ประสบการณ์เจอแก็งค์ Call Center: การหากินบนความตื่นกลัวของมนุษย์


แนวทางป้องกันเมื่อต้องเจอกับแก็งค์ Call Center

เคยแต่ได้ยินได้ฟังจากข่าวเรื่องของแก็งค์ Call Center ที่หลอกลวงเอาเงินของชาวบ้านผ่านความรู้สึกที่หวาดระแวงในเรื่องของเงินๆทองๆ วันนี้ผมเพิ่งได้รับประสบการณ์ดังกล่าวเป็นครั้งแรก เลยอยากเผยแพร่ประสบการณ์พร้อมกับข้อวิเคราะห์ตามภาษาของนักวิจัย เผื่อไว้เป็นข้อเตือนสติให้กับหลายๆคนที่อาจจะมีโอกาสได้พบปะกับแก็งค์ดังกล่าวในอนาคต

เช้าวันหยุดพิเศษชดเชยวันเข้าพรรษา ผมเองด้วยความเป็นพ่อบ้านและปกติหากเป็นวันหยุดผมมักจะออกไปจ่ายตลาดใกล้ๆบ้านในตอนเช้าเสมอ เช้าวันหยุดนี้ก็เช่นกัน ระหว่างผมเดินจ่ายตลาดอยู่นั้น ก็ปรากฎสายเรียกเข้าทางโทรศัพท์ของผม ที่เมื่อพิจารณาแล้วหมายเลขที่ขึ้นบนหน้าจอนั้นจะดูแปลกตาสักนิด (+88676101161) หากด้วยความเคยชินของผมที่มักมีเพื่อนติดต่อมาจากต่างประเทศก็จะเข้าใจว่าเป็นสายเรียกเข้าจากต่างประเทศแน่นอน แต่เมื่อผมรับสายก็ได้รับฟังข้อความที่มีลักษณะเหมือนสายอัตโนมัติแจ้งว่าเป็นสายของธนาคารชั้นนำแห่งหนึ่ง และที่สำคัญแจ้งว่าผมมีการใช้บัตรเครดิตของธนาคารดังกล่าวซึ่งเป็นยอดค้างชำระจำนวนเงิน 3600 บาท พร้อมทั้งโยนหินถามทางต่อด้วยว่าหากต้องการรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมถึงยอดดังกล่าวให้กดหมายเลข 9 เพื่อติดต่อพนักงาน เมื่อฟังข้อความจบผมทราบได้ทันทีเลยว่ากำลังโดนแก็งค์ Call Center เล่นตลกอะไรแน่นอน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงกดหมายเลขติดต่อไปยังพนักงาน ซึ่งผมก็ได้คุยกับพนักงานของธนาคารทันที ประโยคแรกที่ได้รับฟังคือมีอะไรจะให้ทางเขาช่วยบ้าง ผมเลยทำเสียงตื่นเต้นบอกไปว่า ผมได้รับฟังข้อความว่าผมติดหนี้บัตรเครดิตของธนาคารของคุณเป็นยอดเท่านี้ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร เข้าทางทันทีครับ เหมือนกับพนักงานดังกล่าวพยายามจับเสียงความตื่นเต้นของผม รีบตอบกลับว่าใจเย็นๆนะค่ะ ไม่ต้องตกใจทางเขาจะช่วยผมแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยถามผมต่อว่าผมเป็นลูกค้าของธนาคารดังกล่าวในลักษณะใด มีบัญชีออมทรัพย์ ATM หรือบัตรเครดิดต ผมตอบไปว่าบัตรเครดิตครับ (ทั้งๆที่ผมไม่เคยเป็นลูกค้าของธนาคารดังกล่าวเลย) พนักงานหญิงคนดังกล่าวไม่รีรอที่จะถามผมต่อถึงหมายเลขบัตรเครดิตของผมในทันที ด้วยความที่ผมเองนั้นจำไม่ได้ว่าบัตรเครดิตนะเขาใช้ตัวเลขกันกี่หลัก ก็เลยใช้มุขถามไปถึงที่อยู่ของพนักงานดังกล่าวว่ามาจากสาขาใด ได้รับคำตอบว่ามาจากราชบูรณะพร้อมทั้งบอกชื่อ และหมายเลขพนักงาน (แหม.....เนียนเชียวนะ อ๋อลืมบอกไปครับว่าเสียงรอบข้างที่เข้ามาในสายระหว่างการสนทนาของผมกับพนักงานคนนี้นะเป็นเสียงที่มีลักษณะเหมือนออฟฟิศธนาคารที่มีการทำงานมากครับ) ผมเริ่มหงุดหงิดด้วยเพราะต้องถือของและจ่ายกับข้าวอยู่ และเธอเองก็เริ่มสงสัยในคำถามของผมมากขึ้นแล้ว ผมเริ่มยิงประเด็นตรงเป้าทันทีครับว่า ทำไมหมายเลขธนาคารคุณที่โทรเข้าหาผมมันแปลกจัง เหมือนหมายเลขจากต่างประเทศเลยนะ อีกทั้งเวลาคุณพูดดูเหมือนกับไม่ใช่คนไทย มีหลายๆคำที่พูดไม่ชัด เธอเริ่มพูดจาติดขัด ผมไม่รอช้ายิงประโยคเด็ดถามเธอว่า นี่คุณเป็นคนไทยหรือเปล่าเนี่ย จบประโยคนี้ผมได้รับคำตอบด้วยประโยคอันรุนแรงจากเธอด่าบรรพบุรุษของผมพร้อมทั้งการตัดสายสนทนา

ที่เล่ามาทั้งหมดผมอยากวิเคราะห์ให้ฟังถึงเหตุการณ์ดังกล่าว เผื่ออาจใช้เป็นยาป้องกันพวกมิจฉาชีพเหล่านี้ได้เป็นดังนี้ครับ

  • โดยปกติหากธนาคารจะมีการติดต่อกับท่าน ผมว่าธนาคารต้องใช้เบอร์ที่เป็นลักษณะทางการของธนาคาร ซึ่งมิใช่เบอร์โทรประหลาดๆ หรือเบอร์โทรศัพท์มือถือ หากท่านได้รับเบอร์โทรประเภทดังกล่าวพึ่งระลึกไว้ครับว่าท่านกำลังโดนแก็งค์นี้โทรเข้ามาแน่นอน
  • โดยปกติหากมีการใช้บัตรเครดิตชำระหนี้ใดๆก็ตาม แล้วมียอดค้างชำระ ไม่มีทางครับที่ธนาคารจะโทรมาติดต่อท่านโดยตรง ธนาคารจะส่งใบแจ้งค้างชำระหนี้มายังที่อยู่ของท่านครับ เสียงอัตโนมัติแรกที่ฟังแล้วพยายามบอกว่าท่านติดหนี้ก็ด้วยเพราะคนเรามักเกิดความระแวง โดยเฉพาะหากมีใครมาบอกว่าเป็นหนี้ทั้งที่เราไม่ได้ก่อ เรื่องเงินๆทองๆ นี่แหละครับ ชี้จุดอ่อนของมนุษย์เราได้อย่างดีที่สุด ด้วยเพราะชีวิตเราปัจจุบันนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องเงินๆทองๆเป็นหลักในการดำรงชีวิต หากไม่ตั้งสติให้ดีก็ติดกับดักของพวกแก็งค์ดังกล่าวที่พยายามใช้ความหวาดระแวง และความโลภของมนุษย์เรานั่นเอง ยิ่งถ้าท่านเกิดความตื่นกลัว สติก็จะขาดไป คราวนี้เหมือนเปิดจุดอ่อนให้พวกนี้หลอกลวงได้ง่ายขึ้น (สังเกตได้จากพอผมแสดงความตื่นกลัวด้วยน้ำเสียง เธอก็รีบรุกคืบใช้ประโยคที่ว่าไม่เป็นไรนะ ทางเราจะช่วยแก้ไขให้ ใจเย็นๆ)
  • สิ่งที่สามารถจับได้อีกประเด็นของแก็งค์ดังกล่าวที่ผมเจอก็คือ เสียงของพนักงานธนาคาร โดยส่วนใหญ่ที่ผมมีการทำธุรกรรมติดต่อกับธนาคารมักจะใช้บุคคลที่พูดภาษาไทยได้ชัดเจนครับ แต่ที่ผมเจอนี่พูดไทยได้ไม่ค่อยชัดเจนอีกทั้งฟังจากน้ำเสียงก็เป็นผู้หญิงที่มีอายุหน่อย แหมธรรมดาไม่ค่อยได้เจอหากเป็นธนาคารใหญ่ขนาดนี้ผมว่าจะเป็นเสียงพนักงานหญิงที่อายุน้อยหน่อยนะครับ
  • สิ่งสำคัญหากท่านขาดสติพวกนี้จะรุกคืบหลอกถามหมายเลขบัตรทันที จำไว้ครับไม่ควรด่วนใจร้อนรีบให้ไป เพราะเขาก็จะกลอุบายต่อไปในการพยายามหลอกเอาเงินของท่านมาให้ได้ ซึ่งตรงนี้ผมยังไปไม่ถึงด้วยเพราะรีบด่วนใจร้อนถามประโยคเด็ดไปเสียก่อน ก็เลยได้รับคำอวยพรให้กับบรรพบุรุษของผมจากเธอ

 

เรื่องนี้ของผมอาจเป็นประสบการณ์ตรงที่ผมได้สัมผัสเป็นครั้งแรก ถึงแม้อาจจะไม่สามารถพบเจอได้จนครบกระบวนการที่แก็งค์ดังกล่าวใช้ในการหลอกลวงได้ครบทั้งหมด แต่ที่ผมเขียนเพื่อนำเสนอนี้ก็อยากจะให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนอื่นๆ ที่หาเงินมาด้วยความสุจริต และด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเองว่า หากพบเจอกับแก็งค์ดังกล่าวที่สำคัญคือ สติ ครับ อยากตื่นตูม “สติมาปัญญาจะมี” แล้วเราจะพินิจพิเคราะห์ได้ว่า พวกมันกำลังจะมาหลอกเรา แหมแต่ที่สงสัยนิดๆในใจของผมนะก็คือ ทำไมเจ้าหน้าที่บ้านเมืองของเราไม่จัดการกับพวกนี้ให้หมดไปสักทีครับ ไม่รู้ว่าตามยาก หรือคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากว่าวันหนึ่งๆ แก็งค์นี้โทรไปสัก 100 สาย แล้วประสบความสำเร็จสัก 10 เปอร์เซนต์ หนึ่งปีจะเป็นความเสียหายขนาดไหนครับ เอาจริงๆกันสักทีก็ดีนะครับ ผมว่ายังมีอีกหลายรูปแบบคงไม่ใช่แค่แบบที่ผมเจออย่างเดียว นี่ก็หวั่นใจเหมือนกันว่าในอนาคตจะเจอรูปแบบไหนอีก คิดแล้วกลุ้มครับไทยหลอกไทยกันเอง

 

                                                                                                                                ผศ.ดร.กิติกร จามรดุสิต

                                                                                                                                18 กรกฎาคม 2554

คำสำคัญ (Tags): #แก็งค์ Call Center
หมายเลขบันทึก: 449849เขียนเมื่อ 19 กรกฎาคม 2011 09:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 17:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท