ใครเอาเนยแข็งของฉันไป


Cheese"_" Cheese

"Who Moved My Cheese?"....."ใครเอาเนยแข็งของฉันไป ?"

เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเขาวงกต ซึ่งมีตัวละคร ที่น่าขบขันอยู่

4 ตัว ที่มองหา "Cheese" - "Cheese" เป็นอุปมา สำหรับ สิ่งที่เราต้องการมีในชีวิต, ไม่ ว่าจะเป็นเรื่องงาน, ความสัมพันธ์, ความสงบทางจิตใจ, หรือแม้แต่กิจกรรม

 

คนเราแต่ละคนมีความคิดเป็นของตนเองว่า "Cheese" คืออะไร และเราติดตามหามัน เพราะเราเชื่อว่ามันจะทำให้เรามีความสุข ถ้าเราเจอมัน บ่อยครั้งที่เราจะติดอยู่กับมัน และถ้าเราสูญเสียมันไป หรือมันถูกแย่งไป มันจะทำให้เราเจ็บปวด"เขาวงกต" ในเรื่องนี้แสดงถึงสถานที่ ที่คุณใช้เวลามองหาสิ่งที่คุณต้องการ มันสามารถที่จะเป็นองค์กรที่คุณทำงานอยู่, ชุมชนที่คุณอาศัยอยู่, หรือความสัมพันธ์ที่คุณมีในชีวิตของคุณ 

 

หวังว่า เมื่อคุณได้อ่าน เรื่อง Who Moved My Cheese? คุณจะพบสิ่งใหม่ๆ และ สิ่งที่เป็นประโยชน์ เหมือนกับผม และสิ่งเหล่านั้นจะช่วยคุณจัดการกับความเปลี่ยนแปลง และนำความสำเร็จมาให้กับคุณ ไม่ว่าอะไรที่คุณตัดสินใจลงไป ความสำเร็จเป็นของคุณ

 .....

.....

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในดินแดนไกลโพ้น เป็นที่อาศัยของ

4

สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ซึ่งวิ่งไปตามเขาวงกต

มองหาเนยแข็ง เพื่อใช้เป็นอาหารและทำให้พวกเขามีความสุข

สิ่งมีชีวิต

2 ตัวเป็นหนูชื่อ สนิฟและสเคอรี และอีก 2

ตัวเป็นคนตัวเล็กเท่าหนู แต่ดูคล้ายคนอย่างเราๆ

มากกว่า พวกเขาชื่อ

"เฮม" และ "ฮอ

"

เนื่องจากขนาดที่เล็กมากจึงไม่ง่ายนักที่จะสังเกตเห็นสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ แต่ถ้าคุณมองดูอย่าง

ใกล้ชิดพอ คุณจะสามารถค้นพบสิ่งที่มหัศจรรย์มากที่สุด

ทุกๆวัน หนูและคนตัวเล็กใช้เวลาในเขาวงกตค้นหาเนยแข็งพิเศษของตนหนูทั้งสอง คือสนิฟและสเคอ

รีที่มีเพียงสมองแบบสัตว์ประเภทกัดแทะที่ไม่ซับซ้อน แต่มีสัญชาตญาณดีนั้นค้นหาเนยแข็งที่น่าแทะที่

พวกมันชอบอย่างที่หนูทั้งหลาย มักจะทำ

ส่วนคนตัวเล็กทั้งสอง

-

เฮมกับฮอ ใช้สมองของเขาซึ่งเต็มไปด้วยความคิดความเชื่อหลายอย่าง เพื่อ

ค้นหาเนยแข็งหลากหลายชนิดที่มีตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ตัวซี ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าจะทำให้มีความสุขและ

ประสบความสำเร็จ

แม้หนูและคนตัวเล็กจะแตกต่างกัน พวกเขาก็มีบางสิ่งบางอย่างเหมือนกัน กล่าวคือ ทุกๆเช้า เขจะใส่

ชุดและรองเท้าสำหรับวิ่งออกจากบ้าน และวิ่งแข่งกันไปยังเขาวงกตมองหาเนยแข็งที่โปรดปรานของ

ตน

เขาวงกตเป็นทางวกไปวนมาของระบียง และห้องหับต่างๆที่ซึ่งเต็มไปด้วยเนยแข็งอร่อย แต่ก็มีมุมมืด

และซอกซอยที่ไม่เห็นทางว่านำไปสู่ที่ใด นับเป็นสถานที่หลงทางได้ง่ายๆ

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่รู้จักทางแล้ว เขาวงกตนี้มีความลับที่ทำให้พวกเขามีความสุขกับชีวิตที่ดีขึ้น

หนูทั้งสอง

-

สนิฟและสเคอรีใช้วิธีที่ง่ายแต่ไม่มีประสิทธิภาพในลักษณะลองผิดลองถูกเพื่อค ้นหาเนย

แข็ง พวกเขาวิ่งไปตามระเบียงและถ้าพบว่าว่างเปล่า เขาจะหันหลังกลับและวิ่งไปยังที่อื่นๆ สนิฟมักดม

หาเส้นทางของเนยแข็งโดยใช้จมูกที่ดีเยี่ยม ส่วนสเคอรีจะวิ่งนำไปก่อน แล้วก็เป็นไปอย่างที่คุณ

คาดคิด คือพวกเขาหลงทาง ออกไปยังเส้นทางที่ผิดและบ่อยครั้งชนกับกำแพง

อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวเล็กทั้งสอง เฮมและฮอ ใช้วิธีที่แตกต่างกันออกไปโดยการเชื่อมั่นใน

ความสามารถที่จะคิดและเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทั้งๆที่บ่อยครั้ง เขารู้สึกสับสนจากความคิด

และความรู้สึกของพวกเขาเอง

แล้วในที่สุด ด้วยวิถีทางของตนเอง พวกเขาทั้งหมดได้ค้นพบเนยแข็งชนิดที่ตนชอบในวันหนึ่ง ที่

ปลายสุดของระเบียงแห่งหนึ่งในสถานีเนยแข็งซี

ทุกเช้าหลังจากนั้น หนูและคนตัวเล็กก็แต่งตัวในชุดวิ่งและมุ่งหน้าไปยังสถานีเนยแข็งซี

.

ใช้เวลาไม่

นานนักพวกเขาก็กำหนดเส้นทางประจำของตนเองได้

สนิฟและสเคอรียังคงตื่นแต่เช้าทุกวันและวิ่งไปตามเขาวงกตด้วยเส้นทางเดิมๆเสมอ เมื่อพวกเขามาถึง

จุดหมายปลายทาง หนูทั้งสองตัวถอดรองเท้าที่ใช้วิ่ง ผูกไว้ด้วยกันและแขวนไว้รอบคอ เพื่อจะ

สามารถเอามาใส่ได้โดยเร็วเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาต้องการใช้อีก แล้วก็ได้เวลาอร่อยกับเนยแข็ง

ในช่วงแรก เฮมและฮอวิ่งไปยังสถานีเนยแข็งซีทุกเช้าเช่นกัน เพื่ออร่อยกับเนยแข็งชิ้นใหม่ๆที่มีรสชาติ

ดีที่รอคอยพวกเขาอยู่ แต่หลังจากนั้นระยะหนึ่ง คนตัวเล็กทั้งสองได้กำหนดเส้นทางที่แตกต่างออกไป

เฮมกับฮอตื่นสายขึ้นในแต่ละวัน แต่งตัวช้าลง และเดินไปยังสถานีเนยแข็งซี ในที่สุด พวกเขารู้ว่าเนย

แข็งอยู่ที่ใดและไปที่นั่นได้อย่างไร

พวกเขาไม่ทราบว่าเนยแข็งมาจากไหนและใครวางมันไว้ที่นั้น พวกเขาเพียงแต่คิดเองว่ามันจะอยู่ที่นั่น

ขณะที่เฮมและฮอมาถึงสถานีเนยแข็งซีทุกเช้า เขาลงมือจัดการและทำตัวตามสบาย พวกเขาแขวนชุด

วิ่งและถอดรองเท้าวิ่งออกไปแล้วสวมรองเท้าแตะแทน

พวกเขารู้สึกสบายใจมากในตอนนี้ว่าเขาได้พบเนยแข็งแล้ว เฮมกล่าวว่า

"ยอดเยี่ยมมาก"

มีเนยแข็ง

เพียงพอที่นี้ที่จะเลี้ยงเราได้ตลอดกาล

"

คนตัวเล็กรู้สึกมีความสุขและประสบความสำเร็จ เขาคิดว่าพวก

เขามั่นคงแล้วในขณะนี้

ไม่นานนัก เฮมและฮอก็ถือเอาว่าเนยแข็งที่เขาพบที่สถานีเนยแข็งซีเป็นเนยแข็งของเขา มันเป็นร้าน

เนยแข็งขนาดใหญ่ซึ่งพวกเขาได้ย้ายบ้านมาอยู่ใกล้กับสถานีมากขึ้น และสร้างสังคมอยู่รอบๆ และ

เพื่อให้พวกเขารู้สึกเหมือนอยู่บ้านมากขึ้น เฮมและฮอตกแต่งพนังด้วยคติพจน์และแม้กระทั่งวาดรูป

ของเนยแข็งไว้รอบๆ ซึ่งทำให้เขายิ้มได้ มีรูปหนึ่งอ่านได้ว่า

"

มีเนยแข็ง ทำให้คุณมีความสุข

"

บางครั้งเฮม และ ฮอ จะพาเพื่อน ๆ มาแวะที่สถานีเนยแข็งซีเพื่ออวดกองเนยแข็งที่พวกเขาค้นพบ

พวกเขามักจะชี้ไปที่เนยแข็งและพูดด้วยความภาคภูมิใจว่า

"มันช่างเป็นเนยที่แสนวิเศษ จริงไหม

?"

บางครั้งทั้งสองก็จะแบ่งเนยแข็งให้เพื่อน ๆ แต่บางครั้งก็เก็บไว้เองไม่แบ่งใคร

"

มันสมควรแล้วล่ะ ที่พวกเราจะได้ครอบครองเนยแข็งเหล่านี้" เฮมเปรย "

เพราะพวกเราต้องตรากตรำ

เป็นเวลานานกว่าจะได้พบมัน

"

ว่าพรางเฮมก็เลือกหยิบเนยชิ้นที่ดูสดใหม่มากัดกินอย่างชื่นชม

หลังจากนั้น เฮมก็ผลอยหลับไป อย่างที่เขามักจะทำอยู่เสมอ

ทุกคืนคนตัวเล็กจะเดินอุ้ยอ้ายกลับบ้านเพราะต้องหอบเนยแข็งกลับมาเต็มมือ และทุกเช้าพวกเขาก็จะ

กลับไปที่สถานีเนยแข็ง ด้วยความมั่นใจว่าต้องมีเนยแข็งกลับมาบ้านมากขึ้นเช่นทุกครั้ง

เหตุการณ์ดำเนินไปเช่นนี้อยู่เป็นระยะนานพอควร จนทำให้ความเชื่อมั่นของ เฮมและฮอกลับกลายเป็น

ความอวดดีโดยคิดไปว่าทุกอย่างคงจะต้องเป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่ช้าเขาทั้งสองเริ่มรู้สึกเคยชินจนไม่

สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น

ในขณะเดียวกับที่ สนิฟและสเคอรี่ยังคงใช้ชีวิตไปตามปกติทุกวัน ทุกเช้าพวกเขาจะมาถึงสถานีเนย

แข็งซีแต่เช้าเพื่อมาคอย ดมกลิ่น คุ้ยเขี่ย และ วิ่งสำรวจไปมาเพื่อตรวจตราบริเวณรอบ ๆ สถานี ว่าใน

แต่ละวันมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือไม่

จนกระทั่งเช้าวันหนึ่งขณะที่พวกเขามาถึงสถานีเนยแข็งซี พวกเขาพบว่าที่สถานี ไม่มีเนยแข็งเหลืออยู่

เลย แต่พวกเขาก็ไม่รู้สึกประหลาดใจ เพราะว่าสนิฟและสเคอรี่ มักจะสังเกตพบว่าในแต่ละวันที่ผ่านไป

เนยแข็งจะพร่องไปเรื่อย ๆ ดังนั้นพวกเขาจึงเตรียมตัวเองให้พร้อมเสมอว่าสักวันหนึ่งเหตุการณ์ที่เนย

แข็งจะหมดไม่มีเหลือ่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และด้วยสัญชาติญาณพวกเขารู้ว่าจะต้องจัดการ

อะไรต่อไป

พวกเขามองตากันและกัน และรู้ว่าถึงเวลาที่จะต้องใช้รองเท้าวิ่งคูชีพที่พวกเขามักจะผูกติดกันและแข

วนไว้ที่คอ เอามาใส่และผูกเชือกรองเท้าเพื่อจะวิ่งค้นหาแหล่งเนยแข็งแหล่งใหม่ต่อไป

พวกหนูมักจะไม่วิเคราะห์อะไรมากจนเกินเหตุ จึงทำให้พวกเขาไม่ต้องแบกความเชื่ออะไรต่าง ๆ ที่

ซับซ้อนจนหน้าเวียนหัว สำหรับพวกหนู ปัญหาและคำตอบก็คือเรื่องง่าย ๆ ธรรมดา ๆ เหมือนกัน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สถานีเนยแข็งซีได้เปลี่ยนไปแล้ว ดังนั้น สนิฟและสเคอรี่จึงตัดสินใจที่จะต้อง

เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตนเช่นกัน

พวกเขาทั้งคู่มุ่งตรงไปที่เขาวงกต สนิฟยกจมูกขึ้นเพื่อจะดมกลิ่น และพยักหน้าไปที่สเคอรึ่ซึ่งได้วิ่ง

นำหน้าไปภายในทางเขาวงกต สนิฟวิ่งจี้ตามติดไปโดยเร็ว พวกเขาเริ่มค้นหาแหล่งเนยแข็งแห่งใหม่

อย่างรวดเร็ว

เวลาต่อมาในวันเดียวกัน เฮมและฮอมาถึงที่สถานีเนยแข็งซี เนื่องจากพวกเขาไม่เคยสนใจที่จะสังเกต

ความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ทำให้พวกเขามั่นใจว่าเนยแข็งจะต้องมีอยู่ที่นั่น

อย่างแน่นอนเหมือนเช่นทุกวัน

พวกเขาไม่ได้เตรียมพร้อมในสิ่งที่พวกเขาพบ

"อะไรกันนี่ ทำไมไม่มีเนยเหลืออยู่ที่นี่แล้ว?"

เฮม

ตะโกนลั่น เขายังคงตะโกนต่อไปว่า

"ไม่มีเนยเหลืออยู่แล้ว มันหายไป มันหายไป"

เขายังคงร้อง

ตะโกนอย่างสุดเสียงราวกับว่าความดังของเสียงจะทำให้ใครสักคนนำเนยแข็งกลับมาให้เขา

"

ใครเอาเนยแข็งของฉันไป?"

เฮมตะโกนร้องลั่น ในที่สุดเขาก็เอามือเท้าสะเอว หน้าเริ่มแดงก่ำ ด้วย

ความโกรธ และแล้วก็แผดเสียงร้องลั่นว่า

"มันไม่ยุติธรรม

!"

