นายเกษตรตะกอน
ว่าที่ รากหญ้า ต่ำกว่าฟ้าสูงกว่าดิน

ขี้เหล็ก


ขี้เหล็ก

ขี้เหล็ก ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Cassia siamea Lamk ชื่อในท้องถิ่นต่างๆ เช่น ขี้เหล็กบ้าน(ลำปาง), ขี้เหล็กใหญ่(ภาคกลาง), ขี้เหล็กหลวง(ภาคเหนือ), ขี้เหล็กจิหรี่(ภาคใต้), ยะหา(ปัตตานี)

ลักษณะของขี้เหล็ก เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ใบเป็นแบบใบรวม มีใบย่อยประมาณ 10 คู่ ใบเรียว ปลายใบมนหยักเว้าหาเส้นใบเล็กน้อย โคนใบกลม สีเขียว ใต้ใบซีดกว่าด้านบน และมีขนเล็กน้อย ดอกขี้เหล็กเป็นช่อสีเหลือง ฝักแบนหนา ต้นขี้เหล็กสามารถปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย โดยใช้เมล็ดปลูก

คุณค่าทางอาหารของขึ้เหล็ก ดอกตูมและใบอ่อนของขี้เหล็ก มีรสขม อาจต้องนำมาคั้นน้ำทิ้งก่อน จึงจะนำมาปรุงอาหาร นิยมใช้ทำแกงกะทิ หรือทานเป็นผักจิ้ม ช่วยระบายท้องได้ดี ทั้งดอกตูมและใบอ่อนมีสารอาหาร เช่น วิตามินเอ วิตามินซี ค่อนข้างสูง ซึ่งในส่วนของดอกจะมากกว่าใบ ส่วนใบขี้เหล็กบ่มรวมกับผลไม้ ช่วยให้ผลไม้สุกเร็ว

ส่วนที่ใช้เป็นยาของขี้เหล็ก คือ ทั้ง ราก ต้น ใบ ดอก ผล สรรพคุณทางยาไทย ดอกตูมและใบอ่อน รสขม ช่วยระบายท้อง ทำให้นอนหลับ ช่วยเจริญอาหาร

ประโยชน์ทางยาของขี้เหล็ก มีสารชื่อว่า บาราคอล(BaraKol) อยู่ในใบอ่อนและดอกตูม และยังพบว่าสารอัลคาลอยด์(alkaloid) ในใบขี้เหล็ก มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ช่วยให้นอนหลับได้

ขี้เหล็กเป็นยารักษาโรค ดังนี้

  1. อาการท้องผูก ใช้แก่นขี้เหล็กราว 1 กอบ(ประมาณ 50 กรัม) ต้มน้ำดื่มก่อนอาหารหรือก่อนนอน
  2. อาการนอนไม่หลับ กังวล เบื่ออาหาร ให้ใช้ใบแห้งหนัก 30 กรัม หรือใช้ใบสดหนัก 50 กรัม ต้มเอาน้ำรับประทานก่อนนอน หรือใช้ใบอ่อนทำเป็นยาดองเหล้า ใส่เหล้าขาวพอท่วมยา แช่ไว้ 7 วัน คนทุกวันให้น้ำยาสม่ำเสมอ กรองกากยาออก จะได้น้ำยาดองเหล้าขี้เหล็ก ทานครั้งละ 1-2 ช้อนชาก่อนนอน (และอย่ากินเยอะเดี๋ยวเมา)
คำสำคัญ (Tags): #ขี้เหล็ก
หมายเลขบันทึก: 448125เขียนเมื่อ 8 กรกฎาคม 2011 11:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • นำต้นขี้เหล็กขอบสระ
  • ปลูกเมื่อปีกลาย
  • ต้นนี้เติบโตได้ดีที่สุด
  • ปีนี้ปลูกใหม่อีกราว20กว่าต้น

  • ชอบกินแกงขี้เหล็กเหมือนพี่ใหญ่นงนารทค่ะ
  • เมื่อก่อนกินเพราะกินตามพ่อแม่ปู่ย่าตายาย
  • ต่อไปคงกินเพราะมีสรรพคุณทางยาด้วย
  • ขอบคุณที่แบ่งปันความรู้ค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท