ขอบคุณภาพจาก http://www.learners.in.th/blog/kanok1/294
สวัสดีคุณหนุ่มกรคนว่าง่าย
สบายดีนะคะ เห็น ชื่อบันทึกขึ้น ควายๆ มาหลายตอน ตั้งแต่ก่อนลงคะแนน
วันนี้มีอารมณ์ เข้ามาชมน้องควาย อ้าว เป็นเรื่องควายจริงๆ นะคะ ฝันดีค่ะ
สวัสดียามค่ำครับอาจารย์ Poo ..ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจ เด็กเลี้ยงควาย ครับ..ควายจริง ๆ ครับ..
สวัสดียามค่ำครับคุณ Krusorn ..พวกเราโชคดีที่ยังได้เห็นควายไถนา นะครับ ขอบคุณครับ ตอนนี้ก็กินยาเป็นอาหารประจำวัน ครับ...
สวัสดีครับคุณหนุ่ย .. ที่บ้านผมเลี้ยงแต่ควาย คงเป็นเพราะอยู่ใกล้ลำคลอง ควายชอบแช่น้ำเกลือกโคลน...วัวชอบแดดเวลาทำงานก็ต้องทำเป็นคู่..ไม่เหมือนควายไถนา ลากข้าว ตัวเดียวก็ทำได้...ขอบคุณที่แวะมาทักทายยามค่ำ สบายดีนะครับ
การสนตะพายคงทำได้ยากพอควรเทียวครับ
หรือมีวิธีทำให้ง่ายได้อย่างไร
ควายเจ็บมากน้อยเพียงใด
สวัสดีครับอาจารย์โสภณ "สนตะพาย" นี่ควายคงเจ็บมากตอนเอาไม้ไผ่ปลายเจาะร้อยเชือกที่จมูกครั้งแรก พอเอาเชือกสนตะพายไว้แล้ว เชือกตะพายนี้ก็ใช้ไปจนขาดแล้วเราก็เปลี่ยนใหม่ จมูกมันก็จะมีรูตลอดไป ผมว่าน่าจะคล้าย ๆ กับการเจาะหูของเรา..ขอบคุณครับอาจารย์.. สวัสดีครับคุณ อาร์ม ขอบคุณสำหรับดอกไม้ที่ให้กำลังใจ..ผมเคยเป็นลูกค้าที่ วอง สาขารังสิต ครับ..
บุญคุณควายมีมากล้นนะคะ เป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากของชาวนาไทยมาแต่โบราณกาล ขอบคุณบันทึกดีๆเหล่านี้ที่เตือนให้พวกเราไม่ลืมคุณค่าของควาย
สวัสดีค่ะมาติดตามเรื่องควายจึงเห็นว่าสมัยนี้ไม่มีเด็กเลี้ยงควายแล้ว เพราะควายไม่มีให้ ถ้ามีก็ถูกกักไว้ให้คนชมและซื้อบัตรขี่ควาย หายากที่มีเป็นฝูงแบบนี้..มีแต่ในรูปเนอะท่านเนอะ
ขอบคุณครับอาจารย์ ..ครับ..สำหรับผมถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วหลายสิบปี ก็ยังระลึกถึงพวกมันเสมอเหมือนดังที่ท่านว่าเป็นคู่ทุกข์คู่ยากของชาวนา(ในสมัยนั้น)ครับ ...สวัสดีครับอาจารย์ ถูกต้องครับก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ก็ยังพอมีอยู่บ้างฝูงควายแต่น่าจะไม่ได้เลี้ยงเพื่อใช้งาน ...ส่วนมากคงขึ้นรถสิบล้อส่งโรงงานลูกชิ้น อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีศูนย์อนุรักษ์ควายหลายแห่ง...ครับ