่ที่นำมาแบ่งปันค่ะ

    สุขสันต์วันแม่ค่ะ

คำสอนของแม่คอยเตือนในใจ เกิดมาเป็นลูกผู้ชาย

อย่าหวั่นไหวใจต้องอดทน

หนทางลำบาก อุปสรรคมากมายท่วมท้น

วัดใจต่อสู้ความจน ให้หลุดพ้นสมเป็นลูกชาย

เพื่อวันข้างหน้ายังมีความหวัง

แม่คือผู้ให้พลัง ลูกปลูกฝังคุณงามในใจ

แม้งานจะหนักเหงื่อกี่หยดรดมาท่วมกาย

แหงนมองรูปแม่เติมไฟ จุดประกายให้ มีพลัง

เก็บหอมออมอด เพื่อปลดหนี้สินรุงรัง

ลูกแม่สู้งานไม่ยั้ง สร้างความฝันให้ถึงปลายทาง

ฟ้ารุ่งวันใหม่ บดบังความยากไร้เลือนราง

ลูกคงยังพอมีความหวัง หากฟ้ายังให้ความปราณี

ความฝันของแม่คอยเตือนเสมอ

สิ่งเดียวที่แม่อยากเจอ เพียงอยากเห็นลูกเป็นคนดี

แก้วแหวนเงินทอง นำมากองทั่วพื้นปฐพี

ทรัพย์สินนอกกายเรานี้ ใช่สิ่งที่แม่นี้ต้องการ

สวัสดีครับ คุณพี่พยาบาล ถาวร ได้ไปอ่านเรื่องแม่ของพี่ใน "แม่..ดอกพุดและเข่งปลาทู" มาแล้วครับ ชอบมาก.. เป็นความรักที่แม่มีต่อลูก และลูกมีต่อแม่ ที่ยากจะลืมเลือนจริงๆ ครับ...

ปล. ที่แม่ไม่ตีคงไม่ใช่เพราะ "แม่สอนไม่ให้ขโมยเงินคนอื่น" (แล้วขโมยเงินแม่แทนนะครับ) แต่คงเพราะแม่รักเลยตีไม่ลง พ่อจึงตีแทน 555

ขอบคุณ คุณmol ครับที่แวะมาเยี่ยมเยียน และแลกเปลี่ยนเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับแม่...ไว้แวะมาอีกนะครับ

เจอแอะนา..ฉันรักเธอ

เจอแอะโม่โดะมะ...ฉันรักแม่

ขอบคุณมากค่ะที่เขียนบันทึกนี้ขึ้น.มีคุณค่าทางจิตใจมากๆเลย..

ขอบคุณ คนชื่อ nin ที่แวะมาเยี่ยม และร่วมบอกรักแม่ด้วยกัน แล้วแวะมาเยี่ยมกันอีกนะครับ

ขอบคุณ คนชื่อ nin ที่แวะมาเยี่ยม และร่วมบอกรักแม่ด้วยกัน แล้วแวะมาเยี่ยมกันอีกนะครับ

  • สวัสดีครับ
  • พูดถึงแม่คราใดมักสุขใจทุกครั้ง เพราะแม่คือผู้ให้ แต่ไม่เคยเรียกร้องสิ่งใดๆ กลับคืนจากลูกนั่นเองครับ (แต่อาจหวังในใจให้ลูกกลับมาดูแลใส่ใจบ้าง) รักที่แม่มีต่อเรานั้นจึงยิ่งใหญ่ รักอื่นที่ว่าแน่ ยังแพ้แม่รัก
  •  อ่านแล้วซาบซึ้ง ในความรักของแม่ลูกผูกพัน ต้องยกให้โม่ที่หนึ่งครับ

สวัสดีครับ คุณชำนาญ เขื่อนแก้ว ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งครับที่แวะมาทักทาย และร่วมนะลึกถึง "โม่" ด้วยกันครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท