ขอแก้ไขนิดนึงค่ะ
รายการกบนอกกะลาไม่ได้เป็นรายการที่นำเสนอเรื่องอาหารการกินเพียงอย่างเดียวนะคะ แต่ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมาก ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบก็ว่าได้ โดยจุดประสงค์ก็เพื่อต้องการจุดประกายทางปัญญาในเรื่องใกล้ตัวที่เรามองข้าม ว่ามันมีความเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับเรื่องใหญ่ๆ ในสังคมหรือโลกใบนี้อย่างไรบ้าง
ส่วนประเด็นที่คุณยอดดอยตั้งคำถามนั้น เป็นประเด็นสำคัญประเด็นหนึ่งที่รายการนี้เคยถูกตั้งคำถามมาหลายครั้งค่ะ ถึงความหมิ่นเหม่ระหว่างผลประโยชน์ของตัวรายการ (เช่น สปอนเซอร์) กับประเด็นสาระความรู้ที่ต้องการนำเสนอ ยกตัวอย่างตอนหนึ่งซึ่งค่อนข้างนานมาแล้ว ก็คือ เรื่องปลากระป๋อง นั่นก็เป็นเคสหนึ่งที่สร้างข้อถกเถียงมากพอดู (เผอิญดิฉันไม่ได้ดูตอนไข่ไก่ แต่เข้าใจเอาเองว่า อุตสาหกรรมไข่ระบบปิดที่ออกอากาศในรายการ คงไม่พ้นบริษัทซีพีเป็นแน่)
กะลาหลายชั้นที่คุณยอดดอยตั้งข้อสังเกต ดิฉันจึงไม่ค่อยอยากเชื่อว่า เป็นเพราะคนทำงานขาดความรู้ความลึกซึ้งในข้อมูลเพียงเท่านั้น (กระทั่งไม่รู้เลยว่า ความรู้คืออำนาจ ที่ขึ้นอยู่กับใครจะเป็นคนสถาปนาอำนาจความรู้นั้นขึ้น) แต่มันยังมีปัจจัยเกี่ยวข้องทางด้านเศรษฐกิจอีกหลายประการ รวมไปถึงกระบวนการการผลิตชิ้นงานที่ต้องทำให้เรื่องมัน 'ขายได้' ในระดับ Mass อีกด้วย
พูดอย่างนี้ เพราะโดยส่วนหนึ่ง ดิฉันเองก็เคยทำงานเป็นสื่อมวลชนมาก่อน ทำให้พอเข้าใจได้ถึงข้อจำกัดหลายๆ ด้าน เมื่อต้องผสานกับความคาดหวังของผู้ชมรายการ ในขณะที่เราเองก็ไม่อาจปฏิเสธการหาที่อยู่ที่ยืนเพื่อความมั่นคงในสถานการณ์ความเป็นจริงได้
ถึงอย่างไร ดิฉันก็เข้าใจว่า คุณยอดดอยคงไม่ได้ต้องการติงรายการนี้เพียงรายการเดียว แต่คงมองไปถึงภาพรวมของทั้งระบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไม่เฉพาะแต่ในสื่อด้วยซ้ำ หากเพราะสื่อเป็นภาพสะท้อนหนึ่งของสังคม ที่ปรากฏอยู่หน้าจอโทรทัศน์แบบโต้งๆ ก็เลยสามารถด่าได้ถูกตัวและดังหน่อยเท่านั้น
ซึ่งโดยส่วนตัว ดิฉันเองไม่ได้วาดหวังว่า จะมีรายการหนึ่งรายการใดที่ให้ความรู้แบบสมบูรณ์รอบด้าน แต่ดิฉันเห็นว่า อย่างน้อยๆ สิ่งหนึ่งที่รายการกบนอกกะลาให้ ก็คือ การกระตุ้นให้คนได้คิด ซึ่งนั่นก็น่าจะเป็นความสำเร็จในระดับหนึ่งที่น่าชื่นชมแล้ว
เราถูกทำให้เข้าใจว่า ระบบโรงงานจากมาตรฐานต่างชาติ ดีเยี่ยมไร้ที่ติเสมอ จนลืมมองว่า ภายในกำแพงมีการดูดซับใช้ทรัพยากรของภายนอกกำแพงที่เป็นสมบัติของศตวรรษหน้าไปจนเกือบหมดไม่ว่า ระบบน้ำ ระบบดิน ง่ายๆ เขตนิคมอุตสาหกรรมลำพูน ชาวบ้านต้องซื้อน้ำดื่มน้ำใช้ จากเดิมที่เคยใช้น้ำบ่อได้
เมื่อวานดูข่าวแว๊บๆ ว่าต่อไปสัตว์บริโภคจะต้องเป็นสัตว์ที่ฝังชิบถึงจะรับรองมาตรฐานความปลอดภัย...ซึ่งน่าจะแน่นอนว่า เป็นระบบทุนนิยมที่เข้ามาทำลายพันธุ์สัตว์พื้นเมืองตามธรรมชาติ
นับเป็นระบบการค้าบนช่องโหว่ของความกลัวตายจากสารพิษของคน..ที่ผูกขาดและอย่างแยบยล
นึกถึงระบบการคุ้มครองผู้บริโภคของเรา ยังไงก็คงสู้ระบบทุนพวกนี้ไม่ได้ ผู้บริโภคก็คงต้องดูแลตัวเองต่อไป คิดว่าสื่ออาจจะนำเสนอแต่ถูกเซนต์เซอร์ก็เป็นได้นะคะเพราะจะกระทบความเชื่อมั่น/ความนิยมซึ่งเป็นเบื้องหลังที่กลุ่มทุนต้องการนำเสนอ
ในหลวงเคยตรัสไว้ว่า "ข่าวทุกชนิด ล้วนบิดเบือนมาแล้วทั้งสิ้น"
เวลาดูรายการต่างๆทางโทรทัศน์ ก็คงต้องดูอย่างมีสติ และหมั่นตรวจสอบ สิ่งเหล่านี้ต้องทำร่วมกันเยอะๆครับ