ผีเสื้อ : พระราชนิพนธ์แปลในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี


เล่าเรื่องหนังสือดี มีคติสอนใจ

          ผู้เขียน    :   หวางเหมิง  อดีตรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม และกรรมการกลางพรรมคอมมิวนิสต์จีน

         สมเด็จพระเทพฯ ได้ทรงพระราชนิพนธ์นำเรื่องสรุปได้ว่า  เรื่อง “ผีเสื้อ” เป็นเรื่องที่บันทึกความเปลี่ยนแปลงของสังคมจีนในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม (คศ.๑๙๖๖-๑๙๖๙) แสดงให้เห็นผลกระทบทางการเมืองต่อชีวิตมนุษย์ในสังคม ความงดงามของเรื่องนี้อยู่ที่ความสามารถของผู้เขียนซึ่งสะท้อนให้เห็นปัญหาพื้นฐานของมนุษย์ คือ ความยากลำบาก  ความสลับซับซ้อนที่จะเข้าใจตนเอง  ยอมรับตนเอง และผสมผสานอุดมคติกับความเป็นจริงในชีวิต   ผู้เขียนพยายามแสดงให้เห็นว่า  สังคมและมนุษย์มีความสลับซับซ้อน  การปฏิวัติสังคม การสร้างสรรค์สิ่งดีงามทั้งหลายเพื่อส่วนรวมนั้น จึงมิใช่จะสำเร็จผลได้เพียงเพราะมีความปรารถนา อุดมคติ หลักการ  หรือทฤษฏีทางการเมืองเท่านั้น  หากต้องใช้ปัญญาพินิจตนเอง พิจารณาสังคมอย่างละเอียดรอบด้าน  จนสามารถเข้าใจตนเอง เข้าใจสังคมของตนอย่างถ่องแท้ตรงกับความเป็นจริง  จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาและสร้างสรรค์ประโยชน์อันแท้จริงได้สำเร็จ

             จางซือหยวน   ชายวัย ๕๙ ปี ลูกชาวนาที่ได้เป็นรัฐมนตรีช่วย มุ่งมั่น  เด็ดเดี่ยว  อุทิศตนเพื่อพรรค  เพื่องานราชการ  เพื่อประเทศชาติ  แต่ทว่า ชีวิตครอบครัวล้มเหลว  สับสนในบทบาทและสถานภาพของตนเอง  ระหว่างการเป็นผู้ชี้นำทางการเมืองจาง  ท่านเลขาจาง  ตาเฒ่าจาง และรัฐมนตรีช่วยว่าการจาง

             ไห่หยุน   นักเรียนสาวอายุไม่เต็ม ๑๘ ปี ประธานกรรมการองค์กรปกครองตนเองของนักเรียน  ได้แต่งงานกับจางซือหยวนในขณะที่เขาดำรงตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าคณะกรรมการควบคุมการทหารในเมือง อายุ ๓๐ ปี บุตรคนแรกของเขาและเธอเสียชีวิตหลังการคลอดไม่กี่ชั่วโมงโดยที่จางซือหยวนงานยุ่งไม่ได้อยู่เคียงข้างเธอขณะคลอด  หลังจากนั้นไห่หยุนได้เข้าเรียนวิชาวรรณคดีต่างประเทศในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อในเซี่ยงไฮ้  มีลูกชายกับจางซือหยวนอีกคน ชื่อว่า ตงตง  ในเวลาต่อมาไห่หยุนก็ได้พบเพื่อนชายคนใหม่ที่มหาวิทยาลัยและได้หย่าขาดจากจางซือหยวน  สุดท้ายไห่หยุนผูกคอตาย

             เหมยหลาน  ภรรยาคนที่ ๒ ที่ได้มาด้วยการจัดการของเพื่อนที่สนใจสวัสดิภาพของจางซือหยวน  เหมยหลานได้เข้ามาจัดระเบียบชีวิตของเขา การมาของหล่อนทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป ความเป็นอยู่ เสื้อผ้า อาหาร  จนบางครั้งเขารู้สึกว่าความเป็นอยู่ของตนเองถูกเหม่ยหลานนำ  ถูกจูงจมูก  เหมยหลานขอหย่าจากเขาเมื่อเขาถูกจับ ถูกปลด ถูกจองจำ และขอคืนดีกับเขาเมื่อเขาได้รับตำแหน่งคืน

             ตง ตง ลูกชายของจางซือหยวนกับไห่หยุน เด็กมีปัญหา ที่ไม่เข้าใจพ่อของตนในเบื้องต้น แต่สุดท้ายก็เริ่มที่จะเข้าใจกัน

             ซิวเหวิน  เป็นแพทย์หญิง เป็นหญิงหม้ายลูกติดที่เข้าได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย  มีทิศนะคติที่ดี

          บทสรุปสุดท้ายคือการค้นพบตัวเองของจางซือหยวน ที่ชีวิตเกือบจะไม่มีอะไรให้ชื่นชมนอกเสียจากตำแหน่งหน้าที่ เขาบูรณาการระหว่างความรับผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่ผู้นำกับความเป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง  พบว่าระหว่างการเป็นผู้ชี้นำทางการเมืองจาง  ท่านเลขาจาง  ตาเฒ่าจาง และรัฐมนตรีช่วยว่าการจางนั้นเป็นคนคนเดียวกัน  โดยมีชิวเหวิน  ตงตง และชาวบ้านในชนบทเป็นกำลังใจ เป็นแสงสว่างในวัยชราของเขา เขายังมีความหวังอย่างมากในอนาคตและมองไปข้างหน้าอย่างไม่สิ้นสุด.

          - พวกเขาทุกคนจะต้องเดินทางไปด้วยความกล้าหาญ ต่างคนต่างไปตามทางของตน  ทางเดินนั้นมีทุกรูปแบบ  แม้แต่คนเดียวกัน 

          -  เดินก้าวหนึ่ง  ก็ไกลออกไป

          -เขารู้ดีว่าการที่เรียกร้องให้เยาวชนไม่มีความคิดรุนแรงนั้นก็เท่ากับให้เยาวชนไม่ต้องเป็นเยาวชนนั่นเอง

          -  เป็นคนโชคดีที่เคราะห์ร้าย 

          -  สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของมนุษย์คือชีวิต  ชีวิตของแต่ละคนมีครั้งเดียว

          -  ลมย่อมปะทะกับลม    น้ำย่อมปะทะกับน้ำ  คนกับคนก็ขัดแย้งกัน  ตัวเองก็อาจจะสร้างความลำบากให้ตนเองได้  ชีวิตในโลกเต็มไปด้วยความขัดแย้ง  ดวงจันทร์ที่แหว่งเว้าก็จะเต็มดวงได้  คุณจะเชื่อแน่ได้ไหมว่าดวงจันทร์เต็มดวงนี้ ก็คือจันทร์ข้างแรมที่แหว่งเว้า มืดสลัว  ผีเสื้อไหมตายไป  เกิดมีตัวหนอนไหมยุบยับที่ไต่มากินใบหม่อนอีก  คุณรู้แน่นอนว่าไม่ใช่ตัวเดียวกัน  น้ำในแม่น้ำไหลไป  เกิดมีคลื่นลูกแล้วลูกเล่า  ลูกคลื่นที่พัดมาก่อนกับลูกที่พัดตามมานั้นมีความแตกต่างกัน คลื่นนั้นมีความต่อเนื่องกันอยู่ที่ไหน?

          -  กิ่งไม้จะผลิใบทุกๆ ปีในฤดูชุนเทียน เจ้าใบไม้ที่สดอ่อน  เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา...แต่เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงก็ต้องยอมให้ฤดูกาลกวาดล้างใบที่รักไปหมด  ในที่สุดเมื่อใบไม้จะต้องร่วงโรย เจ้าก็ไม่เสียดายอะไร  เพราะว่าเจ้าได้มีชีวิตแล้ว  ได้เติบโตแล้ว  ได้รักแล้ว  เจ้าใบไม้เล็กๆ ได้ทำประโยชน์อย่างสุดความสามารถแล้วเพื่อต้นไม้ใหญ่ เพื่อนก เพื่อคนรัก แต่ว่าถ้าเจ้าถูกทำลายไปในฤดูใบไม้ผลิหรือเมื่อแสงอาทิตย์เจิดจ้าในฤดูร้อนเพิ่งมาถึง  เจ้าจะไม่ร้องเสียใจหรือ?  เจ้าจะไม่อาลัยอาวรณ์หรือ? แม้ว่าต้นไม้ยังมีใบเป็นพันๆ หมื่นๆ ใบ  ปีต่อไปจะมีใบอีกสักพันสักหมื่นใบในฤดูใบไม้ผลิ  แม้ว่าต้นไม้ต้นใหญ่นั้นจะไม่แก่ตลอดไปในอนาคตที่เราคาดได้  แต่ทว่า ใบไม้เจ้าก็จะไม่กลับมาอีก  เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน  ถึงแม้ว่าโลกจะสูญสิ้นไปก็ตาม...

          -  ชีวิตไม่มีวันจบสิ้น  โลกนี้จึงจะไม่อยู่ในสภาพขึ้นราผุ  เนื่องด้วยความสกปรกของสนิม

          -  ไม่นานนักเขาก็รู้ดีว่าเด็กที่ไม่มีแม่เหมือนเสื้อผ้าไม่มีคนใส่  แต่เด็กที่ไม่มีพ่อคือคนไม่มีเสื้อใส่

          -  ทางขึ้นภูเขาคดเคี้ยว  แต่ทางชีวิตของคนคดเคี้ยวกว่า

          - ทำให้เขารู้สึกขึ้นมาและเข้าใจว่าผู้คนเขาไม่ได้นับถือจางซือหยวน  แต่นับถือเลขาธิการคณะกรรมการพรรคของนคร  เขาเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปพร้อมกับตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพรรคของนครนั้น  แต่เวลานี้ไม่เหมือนกันแล้ว  พวกชาวบ้านเห็นใจและไว้ใจเขา  มีเรื่องอะไรก็มาหาเขา  นี่ไม่ใช่เป็นเพราะอะไร  แต่เป็นเพราะว่าเขาเป็นคนดี เที่ยงตรง มีความคิดดี มีคุณธรรม ก็ไม่โง่ ฉลาดมาก และสามารถช่วยเหลือเอาใจใส่ผู้อื่น

          -  ทุกคนจะมองเห็นเงาของตัวเองได้  เงากลับหัวในน้ำมักจะสวยงามกว่าความเป็นจริง

          -  ในชนบทมีดวงดาวมากมายกว่าในเมือง  ภูเขามีความใกล้ชิดกับท้องฟ้ามากกว่าพื้นดิน  ประชาชนชาวเมืองอยู่ห่างไกลจากดาวมากกว่าชาวชนบท

          - เมื่อไม่มียามค่ำคืน ก็ไม่มีดวงดาว  ไม่มีท้องฟ้าที่มืดครึ้ม ไม่มีฝนตกก็จะไม่มีความปีติยินดีที่เกิดขึ้นภายหลังฝน  ไม่มีฤดูหนาวก็ไม่มีความสะอาดบริสุทธิ์ของเกล็ดหิมะที่ปลิวว่อนเต็มท้องฟ้า  เมื่อได้สิ่งหนึ่งก็ต้องสูญเสียอีกสิ่งหนึ่ง

 

 

          - เธอคือต้นไม้ที่ย้ายมาจากที่อื่นแท้ๆ  แต่ปรับตัวเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่นี้ได้  โดยรักษาอุปนิสัยตัวเองเอาไว้ซึ่งต่างกันกับพฤกษชาติที่นี้โดยสิ้นเชิง 

          -  หากคนจนจีนต่างกลายเป็นผู้ไม่รู้หนังสือละก็ คนจบแค่ชั้นประถมก็จะกลายเป็นนักปราชญ์  คนใหญ่คนโตอย่างพวกคุณจะเป็นทรัพยากรบุคคลที่หาได้ยาก ขนาดถือโคมไฟไปเที่ยวส่องหาก็ยากที่จะได้พบพาน พูดกันจริงๆ แล้ว คุณจะพกพาประเทศใส่กระเป๋าไปก็ไม่ได้ หรือเกาหัวแล้วมอบประเทศให้ชาวนาที่ถือได้แต่จอบอย่างเดียวไปง่ายๆ ก็ไม่ได้อีกนั้นแหละ  ประเทศจีนยังต้องอาศัยพวกคุณมาปกครองอยู่ดี เมื่อปกครองไม่ดี  คนทั้งในและนอกหมู่บ้านดอยต่างก็จะต้องสั่นหัวกระทืบเท้าดาพวกคุณ

          -  สรรพสิ่งมักต้องเกิดการแปรเปลี่ยน  มักต้องเดินไปสู่ด้านกลับของตัวเอง

          -  แม้ว่าตาเฒ่าจางจะมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายเรียบง่าย    แต่เขาก็ต้องไหลไปตามกระแสคลื่นในแม่น้ำประวัติศาสตร์  ทำอะไรไม่ได้เลย เมื่อได้สิ่งหนึ่งก็ต้องสูญเสียอีกอย่างหนึ่ง

          -  การบ่นร้องทุกข์เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด  ไม่ต้องเรียนจากที่ไหนเลย 

          - ท่านอย่าโกรธผมเลย  เวลานี้ผมไม่ยอมไปอยู่กับท่าน  เหตุผลหนึ่ง  คือท่านชอบอบรมสั่งสอนผมมากเกินไป เวลาแม่ยังอยู่  แม่ไม่เคยทำอย่างนี้  แม่ใช้เวลา ๙ ใน ๑๐ มาคอยดูแลผม  ใช้เวลาชี้แนะผมแค่ ๑ ใน๑๐

          - ถึงเครื่องบินจะบินสูงเท่าไรก็มาจากแผ่นดิน ก็ควรจะต้องลงสู่พื้นดิน ไม่ว่าคนเราหรือผีเสื้อก็เหมือนกัน  ล้วนเป็นบุตรของผืนแผ่นดิน

 

****************************

 

หมายเลขบันทึก: 449876เขียนเมื่อ 19 กรกฎาคม 2011 12:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2013 08:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

  ลมย่อมปะทะกับลม    น้ำย่อมปะทะกับน้ำ  คนกับคนก็ขัดแย้งกัน  ตัวเองก็อาจจะสร้างความลำบากให้ตนเองได้  ชีวิตในโลกเต็มไปด้วยความขัดแย้ง  ดวงจันทร์ที่แหว่งเว้าก็จะเต็มดวงได้  คุณจะเชื่อแน่ได้ไหมว่าดวงจันทร์เต็มดวงนี้ ก็คือจันทร์ข้างแรมที่แหว่งเว้า มืดสลัว  ผีเสื้อไหมตายไป  เกิดมีตัวหนอนไหมยุบยับที่ไต่มากินใบหม่อนอีก  คุณรู้แน่นอนว่าไม่ใช่ตัวเดียวกัน  น้ำในแม่น้ำไหลไป  เกิดมีคลื่นลูกแล้วลูกเล่า  ลูกคลื่นที่พัดมาก่อนกับลูกที่พัดตามมานั้นมีความแตกต่างกัน คลื่นนั้นมีความต่อเนื่องกันอยู่ที่ไหน?

 

*****

ข้อความย่อหน้านี้ดีจังค่ะ ธรรม คือ ธรรมชาตินะคะ

 

ขอบคุณบันทึกดี ๆ

 

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท