ลุงสิบบาท


ความสุขและเสียงหัวเราะที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ไม่ใช่ความบังเอิญแต่อย่างใด หากแต่เป็นสิ่งที่นักเดินทางผู้ต่ำต้อยอย่างผมเจตนาหรือตั้งใจอยากจะให้เกิดขึ้น เพื่อทำให้เด็กน้อยคนนั้นมีความสุขและมีความรู้สึกที่ดีๆ พร้อมทั้งช่วยทำให้บรรยากาศที่เคร่งเครียดในบริเวณนั้นมีความเบิกบานใจขึ้นมาได้บ้าง

 

 

 

 

 

 

สถานีความคิด  :

ลุงสิบบาท 

 

 

         

          “ลุงค่ะ  ลุงทำตังค์หล่นค่ะ”  เสียงใสๆ ของเด็กผู้หญิงน่าตาน่ารักคนหนึ่ง อายุราว 6 ขวบ  ตะโกนบอกผม ขณะที่ผมกำลังขนสินค้าไปวางไว้ที่หน้าร้านค้าแห่งหนึ่งในตลาดสดอำเภอลอง จ.แพร่ เมื่อตอนบ่ายของวันที่ 28 ก.ค.2554 ที่ผ่านมา  เธอบอกพร้อมทั้งชี้ให้ผมดูเหรียญสลึงสีเหลืองเล็กๆ ที่นอนอยู่บนฟุตบาท 

          ผมมองไปที่เด็กผู้หญิงคนนั้น เห็นเธอนั่งอยู่กับพ่อของเธอซึ่งอยู่ห่างจากเหรียญสลึงอันนั้นไม่เกิน 2 เมตร เธอกำลังมองมาที่ผมและยิ้มให้ ผมเลยส่งยิ้มให้กับเธอเป็นการตอบแทน หากแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป 

          ในขณะเดียวกัน ผมก็คิดอะไรในใจอยู่หลายอย่าง  โดยผมมั่นใจว่าเงินเหรียญสลึงเหรียญนั้น ต้องไม่ใช่ของผมแน่นอน เพราะว่าผมไม่เคยพกเงินเหรียญไว้ในกระเป๋าสตังค์หรือกระเป๋ากางเกง และวันนั้นผมก็ไม่ได้หยิบจับเงินเหรียญใดๆ เลยแม้แต่เหรียญเดียว 

          ผมอุ้มสินค้าเดินผ่านเหรียญสลึงเหรียญนั้นอยู่ประมาณ 3 รอบ จนสินค้าของร้านค้าแห่งนั้นครบหมดแล้ว ผมจึงเดินมาเอาเอกสารที่รถขนส่งสินค้าคู่ใจของผม 

          “ลุงค่ะ  ตังค์ของลุงตกน่ะ  ลุงไม่เก็บเอาเหรอค่ะ?”    เธอถามผมอีกครั้ง 

           ผมยิ้มให้กับเธอ แต่ไม่ได้ตอบอะไรออกไป  จากนั้นผมก็ก้มเก็บเหรียญสลึงเหรียญนั้นขึ้นมาจากพื้นแล้วกำเอาไว้แน่น  และเดินไปเปิดประตูรถยนต์เพื่อเอาเอกสารไปให้ลูกค้าเซ็น พร้อมทั้งหยิบเหรียญสิบบาทจำนวนหนึ่งเหรียญออกมาจากเก๊ะใส่ของภายในรถกำเอาไว้แน่นรวมกับเหรียญสลึงเหรียญนั้น

          ผมได้ยินเด็กน้อยพูดกับพ่อของเธอซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่หน้าร้านว่า  “พ่อ! ลุงเขาเก็บตังค์ไปแล้วน่ะ  อยากรู้จังเลยว่าลุงเขาจะเอาไปทำอะไร ตังค์แค่สลึงเดียวเอง”

          “อยากรู้ก็ไปถามลุงเอาเองซิลูก?”  พ่อของเธอบอกแบบยิ้มๆ  

           หลังจากได้เอกสารครบแล้ว ผมก็ออกมาจากรถและปิดประตูรถไว้ แล้วเดินตรงเข้าไปหาเด็กผู้หญิงตัวน้อยคนนั้น  ผมยิ้มให้กับเธอและพูดกับเธอว่า    “สวัสดีจ๊ะ  สาวน้อย! ไหนยื่นมือมานี่ซิ แล้วแบมือออก ลุงมีอะไรจะมอบให้หนูน่ะ”

          เธอยิ้มให้ผมและทำตามที่ผมบอกโดยดี  ผมเลยนำเหรียญสลึงและเหรียญสิบบาทวางไว้บนมือของเธอทีละเหรียญ 

          “นี่คือ เหรียญสลึงที่หนูบอกให้ลุงเก็บเมื่อสักครู่นี้ และลุงก็ได้เก็บไปฝากไว้ที่ธนาคารให้หนู  ลุงคิดว่ามันเป็นเงินของหนูน่ะ ส่วนเหรียญสิบบาทเหรียญนี้ เป็นดอกเบี้ยที่เกิดจากการนำเหรียญสลึงไปฝากธนาคารเอาไว้ ตอนนี้ลุงเบิกมามอบให้หนูทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย รวมทั้งหมดสิบบาทกับหนึ่งสลึง จ๊ะ  อ้าว! รับไปซะโดยดี ”

           ผมมองเห็นเธอมีอาการตื่นเต้นและดีใจอย่างสุดขีด และตะโกนบอกพ่อกับใครต่อใครในบริเวณนั้นอย่างมีความสุข ว่า   “พ่อ! ดูซิค่ะ  ลุงคนนั้นเขาเอาเงินให้หนูตั้งสิบบาทแน่ะค่ะ ลุงเขาบอกว่าเป็นดอกเบี้ยที่เกิดจากเหรียญสลึงอันนั้น ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ลุงเขาใจดีจริงๆ  เลย ตอนนี้หนูรู้แล้วว่าลุงเขาเก็บเอาเหรียญสลึงเอาไปทำอะไร”

          “แล้วลุงเขาเก็บเอาเงินไปทำอะไรละลูก?”   พ่อของเธอถามขึ้น 

          “ก็เอาไปฝากธนาคารนะซิค่ะ แล้วก็เบิกจากธนาคารเอามาให้หนู”  เธอตอบ 

          ในขณะที่ผมยืนรอรับเอกสารคืนจากเจ้าของร้านค้าแห่งนั้น ผมมองเห็นเด็กน้อย เดินเอาเงินเหรียญสิบบาทที่ผมให้เธอไปให้ใครต่อใครดู ทำให้หลายๆ คนในบริเวณนั้นพลอยมีความสุขและหัวเราะไปกับเธอด้วย 

           ความสุขและเสียงหัวเราะที่เกิดขึ้นในตอนนั้น  ไม่ใช่ความบังเอิญแต่อย่างใด หากแต่เป็นสิ่งที่นักเดินทางผู้ต่ำต้อยอย่างผมเจตนาหรือตั้งใจอยากจะให้เกิดขึ้น  เพื่อทำให้เด็กน้อยคนนั้นมีความสุขและมีความรู้สึกที่ดีๆ  พร้อมทั้งช่วยทำให้บรรยากาศที่เคร่งเครียดในบริเวณนั้นมีความเบิกบานใจขึ้นมาได้บ้าง

          ผมคิดอยู่ในใจว่า หากผมเก็บเหรียญสลึงเหรียญนั้นไปจริงๆ บรรยากาศก็คงจะแตกต่างไปจากที่กำลังเป็นอยู่ราวฟ้ากับดินอย่างแน่นอน แทนที่จะทำให้เด็กคนนั้นมีความสุข ก็อาจจะทำให้เธอเกิดความทุกข์ใจขึ้นมา  และผู้คนในบริเวณนั้น ก็อาจจะมองผมในอีกด้านหนึ่งแทน 

 

          “ลุงค่ะ ! ลุงชื่ออะไรค่ะ?”  เธอถาม ขณะที่ผมกำลังเดินกลับไปที่รถ 

          “ไม่บอก....แม่ของลุงสั่งเอาไว้ว่า  ห้ามบอกชื่อแก่คนแปลกหน้าจ๊ะ”  ผมพูดหยอกเธอเล่น 

           “ก็ได้ๆ   ถ้างั้นหนูจะตั้งชื่อให้ลุงใหม่ละกันนะค่ะ แล้วหนูจะจำเอาไว้ตลอดเวลาเลยค่ะ”   เธอบอก 

           “หนูจะตั้งชื่อใหม่ให้ลุงว่าอย่างไรรึ?”  ผมถามด้วยความอยากรู้ 

           “ลุงสิบบาท....ค่ะ”    

           พอเธอพูดจบลง ก็ทำให้ผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นพากันขำและหัวเราะไปตามๆ กัน รวมทั้งตัวผมเองด้วย 

           วันนั้น เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมทำงานเสร็จตั้งแต่หัววันและจบการเดินทางลงด้วยบรรยากาศที่มีความสุขและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม 

 

 

................................................................

บนเส้นทางทุกสายที่เรากำลังก้าวเดินไป

ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล 

ยังมีเรื่องราวน่ารักๆ อีกมากมาย 

ที่สามารถจะทำให้เรายิ้มและหัวเราะได้ตลอดทั้งวัน 

ถ้าเพียงแต่เราจะรู้จักเรียนรู้และเก็บเกี่ยว

 



เพลง  "กระต่ายกับเต่า"

ฉบับภาษาอินเดีย 

 

 

 



หมายเลขบันทึก: 451562เขียนเมื่อ 30 กรกฎาคม 2011 06:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (26)

การแบ่งปัน เล็กๆ น้อยๆ

สามารถสร้างทัศนคติบวก

และสังคมเชิงบวกได้

..ไม่แน่ อีก 20 ปีข้างหน้า

หนูน้อยอาจเก็บความประทับใจนี้

เล่าให้ลูกของเธอฟังก็ได้คะ..

เป็นการสร้างความประทับใจให้เด็กน้อย และเป็นการสร้างสุข.......เกิดสุขของคนชุมชนแห่งนั้น

  • อ่านแล้วพลอยเบิกบานใจ
  • การแบ่งปันย่อมทำให้เกิดความสุขและรอยยิ้มได้เสมอนะคะ
  • ขอบพระคุณค่ะ

มีความสุขกับการได้อ่าน "ลุงสิบบาท" มากเลยครับ

ขอบคุณครับ.

สวัสดีครับ คุณหมอ CMUpal

ยินดีที่ได้รู้จักครับ

ผมเห็นด้วยกับที่คุณหมอกล่าวมานะครับ

เลยลงมือทำอย่างนั้นไปในทันทีโดยไม่รีรอ

ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะมาเยี่ยมและให้กำลังใจ

สวัสดีครับ ท่านวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei

ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับดอกไม้และกำลังใจที่มอบให้เสมอมา

ผมคิดว่า....ความสุขเราสร้างขึ้นเองได้นะครับ

และสังคมที่มีความสุขและน่าอยู่ เราก็สามารถสร้างขึ้นได้เช่นกันครับ

ถ้าเพียงแต่เราจะช่วยกันคิดและช่วยกันทำคนละเล็กคนละน้อย

ขอบคุณมาก ๆครับ

สวัสดีครับ คุณธรรมทิพย์

ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับดอกไม้และกำลังใจที่มีให้เสมอมา

ใช่แล้วครับ...การแบ่งปันย่อมทำให้เกิดความสุขและรอยยิ้มได้เสมอ....ทั้งผู้ให้และผู้รับ

ขอให้มีความสุขตลอดเวลานะครับ

สวัสดีครับ คุณ phnan

ยินดีที่ได้รู้จักครับ

ขอบคุณมากๆ เลยครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจ

ขอบคุณมากจริงๆ ครับ

เรื่องน่ารักดี เห็นความเอื้ออาทร ชอบมากเลย มาเขียนบ่อยๆๆนะครับ

หวังว่าลุงสิบบาทคงต้องเก็บเหรียญบาทใส่ประเป๋าไว้ทุกวัน

เพราะอาจทำให้เราได้ ให้ความสุขแก่เด็กน้อยสักวันละสิบ นะครับ

มีความสุขกับการอ่านบันทึกนี้จังเลย

คุณไม่ใช่นักเดินทางผู้ต่ำต้อยสักหน่อย

คุณคือนักบันทึกการเดินทางที่ทำให้ผู้คนมีความสุข ต่างหาก

สวัสดีครับ อาจารย์ขจิต ฝอยทอง

ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจ

ผมจะพยายามทำตามที่อาจารย์แนะนำมานะครับ

แต่จะทำได้ดีแค่ไหนนั้น คงจะต้องเรียนรู้อีกเยอะเลยครับ

เนื่องจากผมยังเป็นน้องใหม่อยู่(ใน GTK)

ขอบคุณมากๆ ครับผม

สวัสดีครับ ท่านอาจารย์โสภณ

หากเด็กน้อยคนนั้นได้พบกับท่านอาจารย์

ผมว่าเธอคงจะโชคดีกว่าที่พบกับผมเสียอีกนะครับ

และเธออาจจะตั้งชื่อใหม่ให้ท่านอาจารย์ว่า "ลุงร้อยบาท" ก็ได้นะครับ (คิคิคิ)

สวัสดีครับ คุณ พ.แจ่มจำรัส

ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับดอกไม้และความรู้สึกที่ดีๆ ที่มอบให้

ไม่ว่าผมจะเป็นอะไรก็ตาม.....ผมสัญญากับตัวเองว่าจะเป็นอย่างดีที่สุดนะครับ

จะพยายามสร้างความสุขและรอยยิ้มให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ...ในทุกแห่งหน ที่มีโอกาส

ขอบคุณจริงๆ ครับ

สวัสดีค่ะ

อ่านแล้วก็มีความสุขตามค่ะ ใช้ใจสร้างคุณค่า สร้างรอยยิ้มและความสุขที่ประเมินค่าไม่ได้

ชื่นชมค่ะ

สวัสดีครับ คุณถาวร

ในทุกๆ แห่งหน เราสามารถที่จะค้นพบรอยยิ้มและความสุขได้เสมอนะครับ

ขอเพียงให้ตั้งใจค้นหาเท่านั้นเอง

ขอบคุณมากๆ ครับ

อ่านแล้วพลอยมีความสุขไปด้วยนะคะ

บางสิ่งบางเรื่องเล็กๆที่เราไม่ละเลย

อาจเป็นเรื่องใหญ่สำหรับอีกคน

เหมือนที่หนูน้อยคนนี้รู้สึก

ขอบคุณเรื่องราวดีๆที่มีมาแบ่งปันค่ะ

สวัสดีครับ คุณป้าลำดวน

ในสังคมของเรายังมีเรื่องราวเล็กๆ อีกมากมายนะครับ

ที่รอคอยให้เราเข้าไปค้นหาและเรียนรู้

หากเราช่วยกันคนละเล็กคนละน้อย

สังคมที่เราอยู่ก็คงจะมีแต่ความสุขและพบเจอแต่รอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา

ขอบคุณมากๆ ครับ

  • ขอบคุณเรื่องราวดีๆนี้ครับ "ลุงสิบบาท" 
  • พร้อมทั้งขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมเยือนครับ

สวัสดีครับ คุณธนิตย์ สุวรรณเจริญ

ยินดีที่ได้รู้จักครับ

ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะมาเยี่ยม

อ่านแล้วนึกภาพไปด้วย ยิ้มไปด้วย มีความสุขค่ะ

ขอบคุณที่นำมาเล่าแบ่งปันค่ะ

สวัสดีครับ คุณบัวชมพู

ยินดีที่ได้รู้จักครับ

ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจ

จะพยายามสรรหาเรื่องราวดีๆ มาแบ่งปันให้อ่านบ่อยๆ นะครับ

ขอบคุณมากๆ ครับ

*** ความสุขเราสร้างขึ้นเองได้

*** น่าติดตามมากค่ะ ขอขอบคุณ

ได้ข้อคิดดีๆ จากบันทึกนี้ค่ะ

สวัสดีครับ คุณกิติยา เตชะวรรณวุฒิ

ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจ

ใช่แล้วครับ...."ความสุขเราสร้างขึ้นเองได้"

โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวเราเอง

ทั้งความสุขเล็กๆ น้อยๆ และความสุขอื่นๆ

จากนั้นค่อยขยายไปสู่ส่วนอื่นๆ ของสังคม

ผมคิดและเชื่ออย่างนั้นนะครับ

ขอบคุณมากๆ ครับ

สวัสดีครับ คุณ Nui

ยินดีที่ได้รู้จักครับ

ขอบคุณมากๆ  ที่กรุณาแวะมาเยี่ยมและให้กำลังใจ

ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท