* เป็นบทความ ที่ดีมาก อยากให้ทุกคนอ่านให้จบ*
* และเม้นด้วยความสุภาพ นะครับ *
มาร์ติน วีลเลอร์ ...เมื่อฝรั่งสอนผม
ฝรั่งคนนี้ชื่อ มาร์ติน วีลเลอร์ หรือคนแถวที่เขาพักเรียกเขาว่า"ผู้ใหญ่มา"
ผู้ใหญ่ มา ...ของคนไทยย่านบ้านคำปลาหลาย อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ต้องบอกว่ามีประวัติ"ไม่ธรรมดา" เพราะเขาเป็นหนุ่มอังกฤษมีดีกรีปริญญาตรีเกียรตินิยม ภาษาละติน จาก London University ประเทศบ้านเกิด แต่เลือกที่จะ(แปลง)เป็น"คนไทย"ด้วยความตระหนักว่า"แผ่นไทย"คือ"แผ่นดิน ทอง"ที่มีอยู่จริงบนโลก
ในรายการ"ปราชญ์เดินดิน" ผมจับใจความได้ว่า"ผู้ใหญ่มา" มาจากครอบครัวชนชั้นกลางที่พ่อแม่สนับสนุนให้การศึกษาสูงที่สุดเท่าที่จะส่ง เสียได้ หลังจากนั้น เมื่อเรียนจบ ทุกคนก็จะเข้าสู่ระบบทำงานที่มาร์ตินเรียกว่า"ขี้ข้า" และเขารู้ดีว่าเขาจะไม่มี(วันมี)ความสุขได้กับการมีชีวิตแบบนั้น ไม่มีโอกาส ที่จะสร้งชีวิตของตัวเอง
"ผู้ใหญ่มา"บอกว่า คนอังกฤษ 60% ไม่มีบ้าน และไม่มีโอกาสมีบ้าน !!!
ผู้ใหญ่ มา เล่าว่า เขาอยู่ในอังกฤษในสังคมคนมีเงิน ทุกครอบครัวจะพูดถึงแต่เรื่องเงิน ยี่ห้อรถยนต์ มีรถกี่คัน มีบ้านใหญ่ขนาดไหน ลูกๆเรียนที่ไหน แต่เมื่อจบจากมหาวิทยาลัยลอนดอน เขากลับคิดว่าชีวิตน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น เลยทดลองทำงานแบกอิฐ แบกของหนัก เดินแบกอิฐไปมาวันละสาม-สี่พันเที่ยว
"ถามว่าชีวิตของพ่อมีความสุขมั้ย ผมว่าไม่ ผมคิดว่าพ่ออยากได้บางสิ่งบางอย่าง พ่อได้เงินเดือนเยอะมาก ได้รับบำเหน็จบำนาญ เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านในชุมชน มีตำแหน่ง มีเกียรติยศอะไรอีกเยอะแยะ แต่พ่อไม่มีความสุข เพราะวันจันทร์ถึงวันศุกร์ไป ทำงานที่โรงงาน ตกเย็นไปประชุมอีก กลับบ้าน 3-4 ทุ่ม ไม่ได้เจอเมียเจอลูก วันเสาร์อาทิตย์พ่อก็ปวดหัว อยากพักผ่อน อยากอยู่คนเดียว ไม่ให้ใครรบกวน พ่อมีเมีย และลูกสามคน แต่พ่อไม่ค่อยได้เห็นลูกเห็นเมีย สมัยที่ผมอายุ 13 ผมไม่ได้คุยกับพ่อแม้แต่คำเดียวเกือบปีครึ่ง เห็นเมื่อไหร่ก็เจอพ่อปวดหัวตลอด" ผู้ใหญ่มาเล่า
และชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป เพราะคุณแม่เสียชีวิต มาร์ตินจึงได้รับส่วนแบ่งเป็น "มรดก"และเมื่อมีเงิน เขาจึงใช้เงินโโยวางแผนเที่ยวทั่วโลกปีครึ่งในประเทศที่ไม่เคย ไป เช่น ไทย ลาว เขมร พม่า มาเลย์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย โดยตั้งใจจะไปออสเตรเลีย เพราะเป็นประเทศเปิด ไม่ค่อยมีกฎระเบียบเหมือนอังกฤษ
แต่บังเอิญประเทศแรกที่"ผู้ใหญ่มา"แวะเที่ยวคือประเทศไทย...ชีวิตเขาจึงเปลี่ยนทันที !!!
เพราะเมื่อมาถึงเมืองไทย เงินที่เก็บไว้เพื่อเที่ยวและใช้ชีวิตอยู่นานปีครึ่งก็หมดใน 2 เดือนเพราะเขาเป็นเหมือนคนหนุ่มตะวันตก คือใช้ชีวิตแบบหมดไปวันๆกับบุหรี เหล้า ผู้หญิง ดังนั้น เมื่อหมดเงิน สิ่งที่เขาทำได้ก็คืออาชีพ"ครูสอนภาษาอังกฤษ" ซึ่งทำให้เขา "ดูถูกตัวเอง" เพราะได้เงินเดือน 30,000 แต่ไม่ต้องทำอะไร นอกจากใส่เสื้อผ้าดีๆ ผูกเนคไทดีๆเพื่อให้ดูเท่ และให้ทุกคนเรียกว่า"ครู"
นั่น ตรงข้ามกับสิ่งที่เขาเรียกว่า"อุดมการณ์" ที่เขามีมาตั้งแต่เด็กๆว่า จะทำงานที่ทำให้ตัวเองมีความสุข จะไม่ทำงานที่ต้องผูกเนคไท และจะไม่ทำงานที่ต้องถือกระเป๋าเอกสาร
เมื่อไม่ตรงกับอุดมการณ์ 11 เดือนต่อมา "ครูมาร์ติน" จึง ตกงาน และเป็นโชคดีที่เขาพบหญิงสาวชาวไทยคนหนึ่งที่เปลี่ยนชีวิตเขา และเขารู้จัก"เมืองไทย"ที่ไม่ใช่กรุงเทพฯจากการไปเที่ยวปีใหม่บ้านแฟนสาวชาว ไทยที่ขอนแก่น
"ที่ขอนแก่น ผมเห็นแต่ละคนมีที่ดินเยอะมาก ชาวบ้านธรรมดาคนเดียวมีถึง 50 ไร่ หรือ 200 ไร่ เยอะมาก สะอาดด้วย อากาศก็ดี ตอนแรกได้กลิ่น ผมก็ว่ากลิ่นอะไร อ๋อ มันกลิ่นธรรมชาติ ผมไม่เคยดมมาก่อน โอ้สุดยอดเลยบ้านนอก คนอื่นว่าฝรั่งมันบ้า เพราะเขาไม่รู้ว่าทำไมฝรั่งอยากไปอยู่บ้านนอก เขาคิดว่าฝรั่งมีแต่คนรวย ฝรั่งไม่มีคนยากจน เขาไม่รู้จริงๆว่าฝรั่งส่วนมากลำบาก บ้านก็ไม่มี ที่ดินก็ไม่มี เป็นขี้ข้าเขาหมด ลูกก็ไม่มีอนาคต"
เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปอยู่บ้านแม่ยายพร้อมภรรยาและลูกที่ขอนแก่น
แม้ผู้ใหญ่มายอมรับว่าการเลือกไปอยู่ที่นั่น "ไม่ง่าย" เพราะเขาบอกกับภรรยาชาวไทยว่าจะไม่รับจ้างสอนภาษาอังกฤษ ขณะที่ตัวเขาทำเกษตรไม่เป็น ช่วงแรกจึงลำบากมาก มาร์ตินต้องรับจ้างแบกอิฐด้วยค่าแรงวันละ 120 บาท และเพราะอากาศร้อน หลายครั้งเขาจึงเป็นลม มีคนคิดไปถึงขั้นว่ามาร์ตินเป็นฆาตกรฆ่าคนแล้วหนีมาอยู่เมืองไทย
แต่เมื่อนั่งคิดไป ผู้ใหญ่มา ก็บอกว่า "ปัญหา" ไม่ได้อยู่ที่ "อากาศ" แต่ อยู่ที่ตัวเขาเอง เพราะเมื่อเลือกที่จะปักหลักที่ขอนแก่นซึ่งเป็นเมืองที่เขาเห็นว่าน่าอยู่ สิ่งแวดล้อมดี สะอาด อากาศดี แถมมีอาหารธรรมชาติฟรีเยอะมาก
วันนี้ ...ผู้ใหญ่มา มี"บ้าน"เป็นกระท่อมมุงหลังคาด้วยหญ้า ที่ชาวบ้านเรียกว่า"เถียงนา" แต่เขาบอกเรียกว่า"บ้าน"
สิ่งที่ "ผู้ใหญ่มา" สอน ผม ก็คือคำกล่าวผ่านคำพูดของเขา...คุณโชคดีมากๆที่เกิดใน ประเทศไทยที่อุดม สมบูรณ์ ไม่ต้องไปรบกับใคร ไม่ต้องไปเอาน้ำมันจากใคร ไม่ต้องไปเบียดเบียนคนอื่น ประเทศไทยอยู่ได้ กินอิ่ม มีเหลือแจกด้วย อย่าไปคิดเรื่องเงินอะไรมาก อย่าลดคุณค่าความเป็นไทยของตัวเองลง คนไทยส่วนมากนิสัยดีจริงๆ คนไทยมีน้ำใจ คนไทยมีพระเจ้าอยู่หัว มีศาสนาพุทธ ทั้ง 3 อย่างนี้ต้องรักษาเอาไว้ให้ได้ ชีวิตที่ไม่ทะเยอทะยานเกินไป คือชีวิต ที่มีคุณภาพ ชาวบ้านทุกคนทำได้
"ผมยังทำไม่สำเร็จ แต่มั่นใจว่าจะทำได้แน่ในอนาคต ถ้าผมทำได้ คนอื่นก็คงทำได้ง่ายกว่าผมเยอะ ทุกอย่างอยู่ที่เรา ถ้าเราไม่อยากได้อะไร มากเกินไป ในชีวิต ชีวิตมันก็ง่าย พยายามทำให้ชีวิตมันง่ายขึ้น อย่าให้มันสับสน อย่าให้มันลำบาก พยายามรักษา สิ่งแบบนี้ให้ดี และอย่าเชื่อฝรั่งมากเกินไป"
จุดอ่อน - จุดแข็งของคนไทย
ผมคิดว่าคนไทยส่วนมากยังไม่เข้าใจระบบทุนนิยม เห็นฝรั่งที่ไหนก็คิดว่ารวยหมด
คิดว่าการพัฒนาในระบบทุนนิยมจะทำให้ทุกคนมีเงิน
ไม่เข้าใจว่าประเทศที่พัฒนาระบบทุนนิยมนานแล้ว เช่น อังกฤษ, สหรัฐ มีปัญหาเยอะมาก
แต่คนไทยก็คิดว่าเมืองนอกดีกว่า อันนี้จุดอ่อนครับ
คือคนไทยสนใจเมืองนอก ไม่ได้สนใจประเทศไทย
ผมเป็นฝรั่ง คุณเลยนั่งฟังผม
ถ้าผมเป็นชาวบ้าน คุณจะไม่สนใจผม อันนี้เป็นจุดอ่อนนะ
แต่จุดแข็งคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
แผ่นดินประเทศไทยอุดมสมบูรณ์มาก ๆ
มีดินเยอะมาก น้ำเยอะมาก แสงแดดเยอะมาก ทำเกษตรอยู่รอดแน่
เป็นพลังแผ่นดิน ใคร ๆ ก็อยากได้ประเทศไทย
ผมก็ได้ถึง ๖ ไร่
คนไทยโชคดีมาก ๆ ที่ได้ในหลวงเป็นผู้นำ
พระองค์ท่านเป็นคนที่ทำงานหนักมากเพื่อช่วยให้คนคิดได้ ช่วยให้คนอยู่ได้
จะหากษัตริย์ในประเทศอื่นไม่ค่อยมีแบบนี้
ปัญหาคือคนไทยส่วนมากนับถือในหลวง แต่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสอนของในหลวง
พระองค์ท่านบอกมา ๒๗ ปีถึงเศรษฐกิจพอเพียง
แต่คนไทยก็ไม่รู้จักพอเพียง เอาอย่างเดียว
ถึงยกมือไหว้ในหลวง แต่เวลาดำรงชีวิตไม่ได้ทำตามในหลวง
ก็ในหลวงบอกไว้แล้วว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเสือ ขอให้มีอยู่มีกินไว้ก่อน
ถ้าทุกคนเริ่มคิดจริง ๆ ถึงสิ่งที่ ในหลวงพูด เราน่าจะช่วยให้ประเทศไทยอยู่ได้
เพราะความคิดของในหลวง เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงต้องอาศัยพลังแผ่นดิน
ทำได้เฉพาะประเทศไทยนะเศรษฐกิจพอเพียง
ที่อื่นทำไม่ได้หรอกเพราะเขาไม่มีที่ดิน ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติเยอะเหมือนประเทศไทย
พวกคุณโชคดีที่ได้แผ่นดินดี ๆ ได้ผู้นำ ( ในหลวง ) ที่ดีด้วย
และเรื่องที่ ๓ เรื่องศาสนา
ผมคิดว่า ศาสนาพุทธมีความสำคัญมาก ๆ สำหรับคนไทย
ไม่ใช่แค่นับถือไหว้พระ แค่นั้นไม่พอ
แต่อยู่ที่การปฏิบัติด้วยนะ มักน้อย สันโดษ พอเพียง
ธรรมะคือธรรมชาติ เป็นเรื่องง่าย ๆ พึ่งตนเองก็ได้
ปรัชญาของศาสนาพุทธทำได้นะ แต่คนไทยจำนวนน้อยที่เข้าใจ
จริง ๆ แล้วศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ออกแบบให้เหมาะสมสำหรับคนบ้านนอก
ให้ใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติโดยไม่ทำลาย ไม่เอาเปรียบ แต่ให้เราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
ไม่มีความเห็น