ฮอสั่นหัวอย่างไม่เชื่อตาตัวเอง เขาก็เหมือนกับเฮม คือมั่นใจว่าที่สถานีซีจะต้องมีเนยแข็งรอพวกเขา

อยู่เสมอ เขายืนงงด้วยความรู้สึกช็อกเป็นเวลานาน เขาไม่พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน

ในขณะที่เฮมยังคงตะโกนด่าอะไรต่อมิอะไรอยู่ ฮอกลับไม่ต้องการได้ยินและรับรู้อะไรทั้งสิ้น เขาไม่

ต้องการและไม่พร้อมที่จะแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เขาเพิ่งเจอ

พฤติกรรมของคนตัวเล็กดูแล้วไม่น่าประทับใจเลย ทั้งไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา แต่ก็น่าเห็นใจ การ

ค้นหาเนยแข็งไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่สำหรับคนตัวเล็กกลับเป็นเรื่องใหญ่มากขึ้นไปอีก พวกเขาไม่ได้

พอใจเพียงแค่ให้มีเนยแข็งพอกินในแต่ละวันเท่านั้น

การค้นพบเนยแข็งสำหรับคนตัวเล็กกลับเป็นเหมือนสิ่งที่พวกเขาคิดว่าจะทำให้พวกเขามีความสุข พวก

เขาสร้างภาพแห่งความหมายของเนยแข็งที่มีต่อพวกเขาขึ้นมาเอง ภาพและความหมายเหล่านั้นขึ้นอยู่

รสนิยมและความชอบของแต่ละคน

สำหรับบางคน อาจะคิดว่าการค้นพบเนยแข็งคือการได้ครอบครองทรัพย์สิ่งของทางวัตถุ บางคน

อาจจะหมายถึงการมีสุขภาพที่ดีอยู่เสมอ สำหรับบางคนคือการได้พัฒนาตัวเองไปสู่ความอยู่ดีมีสุขทาง

จิตวิญญาน

สำหรับฮอ ก้อนเนยแข็งเพียงแค่หมายถึงความรู้สึกที่ต้องการความมั่นคงปลอดภัยของชีวิต ความหวัง

ที่อยากจะมีครอบครัวที่น่ารักสักวันหนึ่ง และได้อาศัยในกระท่อมอันแสนสุขบนถนนซีดาร์

แต่สำหรับเฮม ก้อนเนยแข็งต้องเป็นก้อนโต เขาต้องการที่จะได้ปกครองดูแลคนอื่น ๆ ได้มีบ้านหลัง

ใหญ่เป็นของตัวเองบนเนินเขาเคเมมเบิร์ต

เนื่องจากเนยแข็งมีความสำคัญกับพวกเขามาก คนตัวเล็กทั้งสองจึงใช้เวลานานทีเดียวที่จะพยายาม

นั่งคิดว่าควรจะทำอะไรต่อไปดี แต่ทั้งหมดเท่าที่พวกเขาคิดได้ขณะนี้คือมองไปรอบ ๆ สถานีซี ที่

ปราศจากเนยแข็งเพื่อดูว่าเนยแข็งมันหายไปจริง ๆ หรือไม่

ขณะที่สนิฟและสเคอรี่มุ่งหน้าค้นหาต่อไปโดยไม่รีรอ เฮมและฮอกลับยังคงอิดเอื้อน หันรีหันขวางไม่รู้

ว่าจะทำอะไรต่อไปดี

พวกเขายังคงเอะอะโวยวายเป็นเดือดเป็นแค้นถึงความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้น ฮอเริ่มรู้สึกหดหู่ และคิดว่า

จะเกิดอะไรขึ้นหากวันพรุ่งนี้พวกเขาจะไม่พบเนยแข็งอีก เขาสู้อุตส่าห์วางแผนชีวิตโดยพึ่งพาเนยแข็ง

ที่สถานีนี้เท่านั้น

คนตัวเล็กยังคงไม่เชื่อว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมจึงไม่มีใครเตือนพวกเขาล่วงหน้า มันไม่ยุติธรรม

เลยสำหรับพวกเขา และมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่พวกเขาคิดไว้

คืนนั้น เฮมและฮอกลับบ้านด้วยความหิวโหยและหมดหวัง แต่ก่อนที่พวกเขาจะออกจากสถานี ฮอได้

จารึกข้อความบนกำแพงว่า

"

ยิ่งก้อนเนยแข็งมีความสำคัญกับคุณมากเท่าใด คุณก็จะยิ่งยึดติดกับมันมากเท่านั้น

"

ในวันรุ่งขึ้น เฮมและฮอออกจากที่พัก และกลับไปที่สถานีเนยแข็งซีอีก ซึ่งครั้งนี้พวกเขาก็คาดหวังว่า

พวกเขาจะต้องเจอเนยแข็งบ้าง ไม่มากก็น้อย แต่เหตุการณ์ก็ยังคงเดิม นั่นคือ ไม่มีเนยแข็งที่สถานีเนย

แข็งอีกต่อไปแล้ว คนตัวเล็กทั้งคู่ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไป ทั้งคู่ยังคงยืนอยู่กับที่ แน่นิ่งไม่ไหวติง

เหมือนรูปปั้น

ฮอปิดตาลง และยกมือขึ้นปิดหู เพราะเขาไม่ต้องการรับรู้อะไรทั้งสิ้น เขาไม่ต้องการที่จะยอมรับว่าจริงๆ

แล้ว เนยแข็งที่เคยมีอยู่ได้ลดจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ เขายังมีความเชื่อว่า เนยแข็งทั้งหมดได้ถูกย้ายที่

ไป

เฮมวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า จนในที่สุดเขาได้สรุปเหตุการณ์นี้ด้วยความคิดอัน

ซับซ้อนของเขาว่า

"ทำไมเหตุการณ์เช่นนี้จึงเกิดขึ้นกับเขา" "มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่

"

และเมื่อ ฮอได้ลืมตาขึ้น มองไปรอบ ๆ พร้อมกับพูดว่า

"

แล้วนี่ สนิฟกับสเคอรีอยู่ที่ไหน นายคิดว่าพวก

เขาจะรู้อะไรบางอย่างที่เราไม่รู้ไหม

"

เฮมกล่าวอย่างไม่แยแสว่า

"พวกเขาจะรู้อะไร" และเฮมยังกล่าวต่ออีกว่า "

พวกเขาเป็นเพียงหนูตัว

เล็กๆ พวกเขาจะทำอะไรเท่าที่เห็นเท่านั้นแหละ

"

แต่เราสิ เราเป็นคนตัวเล็กที่มีความพิเศษมากกว่า

พวกเขา

"

ดังนั้น เราต้องสรุปเรื่องนี้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะถ้าเราทำได้ เราก็สมควรจะได้รับสิ่งดีๆ

มากกว่าหนู

2

ตัวนั่น

เฮมยังกล่าวต่อว่า

"

เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับเรา หรือหากจะเกิด อย่างน้อยเราก็ควรได้รับ

ผลประโยชน์บางอย่างด้วย

"

"

ทำไมเราควรได้รับผลประโยชน์ด้วยล่ะ"

ฮอถาม

"

เพราะเรามีสิทธิ์ที่จะได้นะสิ"

เฮมกล่าว

"

มีสิทธิ์ได้อะไร"

ฮออยากรู้

"

เรามีสิทธิ์ที่จะครอบครองเนยแข็งของเรา"

เฮมตอบ

"

ทำไม"

ฮอถาม

"

เพราะว่าเราไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหานี้" เฮมกล่าว "

มีใครบางคนที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น และเราก็

ต้องรู้ให้ได้

"

ฮอจึงได้แนะนำว่า

"

บางทีเราควรหยุดวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ และควรเริ่มต้นที่จะค้นหาเนยแข็งใหม่ๆ

ได้แล้ว

"

"

ไม่ ไม่มีทาง" เฮมโต้ "ฉันจะต้องค้นหาคำตอบของเรื่องนี้ให้ได้

"

ระหว่างที่เฮมและฮอยังคงพยายามที่จะตัดสินใจว่าควรจะทำอะไรต่อไปดี สนิฟและสเคอรีก็ยังคงมุ่ง

หน้าไปตามทางของมัน พวกเขาเดินทางผ่านเขาวงกตเข้าไป ทั้งทางขึ้น ทางลงตามระเบียงทางเดิน

เพื่อที่จะค้นหาเนยแข็งในทุก ๆ สถานีที่จะมีเนยแข็งกักเก็บอยู่

พวกเขาไม่ได้คิดเรื่องอื่น นอกจากการค้นหาเนยแข็งใหม่ๆ ให้ได้

พวกเขายังคงค้นหาเนยแข็งต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งในที่สุดพวกเขาก็เข้าไปถึงดินแดนแห่งหนึ่งในเขา

วงกต ซึ่งพวกเขาไม่เคยไปมาก่อน คือ สถานีเนยแข็งเอ็น

พวกเขาเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยความดีใจ เพราะพวกเขาได้พบสิ่งที่ค้นหามานาน นั่นคือ แหล่งเนย

แข็งใหม่แห่งใหญ่

พวกเขาแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองว่า ที่นี่เป็นแหล่งเนยแข็งที่ใหญ่ที่สุดที่หนูอย่างพวกเขาเคยพบ

เห็นมา

ในเวลาเดียวกัน เฮมและฮอยังคงกลับไปที่สถานีเนยแข็งซี เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อ ทั้งคู่กำลังทน

ทุกข์ทรมานจากการที่ไม่มีเนยแข็ง พวกเขาเริ่มหงุดหงิด โกรธ และต่างตำหนิกันและกันถึงเหตุการณ์

ที่เกิดขึ้น

ฮอยังคงนึกถึงหนู

2

ตัว คือสนิฟกับสเคอรี และอยากรู้ว่าพวกเขาพบเนยแข็งใหม่ ๆ บ้างแล้วหรือยัง

ฮอเชื่อว่าพวกเขาอาจกำลังเผชิญกับอุปสรรค หรือความยากลำบากอยู่ พวกเขาอาจจะต้องวิ่งกลับไป

กลับมาในเขาวงกตนั้น และอาจจะพบกับความไม่แน่นอนตลอดเวลา แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้มันอาจจะ

เป็นครั้งสุดท้ายที่จะต้องทำเช่นนั้นหรือไม่

บางครั้ง ฮอก็จินตนาการว่า สนิฟและสเคอรีค้นพบเนยแข็งใหม่ ๆ แล้ว และกำลังสนุกสนานกันอยู่ เขา

คิดว่ามันจะเป็นการดีกับเขาขนาดไหน หากเขาต้องออกไปผจญภัยในเขาวงกตอีกครั้ง และค้นพบเนย

แข็งใหม่ ๆ และได้ลิ้มรสชาติของมัน

ยิ่งฮอจินตนาการว่า เขาได้เจอเนยแข็งใหม่ ๆ และได้ลิ้มลองรสชาติเนยแข็งเหล่านั้น เขาก็ยิ่งอยากที่

จะออกไปจากสถานีเนยแข็งซีมากขึ้นเท่านั้น

"

ไปจากที่นี่กันดีกว่า"

เขาอุทานออกมา

"

ไม่" เฮมตอบอย่างรวดเร็ว "

ฉันชอบที่นี่ ที่นี่สะดวกสบายทุกอย่าง และ นี่คือที่ที่ฉันรู้จัก ข้างนอกมัน

อันตราย

"

"

ไม่หรอก มันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดหรอก" ฮอโต้ "

เราเคยวิ่งไปหลาย ๆ ที่ในเขาวงกตแห่งนี้มาแล้ว

หมายเลขบันทึก: 452014เขียนเมื่อ 1 สิงหาคม 2011 23:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มีนาคม 2012 19:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท