..................................................................
หลังวิกฤตน้ำท่วมเมืองน่านผ่านพ้นไป สภาวะต่างๆ ก็เริ่มคลี่คลายกลับเข้าสู่สภาวะปกติ Node ปัว ซึ่งได้นัดหมาย node เครือข่าย ประกอบด้วย Node อ.สอง, อ.ลอง, อ.สูงเม่น จ.แพร่, อ.เชียงของ จ.เชียงราย, อ.สองแคว, อ.ปัว จ.น่าน Node ละ ๑๐ คน มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เล่าเรื่อง และถอดบทเรียนการทำงานร่วมกัน ในเวทีเล่าเรื่องและถอดบทเรียน “การพัฒนาเข้าสู่ระบบคุณภาพเครือข่ายบริการปฐมภูมิ(PCA) อย่างต่อเนื่อง ปี ๒๕๕๔ ภายใต้โครงการพัฒนาระบบคุณภาพเครือข่ายบริการปฐมภูมิต่อเนื่องของ Node ปัว ระหว่างวันที่ ๔-๕ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ณ ศศิดารารีสอร์ท อ.เมืองน่าน ท่ามกลางความกังวลหลายคนว่าน้ำท่วมลดหรือยัง จะเลื่อนเวทีออกไปไหม แต่ The show must go on. ทุกอย่างคงเดินต่อไปตามโปรแกรม
..................................................................
เริ่มด้วยทักทายและต้อนรับเข้าสู่เมืองน่านอย่างเป็นทางการ เป็นการเปิดแบบสบายๆ ที่อยากให้ทุกคนได้นำเอาเรื่องราวดีดีมาแลกเปลี่ยนกันอย่างเป็นสุข
เริ่มจากเปิดวีดิทัศน์ประกอบเพลงของคุณอ้อม ชุด “From a note to a song” และเรื่องเล่าของ ดร.ประมวล เพ็งจันทร์ ชุด “ประมวลความรัก” ซึ่งเป็นวีดิทัศน์จากงาน Ignite Thailand ที่ใช้หากินมาหลายงาน
..................................................................
คุณหนิง(ทัศนีย์ สิงห์ธนะ) ชักชวนให้แต่ละ CUP ได้แนะนำตัวเพื่อทำความรู้จักคุ้นเคยกัน หลังจากนั้น คุณหมอเอก(นพ.กิติศักดิ์ เกษตรสินสมบัติ ผู้อำนวยการ รพร.ปัว) ได้ชี้แจงวัตถุประสงค์ของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในครั้งนี้ว่าจะเป็นการในแบ่งปันเรื่องเล่าดีดีจากประสบการณ์จริงในพื้นที่ แล้วมานำคลี่ดูว่ามันสอดคล้องกับ PCA อย่างไร หมวดไหน เป็นการเรียนรู้จากเรื่องเล่าเรื่องจริงไปอธิบายตามหลัก PCA
หลังจากนั้นได้แบ่งกลุ่ม ๖ กลุ่มด้วยการนับ เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว จึงต้องพักเติมพลังกันก่อน
...................................................................
พักเบรก เติมอาหารกาย
...................................................................
กลับมาเข้ากลุ่มเดิม เชิญเสียงระฆังแห่งสติ เชื้อเชิญทุกคนกลับมาสู่บ้านที่แท้จริง กลับมาอยู่กับลมหายใจที่อ่อนโยนของตัวเอง
อ่านบทความ “Imelda” โดย Richard Selzer แล้วสะท้อนแลกเปลี่ยนในกลุ่มว่า “อ่านบทความนี้รู้สึกอย่างไร ? และเรื่องนี้บอกอะไรกับตัวเรา ?
...................................................................
แต่ละกลุ่มสะท้อนความรู้สึกและบทเรียนให้กลุ่มใหญ่ฟัง
...................................................................
ระดมสมอง เรื่องเล่า “ทำให้เกิดการเปลี่ยนในตัวเรา การทำงานของเรา และโลกของเราอย่างไร ?”
...................................................................
เติมอาหารกาย
...............................................................
หลังพักอาหารกลางวัน เติมน้ำตาลในเลือดแล้ว ก็เริ่มกระบวนการเรียนรู้ด้วยการดูวีดิทัศน์ “เพียงความธรรมดาของเส้น” แล้วทุกคนให้สะท้อนหัวใจของหนังเรื่องนี้
จากหนังสะท้อนให้เห็นว่า
....การเล่นของเด็ก ที่เล่นๆ แต่การเอาจริงเอาจังนำไปสู่การทะเลาะกัน แต่เด็กทะเลาะแล้วก็ดีกัน หายกัน เป็นเพื่อนกัน.....
....มิตรภาพของความเป็นเพื่อน....
....การเอาจริงเอาจังกับเส้นแบ่ง ที่เป็นกรอบกติกาที่ตั้งขึ้นมา....
.....การแข่งขันกัน โดยลืมเป้าหมายที่แท้จริง ทำให้เกิดความขัดแย้งกัน.....
....การยึดติดกับสิ่งสมมติ ความเป็นหมอ เป็นพยาบาล เป็นนักวิชาการ ทำให้เกิดเส้นแบ่งตัวตนระหว่างกันและกัน....
“การยึดติดกับการสมมติ ทำให้เกิดความขัดแย้ง การยึดมั่นในกฎกติกา ความเป็นอัตตา ตัวกูของกู”
....................................................................
เล่าเรื่องเล่าที่แต่ละ CUP ได้เตรียมมาให้กลุ่มฟัง กลุ่มละ ๑ เรื่อง เป็นเรื่องเล่าดีดีจากการทำงานที่ยกมาเป็นตัวอย่างกรณีศึกษา ให้ทุกคนได้ร่วมกันถอดออกมาว่า เรื่องนี้ “หัวใจสำคัญของเรื่องคืออะไร”
แล้วให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มสรุปสาระจากเรื่องที้ได้ฟังและสรุปว่าหัวใจของเรื่องนี้คืออะไร แล้วกระบวนกรหลังคือคุณหมอเอก และคุณหมอมยุเรศ (ทพญ.มยุเรศ เกษตรสินสมบัติ) ได้เสริมว่าเรื่องเล่านี้มันไปเชื่อมโยงกับ PCA แต่ละหมวดอย่างไร ?
.....................................................................
พักเติมน้ำตาลเพิ่มความฉ่ำหวานของร่างกายช่วงบ่าย
.....................................................................
คุณหมอเอก ขอฟังเสียงสะท้อนจากกลุ่มที่ผ่านมาเข้าใจหรือไม่อย่างไร มีข้อเสนอแนะอย่างไร ? จากเสียงสะท้อนพบว่าหลายคนยังไม่เคยรู้เรื่อง PCA มาก่อน ไม่เข้าใจเรื่อง ๗ หมวดของ PCA
จึงมีการสรุปเนื้อหาเรื่อง PCA ๗ หมวด สั้นๆ แล้วให้เล่าเรื่องต่อจากก่อนเบรก
คุณหมอเอก และคุณหมอมยุเรศ (ทพญ.มยุเรศ เกษตรสินสมบัติ) ได้เสริมความเชื่อมโยงกับ PCA แต่ละหมวด ให้เห็นภาพ เป็นการเขียน Profile ที่ไม่แห้งแล้งน้ำ แต่เป็น PCA ที่มีชีวิตและกินได้
......................................................................
เรื่องเล่าเล็กๆ แต่เปี่ยมไปด้วยพลัง พลังของผู้ให้บริการที่ทุ่มเทกายและใจ มุ่งมั่นพัฒนางานสาธารณะให้เป็นสุข
แม้เรื่องราวอาจเล็ก แต่คนฟังหัวใจพองโต นี่เป็นเรื่องของการพัฒนาคุณภาพบริการปฐมภูมิที่จริงแท้
เหลือเพียงแต่ว่าจะนำเรื่องราวเหล่านี้ไปร้อยเรียงเขียนไปเป็น Profile ตามแนวทางของ PCA อย่างไรเท่านั้น
......................................................................
ช่วงท้ายได้แจกกระดาษให้ทุกคนได้เขียนคำถาม หรือสะท้อนความรู้สึกว่า เข้าใจหรือไม่เข้าใจ PCA อย่างไร
คำตอบที่ได้ก็มีทั้งที่เข้าใจมากขึ้น เห็นเป็นรูปธรรม บางส่วนก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็พอจะจับทิศทางได้บ้าง
แต่คำตอบที่เรียกเสียงทีมกระบวนกรมากที่สุดเห็นจะเป็นกระดาษที่เขียนว่า “เข้าใจ CPA มากขึ้น” ฮา ๆ ๆ ๆ
......................................................................
วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๔
วันนี้อากาศดี แดดออกจ้าแต่เช้า
เริ่มต้นการเรียนรู้ด้วยการเชื้อเชิญทุกคนนั่งสมาธิภาวนาแบบมีบทนำด้วย “บทภาวนาจากหมู่บ้านพลัม” และดูวีดิทัศน์เรื่องเล่า “โครงการหมออาสามาหานะเธอ” จากงาน Ignite Thailand
..............................................................
คุณหมอเอก เกริ่นนำว่า “.....การทำ PCA เป็นเรื่องยาก แต่เราสามารถเรียนรู้ได้จากเรื่องเล่าดีดี แล้วนำไปเชื่อมโยงกับการพัฒนา PCA....จะเป็น PCA แท้ ที่จับต้องได้ ไม่ใช่เขียนแบบภาพรวมๆ หาเนื้อแท้ของงานไม่เจอ เวลาทีมตรวจเยี่ยมมาตรวจ เขาจะให้ยกตัวอย่างการทำงานที่เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ หากเรามีเรื่องราวการปฏิบัติงานที่ดีอยู่แล้ว ก็สบาย สามารถเชื่อมโยงกับ PCA หมวดต่างๆ ได้.....”
..............................................................
หลังจากนี้ได้ให้ตัวแทนแต่ละ CUP ได้นำเสนอเรื่องเล่า เรื่องละ ๑๐ นาที มีเรื่องเล่าดีดีจากพื้นที่ต่างๆ มาเล่าสู่กันฟัง มีทั้งเล่าสด เล่าประกอบสไลด์ และคลิปวีดิโอ
เรื่องแรก “มิตรภาพบำบัดในการดูแลผู้ป่วยจิตเวช” เล่าโดย คุณพจนารถ ปกรณ์รัตน์ รพ.สต.ต้าผามอก อ.ลอง จ.แพร่
เรื่องที่ ๒ “รถเร่พุ่มพวง ควงอบต.ขอตรวจมะเร็งปากมดลูก” เล่าโดย คุณรัตน์ชรีญาภรณ์ ฤทธิ์ศาสตร์ รพ.สต.แดนชุมพล อ.สอง จ.แพร่
เรื่องที่ ๓ “พลังศรัทธา งดเลี้ยงอาหารว่างและสุราในงานศพ” เล่าโดย คุณสุธีร์วรรณ คำจันทรา รพ.สต.เวียงทอง อ.สูงเม่น จ.แพร่
เรื่องที่ ๔ “Paliative care สี่มิตรแท้ดูแลใกล้ใจ” เล่าโดย รพ.สต.บุญเรือง อ.เชียงของ จ.เชียงราย
เรื่องที่ ๕ “แม่ ลูก Schizophrenia” เล่าโดย คุณอาพัฒศิริ ธรรมลังกา รพ.สต.ภูคา อ.ปัว จังหวัดน่าน
เรื่องที่ ๖ “การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยจิตเวชด้วยมิตรภาพบำบัด” เล่าโดย คุณจีระนันท์ รพ.สองแคว จ.น่าน
.............................................................
พักเติมอาหารกาย
.............................................................
ช่วงบ่ายเริ่มด้วยการให้ดูภาพน้ำท่วมเมืองน่านเป็นการอุ่นเครื่อง
แล้วให้คุณเล่า Case Study เรื่อง“การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานสู่ระบบบริการปฐมภูมิ เครือข่ายบริการสาธารณสุข อำเภอปัว (CUP ปัว)” เล่าโดย คุณกรองกาญจน์ ปะทิ รพร.ปัว จ.น่าน เป็นการนำเสนอให้เห็นระบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานที่เชื่อมโยงกันทั้ง CUP ตั้งแต่ รพ. สสอ. รพ.สต. สสช. และชุมชน
หลังจากนำเสนอ คุณหมอเอก และทีมได้ช่วยกันคลี่ให้เห็นว่ากรณีศึกษานี้ไปเชื่อมโยงแต่ละหมวดของ PCA อย่างไร และมีค่านิยมหลักอย่างไร
ทำให้หลายคนถึงบางอ้อ มันไม่ยากอย่างที่คิด
........................................................................
กระบวนการเรียนรู้สุดท้ายได้แบ่งกลุ่มตาม CUP พร้อมให้โจทย์ช่วยกันคิดว่า “หลังจากผ่านกระบวนการเรียนรู้มา ๓ รูปแบบแล้วคือ OM, การเขียนแบบประเมินตนเอง, และเรื่องเล่า ให้ช่วยกันวิเคราะห์ว่าแต่ละรูปแบบมีจุดแข็ง จุดอ่อน อย่างไร และรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ครั้งหน้าอยากให้เป็นรูปแบบใด ?”
หลังจากระดมสมองแลกเปลี่ยนกันในกลุ่มเสร็จก็ให้ตัวแทนกลุ่มได้นำเสนอผลการประชุมกลุ่ม
..........................................................................
คุณหมอเอก ได้สรุปการเรียนรู้ปิดท้ายว่า “.....การเรียนรู้ยังไม่สิ้นสุด เพราะการพัฒนาคุณภาพต้องทำต่อเนื่องตลอดไป ไม่มีที่สิ้นสุด เป็นวงจรคุณภาพที่หมุนไปเรื่อยๆ....การเรียนรู้ไม่มีรูปแบบตายตัว ยืดหยุ่นได้ตลอดเวลา แต่หัวใจคือเราได้เรียนรู้ และนำเอาเรื่องราวดีดีที่ได้แบ่งปันกัน ได้เล่าสู่กันฟังนำไปปรับใช้ในพื้นที่ของตนเอง....”
..........................................................................
เป็นการปิดท้ายการเรียนรู้ด้วยมิตรภาพ และรอยยิ้ม
นัดพบกันอีกครั้งที่เชียงราย
..........................................................................
ขอบคุณเรื่องเล่าดีดี และผู้ร่วมแบ่งปันความรู้ มิตรภาพ และร้อยยิ้ม
ด้วยใจที่เป็นสุข
มีความสุขค่ะที่ได้กลับมาดู กระบวนการเรียนรู้นี้อีกครั้งถึงแม้ ผ่านกระบวนการเรียนรู้มา ๓ รูปแบบแล้วคือ OM, การเขียนแบบประเมินตนเอง, และเรื่องเล่า วิเคราะห์ว่าแต่ละรูปแบบมีจุดแข็ง จุดอ่อน อย่างไร และรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ครั้งหน้าอยากให้เป็นรูปแบบใด ?” ถ้าผู้บริหารของหน่วยงานนั้น ไม่มุ่งผลประโยชน์ตนเองมากกว่าส่วนรวม ผู้บริหารจะสำคัญที่สุดที่นำทีมค่ะ การให้แรงจูงใจแก่ใต้ผู้บังคับบัญชาที่ทำงานด้วยกันอย่างเสมอภาคทีมจะเกิดที่นั่นค่ะ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ตั้งใจทำงาน เพื่อสุขภาวะคนน่าน
สวัสดีครับ ขอบคุณที่นำมาแบ่งปัน
ชมรมฮักเมืองน่าน งานศพหนานเกียรติ เห็นหลายท่านแต่มิกล้าทักทายครับท่าน