จงแปรเปลี่ยน “ความรัก” เป็นพลังสร้างสรรค์ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ (The Kama Sutra of Business)


ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ จึงไม่ใช่การลงทุนลงแรงในวันนี้ เพื่อคาดหวังผลตอบแทนในวันพรุ่ง เพราะชีวิตแสนสั้นของเราอาจด่วนลับลาไปในราตรีที่สวยงามนี้ ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่คือ ผลิตผลที่ปรุงกลั่นอย่างละเมียดละมุน ที่ทำให้เราเบิกบานใจในทุกห้วงเวลานาที เปรียบประดุจการอยู่ร่วมกับคนที่รัก แม้จะมีเวลาที่เจ็บปวดและตึงเครียดบ้าง หากก็ยังหวานล้ำกว่าความโดดเดี่ยวในบ้านหลังใหญ่เพียงลำพัง

 

โดย เจริญชัย ไชยไพบูลย์วงศ์

(www.siamintelligence.com)

 



กุลสตรี = ชมชอบผู้ชายดี + หลงรักผู้ชายเลว + แต่งงานกับผู้ชายรวย


“ความรัก” ไม่เคยมีสูตรสำเร็จตายตัว
เต็มไปด้วยความเสี่ยงและปวดร้าวรันทด
หากทว่าผลตอบแทนก็สูงล้ำค่าทั้งในเชิงจิตวิญญาณและร่างกาย
จึงไม่แปลกประหลาดอันใดที่มนุษย์ทั้งหญิงชาย ไม่ว่าจะสูงศักดิ์หรือต่ำต้อย
ชาญฉลาดหรือโง่เขลา ย่อมต้องมีสักห้วงยามหนึ่งในชีวิต
ซึ่งเพ้อเจ้อเพ้อฝันที่จะวางเดิมพันทุกสิ่งในชีวิตเพื่อคำว่ารัก
โดยไม่ปรารถนาเหตุผลและคำอธิบายใด


พิจารณาเพียงผิวเผิน ความรักและธุรกิจน่าจะเป็น 2
วิถีที่โคจรห่างไกลกันสุดหล้า
เพราะฝ่ายหนึ่งมีเป้าหมายเพียงเพื่อเงินทองและผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม
ในขณะที่อีกฝ่ายยินดีสละทุกสิ่งทุกอย่าง ขอเพียงได้ยินคำว่า “รัก”
ที่เปล่งออกมาจากน้ำใสใจจริง


สิ่งเดียวที่เชื่อมโยงธุรกิจไว้กับความรัก ก็คือ ความยากแท้หยั่งถึง
ทุกธุรกิจล้วนเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน กิจการที่เคยยิ่งใหญ่ในวันนี้
ก็อาจล้มเหลวเป็นผุยผงได้เมื่อสถานการณ์พลิกผัน
กลไกตลาดพร้อมจะจูบปากคลอเคลียกับผู้ชนะรายใหม่
ประดุจเดียวกับกุลสตรีรูปงามที่สลัดรองเท้าคู่เก่าไปไม่ไยดี
โดยไม่แคร์ว่าอดีตจะเคยรักกันดูดดื่มหวานชื่นถึงปานใด



1. ความรัก คือ ผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทั้งในยามธุรกิจรุ่งเรืองหรือเสื่อมทรุด


ในขณะที่เงินลงทุนก้อนสุดท้ายกำลังจะหมดลง
ก็พลันมีลูกค้ารายใหญ่เหลือบแลเห็นคุณค่าของกิจการ
ธุรกิจที่กำลังร่อแร่ก็พลันพลิกฟื้นคืนชีวิต


ในขณะที่ธุรกิจกำลังไต่ขึ้นถึงจุดสูงสุดแห่งคุณค่า
ก็พลันมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาท้าทาย และกวาดลูกค้าที่สั่งสมมา 30 ปี
ไปอย่างไม่เหลือเยื่อใย


เราจะหยั่งรู้ได้อย่างไรว่ามหาเศรษฐีเยี่ยงบิลเกตส์ สตีฟจอบส์ บัฟเฟตต์
เจเคโรวลิ่ง และลีกาชิง ร่ำรวยขึ้นมาได้เพราะความสามารถ
เพราะอยู่ถูกที่ถูกเวลา หรือเพราะโชคชะตาบันดาลให้เป็นไป
ความสำเร็จและล้มเหลวของคนคนหนึ่งล้วนเต็มไปด้วยองค์ประกอบและความไม่แน่นอน
สุดคณานับ ดังนั้น จึงยากจะแสวงหาสูตรสำเร็จที่สามารถลอกเลียนแบบได้
โดยไม่ต้องผ่านความลำบากลำบนและเจ็บปวดทรมานแห่งการต่อสู้ดิ้นรน


ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ จึงไม่ใช่การลงทุนลงแรงในวันนี้
เพื่อคาดหวังผลตอบแทนในวันพรุ่ง
เพราะชีวิตแสนสั้นของเราอาจด่วนลับลาไปในราตรีที่สวยงามนี้
ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่คือ ผลิตผลที่ปรุงกลั่นอย่างละเมียดละมุน
ที่ทำให้เราเบิกบานใจในทุกห้วงเวลานาที เปรียบประดุจการอยู่ร่วมกับคนที่รัก
แม้จะมีเวลาที่เจ็บปวดและตึงเครียดบ้าง
หากก็ยังหวานล้ำกว่าความโดดเดี่ยวในบ้านหลังใหญ่เพียงลำพัง


ศตวรรษที่ 21
นับเป็นครั้งแรกที่มนุษย์มีโอกาสที่จะเลือกทำในอาชีพและธุรกิจที่รัก
โดยไม่จำเป็นต้องกัดก้อนเกลือกิน
เพราะไม่เคยมียุคสมัยใดที่สังคมจะเต็มไปด้วยความสลับซับซ้อนได้ถึงเพียงนี้
อาชีพอิสระที่แตกต่างและหลากหลายได้ผุดขึ้นมากมายราวกับเปลวไฟในขุมนรก
วัยรุ่นที่หลงใหลในเสียงดนตรีหรือเกมคอมพิวเตอร์ ก็สามารถทำเงินได้ล้นเหลือ
หากรู้จักแสวงหาช่องทางที่หมาะสมลงตัว ความสนุกและหมกมุ่นในบางสิ่ง
ก็กลับสามารถแปรเปลี่ยนเป็นธุรกิจพันล้านหากฉลาดล้ำในการเล่าเรื่องได้น่า
ประทับใจและยืดหยุ่นให้สอดคล้องกับความต้องการที่ซับซ้อนของผู้บริโภคในระบบ
ทุนนิยม


บัณฑิตจากรั้วมหาวิทยาลัย
ไม่จำเป็นต้องอูดอู้อยู่ในโรงงานและธนาคารตั้งแต่หนุ่มยันแก่อีกต่อไป
หากทว่าสามารถลาออกไปเปิดร้านกาแฟหรูเลิศที่พอเพียงเลี้ยงตัวเองได้อย่างมี
ศักดิ์ศรี บางคนอาจรับจ้างออกแบบเว็บไซต์ในยามกลางวัน
เล่นดนตรีที่ร้านอาหารชั้นสูงในยามราตรี
แต่ละชีวิตจึงมีอาชีพที่หลากหลายซ้อนทับกัน
เส้นทางที่เต็มไปด้วยอิสรภาพและไม่ต้องสังกัดองค์กรใหญ่ที่เซื่องซึมงุ่น
ง่านอีกต่อไป


พลังสร้างสรรค์ในการแปรเปลี่ยน “สิ่งที่รัก” ให้กลายเป็นธุรกิจยิ่งใหญ่
จึงไม่ใช่สิ่งที่ไกลเกินเอื้อมอีกแล้ว
หากเป็นความหาญกล้าที่จะมีความสุขได้
โดยไม่ต้องรอให้ถึงวัยชราที่อุดมด้วยเหรียญตรา หากยากไร้เรี่ยวแรงแห่งชีวิต

ยิ่งเมื่ออาชีพการงานทุกวันนี้พรั่งพร้อมเสมอที่จะปลดพนักงานทันทีที่
เศรษฐกิจตกต่ำ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแสวงหาความมั่นคงในชีวิตอีกต่อไป


หากสิ่งที่แน่นอนและมั่นคงเพียงหนึ่งเดียวของมวลมนุษยชาติในศตวรรษที่
21 ก็คือ การได้ทำงานที่รักและมีความสุขในทุกคืนวันของชีวิต
เพื่ออบร่ำผลงานประณีตบรรจงที่สุดส่งมอบแด่ลูกค้าด้วยหัวใจที่เปี่ยมล้น
เอียงอาย ประดุจรักแรกในคืนวิวาห์


2. ความรัก คือ ปิติยินดีที่จะปรับเปลี่ยนตัวเอง เพื่อให้คนที่รักเต็มตื้นไปด้วยความมหัศจรรย์ใจ


“รักแท้” อาจอุบัติขึ้นได้ในห้วงฉับพลันแห่งการประสานสบตา
หากการรักษาให้ยั่งยืนยาวต้องอาศัยการปรับตัวเข้าหากันอย่างยิ่งยวด
การละเลยข้อบกพร่องเล็กน้อยของคนรัก
ย่อมเพิ่มรสสัมผัสในองค์รวมแห่งรักให้เข้มข้นกล่มกล่อมยิ่งกว่าใด


ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่เพราะใจรัก
จึงไม่ควรหมกมุ่นแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้งามเลิศ
หากยังต้องรู้จักปรับตัวเข้าหาลูกค้าด้วย
การตามใจลูกค้าโดยไม่ยอมรับฟังสิ่งที่อยู่ล้ำลึกลงไป
ย่อมนำไปสู่การส่งมอบสินค้าที่ถูกใจ
แต่ไม่สร้างห้วงมหัศจรรย์เหมือนในวันแรกเจอ
คืนแล้วคืนเล่าที่ซ้ำซากจืดชืดย่อมนำไปสู่ความเบื่อหน่ายคลายรัก
ที่ทำให้ต้องร้างลากันไปตลอดกาล


ธุรกิจที่เต็มไปด้วยเหตุผลยิ่งใหญ่
จึงไม่อาจสร้างสรรค์ผลกำไรที่สะเทือนฟ้าดินได้ หากทว่าการสัมผัสถึง
“ระหว่างบรรทัด” ในความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของลูกค้า ลูกน้อง และคู่แข่ง
ย่อมนำไปสู่การพัฒนาสังเคราะห์ผลิตภัณฑ์ที่ระยิบระยับอัศจรรย์
กระตุ้นความกระหายต้องการจากทุกฝ่ายมิรู้สิ้น
ผลกำไรยิ่งใหญ่จึงเป็นผลพลอยได้ของกระบวนการร่วมรัก
ที่ไร้ขีดจำกัดแห่งกระบวนท่า


3. ความรัก คือ การรู้จักตัดใจ เพื่อปลดปล่อยให้แต่ละคนได้มีอิสรภาพในการค้นพบรักใหม่ หรือกลับมาหากันด้วยความคิดถึงที่ยิ่งกว่าเดิม


สิ่งที่ยากเย็นเข็ญใจที่สุดในศิลปะแห่งรัก ก็คือ “ตัดใจปล่อยวาง”
เมื่อความรักที่ทุ่มเทไม่เป็นดั่งหวัง
ยิ่งยื้อยุดก็เหมือนจะฉุดคร่าให้ต่ำลงไปด้วยกัน
การผลัดใบเพื่อให้บางสิ่งในตัวเขาและเธอได้รับการปลดปล่อย
ก็อาจทำให้แต่ละคนได้ค้นพบความรักที่จริงแท้
ในขณะที่ความรักครั้งเดิมเป็นเพียงห้วงมายาเงาฝัน
เพื่อเตรียมความพร้อมให้เราสองได้เติบโต


หากโชคดีกว่านั้น การแยกทางชั่วขณะ
ก็อาจทำให้รู้จักกันและกันได้ดียิ่งขึ้น จึงกลับมาหวานชื่นได้ยิ่งกว่าใด
ไม่คิดจะพรากจากกันตลอดนิทราที่ยาวนาน

 

จุดอ่อนฉกรรจ์ของธุรกิจที่ร้อนรุ่มด้วยรักก็คือ ความยึดมั่นถือมั่น
แม้กาลเวลาและสภาพการณ์ได้แปรเปลี่ยนไปหลายห้วงอสงไขย รู้ทั้งรู้ว่าหายนะ
ก็ยังยอมลงนรกไปพร้อมกับซากสลักหักพังของความรัก
ความใจกว้างล้นเหลือเพื่อประคองส่งมอบหญิงเคยรักให้ชายคนใหม่ที่คู่ควรได้
ดูแลเธอต่อไป จึงนับเป็นเรื่องประเสริฐสุด
เพื่อจะทำให้เรามีเงินทุนและอิสรภาพในการเริ่มต้นค้นหารักใหม่
ในขณะที่แลเห็นธุรกิจที่ปลูกสร้างมากับมือได้เติบโตไปในทิศทางที่เหมาะสมกับ
ยุคสมัย ไม่ต้องพินาศไปพร้อมกับความโฉดเขลาของตัวตนที่ติดยึด


บางทีกิจการที่เราขายทิ้งไปเมื่อสภาพการณ์ไม่เหมาะสม
ก็อาจหวนกลับมาแต่งงานควบรวมกับกิจการแห่งความรักที่เราพากเพียรสร้างสรรค์
ขึ้นใหม่ก็เป็นได้ อะไรก็เป็นไปได้สำหรับธุรกิจ
เพราะธุรกิจก็คือชีวิตที่ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว
การเชื่อมร้อยขององค์ประกอบที่หลากหลาย ในห้วงเวลาที่เหมาะสม
ย่อมนำไปสู่ความสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ให้กับผู้ประกอบการและผู้บริโภคได้
เบิกบานรื่นรมย์


ความรักเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่อาจอาศัยเหตุผล สัญชาตญาณ
และห้วงอารมณ์ได้เพียงโดดเดี่ยวลำพัง
หากยังต้องผสมผสานและปรับปรุงคลุกเคล้าอย่างต่อเนื่อง บางครั้งหกล้ม
บางครั้งเจ็บปวด หากก็ยังเรียนรู้และรับฟังเสียงกระซิบแผ่วเบา
เพื่อจะกลับมาประสานบทอัศจรรย์ได้ดียิ่งกว่าท่วงท่าที่เคยคุ้น


ธุรกิจก็เฉกเช่นเดียวกัน !



หมายเลขบันทึก: 449903เขียนเมื่อ 19 กรกฎาคม 2011 15:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท