สวัสดีค่ะ
ถอดบทเรียนการสร้างและใช้แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมสุขภาพเด็กปฐมวัย
เขตตรวจราชการสาธารณสุขที่ 10 , 11
วันที่ 16 – 17 มิถุนายน 2554
ณ ห้องเชียงงาม โรงแรมบ้านเชียง จ.อุดรธานี
ผู้เข้าประชุม เจ้าหน้าที่สาธารณสุข นักวิชาการสาธารณสุข ผอ.รพ.สต. ทันตาภิบาล ทันตแพทย์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ผู้เลี้ยงดู ผู้ปกครองเด็กปฐมวัย นักวิชาการศึกษา ประธานสภา อบต. ที่เคยร่วมกระบวนการสร้างและใช้แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ (Strategic Route Map:SRM) ในการส่งเสริมสุขภาพเด็กปฐมวัยในตำบลพื้นที่รับผิดชอบ ปี 2553 จากจังหวัดในเขตตรวจราชการสาธารณสุขที่ 10 , 11 ได้แก่อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย เลย นครพนม และบึงกาฬ จำนวน 50 คน
วิทยากร ทพญ.วรางคณา อินทโลหิต สสจ.หนองบัวลำภู ทพ.วัชรพงษ์ หอมวุฒิวงศ์ สสจ.หนองคาย ทพญ.ปิยะนุช เอกก้านตรง ทพญ.ศริญทิพย์ ชาลีเครือ ศูนย์อนามัยเขตที่ 6 ขอนแก่น และทพญ.ธิรัมภา ลุพรหมมา โรงพยาบาลสระใคร จ.หนองคาย
ผลประชุมกลุ่มจังหวัด ทบทวนประวัติศาสตร์
จ.อุดรธานี
1. รู้สึกอย่างไรกับการทำงานที่ผ่านมาของโครงการ
- ได้นำความรู้แนวทางปฏิบัติและความต้องการที่แท้จริงจากภาคีเครือข่าย มาพัฒนาในกลุ่มเด็กปฐมวัย
2. การทำงานปีที่แล้ว เกิดประโยชน์อะไรบ้าง (ต่อตนเอง ต่อพื้นที่ และต่อกลุ่มเป้าหมาย)
2.1 ต่อตนเอง
- ได้ประสบการณ์และความรู้ที่จะนำไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงาน
- การทำงานโดยมีส่วนร่วมจากภาคีเครือข่าย
- มีการสานต่อจากภาคีเครือข่าย
2.2 ต่อพื้นที่
- มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปทางที่ดีขึ้น
- ชุมชนได้รับความรู้และทราบปัญหา สามารถนำไปปฏิบัติอย่างถูกต้อง
- ชุมชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันดูแลรักษาสุขภาพช่องปาก
2.3 ต่อกลุ่มเป้าหมาย
- เด็กปฐมวัยมีการพัฒนาด้านสุขภาพในช่องปากดีขึ้น
- ปลูกจิตสำนึกในการแปรงฟัน
- ได้รับการป้องกันดูแลรักษาสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธี
3. ถ้าอยากทำใหม่หรือไปทำกับหมู่บ้านอื่นหรือพื้นที่อื่น จะทำให้ดีกว่าเดิมหรือแตกต่างจากเดิมอย่างไร
- ขยายแกนนำจากภาคีเครือข่าย และมาศึกษาเรียนรู้แนวทางปฏิบัติขบวนการการทำงาน จากพื้นที่เดิม
- นำปัญหาและการแก้ไขปัญหา มาประยุกต์ใช้ให้ตรงตามบริบทของพื้นที่
4. อะไรเป็นกระบวนการที่สำคัญ ที่ใช้ในการดำเนินงานจนประสบความสำเร็จ (ปัจจัยแห่งความสำเร็จ)
- ความร่วมมือ ความเสียสละ ความพอใจของภาคีเครือข่าย
- งบประมาณเพียงพอ
- แก้ปัญหาตรงความต้องการของชุมชน
จ.หนองบัวลำภู (ต.โคกม่วง อ.โนนสัง และ ต.กุดสะเทียน อ.ศรีบุญเรือง)
1. รู้สึกอย่างไรกับการทำงานที่ผ่านมาของโครงการ
- ภาคภูมิใจที่ได้จัดทำโครงการโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน
- ได้เห็นปัญหาอุปสรรคในการจัดทำโครงการ และแนวทางแก้ไข อาทิ ปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหา เช่น พฤติกรรมการเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม ทัศนคติ ค่านิยม ท้อในบางครั้ง ผู้ปกครองยังไม่เห็นความสำคัญ
2. การทำงานปีที่แล้ว เกิดประโยชน์อะไรบ้าง (ต่อตนเอง ต่อพื้นที่ และต่อกลุ่มเป้าหมาย)
2.1 ต่อตนเอง
- เข้าใจเด็ก/ผู้ปกครอง
- การรับรู้กติการ่วมกัน
- เรียนรู้วิธีแก้ปัญหา
- ชุมชนให้ความร่วมมือเพิ่มขึ้น
2.2 ต่อพื้นที่
- มีการพัฒนาและต่อยอดความคิด
- มีส่วนร่วมของชุมชน
- มาตรการทางสังคม (ข้อตกลง)
2.3 ต่อเด็ก
- เด็กปฏิบัติตามกฎระเบียบ
- พัฒนาการสมวัย
- เด็กมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพช่องปาก
3. ถ้าอยากทำใหม่ หรือไปทำกับหมู่บ้านอื่นหรือพื้นที่อื่น จะทำให้ดีกว่าเดิมหรือแตกต่างจากเดิมอย่างไร
- เยี่ยมบ้าน/เข้าถึงชุมชนมากขึ้น
- ประชาสัมพันธ์ให้ต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นให้ชุมชนตระหนัก
- สร้างภาคีเครือข่ายในการทำงานให้รู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกันมากขึ้น
4. อะไรเป็นกระบวนการที่สำคัญ ที่ใช้ในการดำเนินงานจนประสบความสำเร็จ (ปัจจัยแห่งความสำเร็จ)
- ความร่วมมือของภาคีในชุมชน
- ความเอาใจใส่ ติดตาม และมีการประเมินผล
- การสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธาต่อคณะทำงาน
จ.นครพนม
1. รู้สึกอย่างไรกับโครงการนี้
- เป็นโครงการที่ดี
- ภาคีให้การสนับสนุนโครงการนี้ในระดับหนึ่ง ได้แก่
- การทำงานโครงการนี้
2. การทำงานเกิดประโยชน์ต่อตนเอง พื้นที่และชุมชน
2.1 ต่อตนเอง
2.2 ต่อพื้นที่และชุมชน
3. จากผลงานที่ผ่านมา ถ้าทำใหม่จะทำให้ดีหรือต่างจากเดิมอย่างไร
4. กระบวนการที่ทำให้งานสำเร็จ
จ.เลย
1. รู้สึกอย่างไรกับการทำงานที่ผ่านมาของโครงการส่งเสริมสุขภาพเด็กปฐมวัยด้วยการมีส่วนร่วมของภาคีฯ
2. การทำงานในปีที่แล้วเกิดประโยชน์อะไรบ้าง (ต่อตนเอง พื้นที่ กลุ่มเป้าหมาย)
3. ถ้าอยากทำใหม่ หรือไปทำกับหมู่บ้านอื่น หรือพื้นที่ จะทำให้ดีกว่าเดิมหรือแตกต่างจากเดิมอย่างไร
4. อะไรเป็นกระบวนการสำคัญที่ทำให้งานสำเร็จ
จ.หนองคาย
1. รู้สึกอย่างไรกับการทำงานที่ผ่านมาของโครงการฯ
- SRM เป็นเรื่องใหม่ ต้องทำความเข้าใจ
- จนท.ขาดความรู้ ความเข้าใจ SRM
- เลือกทำในชุมชน โดยเอาเวลาที่ชาวบ้านเลือกมาเป็นเวลาที่ว่างจากงาน
- อยากต่อยอดโครงการที่เกิดจากการใช้แผนที่ SRM
- เกิดมาตรการทางสังคม เช่นใน ศพด.ห้ามขายขนมให้เด็ก เป็นต้น
- มีการขยายผล มีคนสนใจเรื่องสุขภาพช่องปากเด็กเพิ่มขึ้น อยากมีความรู้
- ชุมชนอยากได้สื่อทันตุขศึกษา
- ได้รับการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายมากขึ้น
- รู้สึกเหนื่อยกว่าเดิม
2. การทำงานปีแล้วเกิดประโยชน์อะไรบ้าง (ต่อตนเอง ต่อพื้นที่และต่อกลุ่มเป้าหมาย)
- เกิดแผนงานสุขภาพในชุมชน
- จนท.ได้รับความรู้ พัฒนาตนเอง
- ชุมชน ชาวบ้านเสนอปัญหาและต่อยอดเอง
3. ถ้าอยากทำใหม่หรือไปทำกับหมูบ้านอื่นหรือพื้นที่อื่น จะทำให้ดีกว่าเดิม ควรทำอะไรบ้างที่ต่างจากเดิม
- ต่อยอดโครงการที่เกิดจาก SRM ในพื้นที่เดิม จากแผนที่ได้ในการทำครั้งแรก
- มาตรการใช้ค่ากลาง ในการเลือกกิจกรรมในแผน (SRM) ที่เสนอจะทำต่อ
4. อะไรเป็นกระบวนการที่สำคัญที่ใช้ในการดำเนินงาน จนประสบความสำเร็จ (ที่เป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จ)
- การสร้างทีม
- การประสานงานความร่วมมือของภาคีเครือข่าย
- เวทีประชาคมเป็นของชาวบ้าน โดยชาวบ้านคุยกันเอง จนท.หรือนักวิชาการห้ามจับไมค์ ให้ฟังชาวบ้านคุยกันก่อน รอให้ชาวบ้านถาม กรณีที่ต้องการวิธีแก้ปัญหาจึงจะให้ความเห็นได้
- ชาวบ้านเจ้าของงานเป็นคนนำเสนอเอง จนท.เป็นผู้ช่วยเตรียมเทคโนโลยีในการนำเสนอให้
ถอดบทเรียน แบ่งปันกลุ่มใหญ่
World café 3 รอบ คุยครบ 3 รอบแล้ว มีสิ่งอะไรที่ใหม่ในความคิด ความรู้ใหม่ เขียนลงกระดาษเป็นรายบุคคล ไม่เขียนชื่อแต่เขียนตำแหน่ง 10 นาที ส่วนผลงานกลุ่ม ส่งตัวแทนนำเสนอแบ่งปันผ้าปูโต๊ะสู่กลุ่มใหญ่ “ทำให้เขาแล้วเราจะได้คืน” “พี่มีสอง น้องมีสาม เอามารวมกัน”
รวบรวมปิ๊งแว๊บ จากรายบุคคล (อ้อจัดกลุ่ม ร้อยเรียงอีกที Content Analysis)
1. รู้ปัญหาแต่ละจังหวัด แต่ละที่แล้วมารวมกันออกมาก็คือ ปัญหาเจ้าหน้าที่ไม่พอในการทำงาน แต่ละที่ เพราะมีบ้านที่รับผิดชอบไม่เท่ากัน จนท.ยังไม่เห็นศักยภาพของชุมชนที่แท้จริง แม่เด็กขาดความเข้าใจในการมีความสุขในการกินขนมของเด็ก และไม่รู้ว่าเด็กวัยไหนต้องฝึกตรงไหนก่อน ความร่วมมือของผู้ปกครองกับเจ้าหน้าที่ ไม่มีข้อตกลงร่วมกัน (มาตรการทางสังคม)
2. การเข้าถึงชุมชน (วิธีการ) จิตใจ ความเชื่อใจ ความเชื่อมั่นในตัวเรา เปลี่ยนความคิด ด้วยจิต สาธารณะ จิตอาสา เจ้าหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน อำนวยความสะดวก ทำให้เขา แล้วเราจะได้คืน การใช้คำพูดกับประชาชน ให้หลีกเลี่ยงการใช้คำที่ชาวบ้านเข้าใจยาก การเปิดใจ การยอมรับ เทคนิคการดึงภาคีเข้ามาทำงานเป็นทีม
3. ค้นหาศักยภาพของชุมชน การค้นหาข้อมูลในชุมชนโดยจิตอาสา ลงพื้นที่เพื่อสำรวจ พฤติกรรมการบริโภคของเด็กและการแปรงฟัน ปรับการประชุมชี้แจงค้นหาปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยชุมชนแสดงความคิดเห็น / ข้อเสนอแนะในกลุ่มที่ประชุมเอง และมีส่วนราชการเป็นที่ปรึกษา เมื่อเวลา มีปัญหาแก้ไขไม่ได้
4. เทคนิคการบริหารความขัดแย้ง การหลีกเลี่ยง การเผชิญหน้า การมองมุมกลับ การใช้ ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์ ใช้คนให้ถูกกับงาน
5. ความแตกต่างของบริบทของแต่ละพื้นที่ ในการนำมาแก้ไขปัญหาให้บรรลุวัตถุประสงค์ เรื่องการจัดทำโครงการหรือแผนต้องชุมชนเป็นคนทำเอง (คิดเอง ทำเอง) การแสดงออกถึงความชัดเจนของภาคีเครือข่าย ในการร่วมกระทำโครงการเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาในเด็กปฐมวัย แกนนำภาคีเครือข่ายต้องมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องหรือโครงการที่จัดทำอย่างเพียงพอที่จะนำไปเสนอแก่ชุมชน เช่น
5.1 ส่งเสริมอบรมเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากที่ถูกวิธี
5.2 กลุ่มจิตอาสาเล่านิทานและให้ข้อคิดกับเด็ก ๆ ในการแปรงฟัน
6. คิด แล้วทำ แล้วแก้ปัญหา การติดต่อประสานงานระหว่างภาคีเครือข่ายต้องให้ต่อเนื่อง จนท.เป็นผู้ดูแล แต่ผู้ที่พูด เรามอบให้ประชาชน “เวทีเป็นของชาวบ้าน ให้หัวหน้าส่วนราชการอยู่เฉย ๆ” แต่ขาดความเข้าใจ ค่อยเป็นผู้ชี้แนะทีหลัง ปัญหาและข้อที่จะต้องแก้ไขปรับปรุง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ ความรู้เพิ่มเติม
7. เปรียบเทียบบริบทชุมชน แล้วประยุกต์ SRM มาใช้ในพื้นที่ใหม่ ขยายสู่พื้นที่อื่นตามบริบทของพื้นที่นั้น มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพิ่มเติม ต่อยอด จังหวัดนครพนมเก่งการทำแผนยุทธศาสตร์ หนองบัวลำภู ได้ที่ 1 โครงการอ่อนหวานไม่ให้เด็กกินขนมหวานเกินไป
7.1 เลือกพื้นที่ให้เป็นต้นแบบ เลือกคนในพื้นที่เป็นต้นแบบและพร้อมทำงาน มีการทำ SRM โดยคัดจากพื้นที่ที่เข้มแข็งเป็นพื้นที่ทำงาน เพราะจะให้ความร่วมมือที่ดี
7.2 มีการกำหนดมาตรการทางสังคม โดยการหาค่ากลาง “อันไหนที่คิดเหมือนกัน นับเป็น หนึ่งข้อที่เลือก”
8. ชุมชนเข้มแข็ง ประชาชนมีความสุขและสุขภาพดี
ตัวแทนกลุ่มสุดท้ายรอบ 3 ของ World Café นำเสนอ
กลุ่ม 1 เสนอโดยคุณภาพ รพ.สต.กุดสะเทียน ศรีบุญเรือง
- ที่สำเร็จ เช่น จ.อุดร เพราะจะของบสนับสนุน หรือขอความร่วมมือ ก็ได้รับการสนับสนุนดี
- ที่มีปัญหา เช่น จ.เลย ชุมชนร่วมมือน้อยเพราะไม่อยู่บ้าน ต้องไปขายล็อตเตอรี่ เหลือแต่คนแก่กับเด็ก หรือบางที่ ไม่ขอเอ่ยนาม เข้ากับ อบต. ไม่ได้ ซึ่งเป็นแหล่งเงินของเรา ไม่รู้จะแก้ไขยังไง
- ส่วนตัวคิดว่า การทำงานชุมชนเป็นงานท้าทาย การจะเข้าชุมชนนั้นต้องเรียนรู้บริบทของชุมชน บางครั้งเห็นชุมชนนั้นทำดี แต่เอาไปทำที่ชุมชนเราทำไม่ได้ ต้องปรับให้เข้ากับชุมชนเรา เราต้องมีทั้งเทคนิค ลูกล่อลูกชน ต้องปรับเปลี่ยนให้ได้
- คิดว่ามาครั้งนี้ได้ประโยชน์ เอาไปใช้ได้
กลุ่ม 2
- การทำแผน/โครงการ เจ้าหน้าที่ทำหมด พอเอามาดำเนินการในชุมชน ไม่ผ่าน เพราะชุมชนไม่ได้ทำ แต่โครงการที่ชุมชนทำเอง เจ้าหน้าที่เป็นผู้แนะนำ ผ่าน
- โครงการไม่ต่อเนื่อง มิดอ้อยจ้อย ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เชิงรุก
- ขาดการประสานงานระหว่างเครือข่าย (อ.เพ็ญ) ครูศูนย์ฯ บอกว่าทำกิจกรรมทุกอย่างกับเด็กอยู่แล้ว แต่ไม่รู้จะปรึกษาเจ้าหน้าที่คนใด เจ้าหน้าที่ไม่ให้ความรู้ รู้ตอนจะมีการประเมินศพด. จึงมีเจ้าหน้าที่มาให้ความรู้ การทำงานถ้ามีการประสานระหว่างเครือข่ายจะทำได้ง่าย
- แกนนำไม่มีความรู้ที่จะไปนำเสนอโครงการต่อเครือข่าย การนำเสนอในชุมชนให้เข้าใจทำได้ยาก เราต้องเลือกคนให้ถูก ถ้าเป็นชุมชนต้องเลือกประธาน อสม. หรือครูศูนย์เด็ก เพราะใกล้ชิดกับผู้ปกครองและชุมชน
กลุ่ม 3 เสนอโดย พ่อกำนัน ต.ทุ่งฝน
- ทำใหม่ ๆ ก็มีปัญหาเป็นธรรมดา ท้อเหนื่อย เพราะปัญหายังไม่ได้แก้
- มาตรการทางสังคม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ปกครอง
- การประสานงานภาคีเครือข่ายไม่ต่อเนื่อง
- เจ้าหน้าที่ยังไม่เห็นปัญหาของชุมชน บางทีอาจจะเห็นอยู่แต่ยังไม่พร้อม
- ได้เรียนรู้ชุมชน และแนวทางแก้ไขปัญหา จัดเวทีแก้ไขปัญหา แลกเปลี่ยนเพื่อนำไปแก้ปัญหาในพื้นที่
- ทาง จ.หนองบัว ครูศูนย์ฯ ได้ทำโครงการอ่อนหวาน ห้ามกินหวานในโรงเรียน ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน (ผู้ปกครอง อนามัย รพ.สต.) ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ ได้รับรางวัลระดับอำเภอ
- ทาง จ.อุดร มีการทำโครงการยิ้มฟันสวย โดยทางอนามัยได้แต่งตั้งคณะกรรมการ เอานายกอบต.มาเป็นประธาน ถ้าท่านไม่ร่วมมือก็เอาท่านมาเป็นประธานเลย เราจะได้ของบง่าย ประธานอสม.ต้องเข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถเห็นผลเปรียบเทียบได้ว่า โรคช่องปากเด็กจะลดลงหรือไม่
- การทำงานยังไม่ยั่งยืนเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะงบประมาณสนับสนุนไม่ต่อเนื่อง ขาดเจ้าหน้าที่
- สิ่งดีที่รู้ใหม่ ได้รับรู้พฤติกรรมของผู้ปกครอง ปัญหาในชุมชน ชุมชนมีการตื่นตัวในด้านสุขภาพร่างกาย ป้องกันอย่างถูกวิธี เมื่อก่อนแล้วแต่ลูกสิกินหยัง ตักเตือน (ลูกหล่าอย่าไปกินอันนี้เด้อ แข่วมันสิเพ)
กลุ่มที่ 4 เสนอโดยน้องยุ้ย ท่าบ่อ หนองคาย
- ครูศูนย์เด็กก็ชื่นชมเจ้าหน้าที่ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเค้าแค่พาครูศูนย์ฯไปดูงาน แต่ความคิดไอเดียครูคิดเอง
- ที่ชื่นชมของจ.นครพนม เค้าไปตรวจสุขภาพช่องปากนักเรียน แล้วมีการคืนข้อมูลให้กับนักเรียน โดยห้อยป้ายแขวนเด็กที่ฟันผุ เด็กก็จะตื่นตัว ไม่อยากได้ป้ายแขวน
- ส่วนที่คาดว่าน่าจะนำไปใช้ คือ ประชาสัมพันธ์ในหมู่บ้าน ชื่นชมเด็กที่มีสุขภาพช่องปากดี
กลุ่มที่ 5 คุณสัญญา มาเสนอเอง จากนครพนม
- การที่เราจะทำงานในชุมชนได้ เราต้องเชื่อใจเค้าก่อน ทำให้ชุมชนเชื่อมั่น ไว้ใจกันเค้ากับเรา และจะได้ข้อมูลที่เป็นจริง
- การคืนข้อมูลไม่ใช่การประจาน แต่ต้องเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างเรากับชุมชน
- การบริหารความขัดแย้ง ทุกที่ต้องมีความขัดแย้ง เราต้องหลีกเลี่ยงการชนกัน เอาแต่สิ่งดีมาคุยกัน
- ใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่า เอาจุดดีดึงขึ้นมา
- ใช้คนให้ถูกกับงานเพื่อลดอุปสรรค
- มองมุมต่าง มองมุมกลับ ที่เราเห็นเป็นอย่างนี้ เป็นเพราะอะไร
- การเผชิญหน้า บางครั้งเราก็หนีปัญหาไม่ได้ ก็ต้องเผชิญหน้า
- เราเปิดใจทุกอย่าง รับสิ่งดี ๆ แล้วสิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้นกับเรา
กลุ่มที่ 6 เสนอโดยพี่ใหญ่ ผอ.รพ.สต.คอกช้าง สระใคร หนองคาย
- ถ้าเราสร้างความคุ้นเคย เราก็จะได้ข้อมูลจริง
- ให้ชุมชนคุยกันเอง เกิดปัญหาเราจึงเข้าช่วย
- เรื่องข้อมูล ควรเป็นข้อมูลที่ลงสำรวจในชุมชนจริง ๆ จะได้ข้อมูลที่แท้จริง นำไปแก้ปัญหาจริงได้
- เป้าหมายเดียวกัน คือ ประชาชน เมื่อชุมชนเข้มแข็ง ประชาชนก็มีความสุข
พี่อ้อและพี่ฝนสรุป Mindmap
ปัญหาอุปสรรคจากการสร้างและใช้แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ (Strategic Route Map:SRM) ในการทำงานที่ผ่านมา
ความรู้ใหม่ที่ได้จากการแลกเปลี่ยน World café
ถอดรหัส ปรับแต่งเงื่อนไขและปัจจัยแห่งความสำเร็จ (ความคิดของอ้อ)
1. สร้างความสัมพันธ์จริงใจกับผู้นำการเปลี่ยนแปลง ด้วยการเรียนรู้ชาวบ้าน ค้นหาศักยภาพชุมชน เปิดใจยอมรับ เคารพคุณค่าซึ่งกันและกัน.....เป็นทีมเดียวกัน
2. สร้างความไว้วางใจ จะได้ข้อมูลรอบด้านที่เป็นจริง ทั้งข้อมูลจากนักวิชาการ และข้อมูลสิ่งที่เกิดขึ้นจริงจากชาวบ้าน เข้าใจข้อมูลนำไปสู่ความตระหนัก....อยากเปลี่ยนแปลงตนเอง
3. หาเป้าหมายร่วมของชาวบ้านและราชการที่ดีที่สุด.....แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง
4. มีเวทีของชาวบ้าน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ติดตาม ตัดสินใจเอง รับผิดชอบเอง บริหารความขัดแย้ง คน ทรัพยากร ประเมินผล สะท้อนข้อมูล พัฒนาต่อเนื่อง ราชการเป็นพี่เลี้ยง.....ร่วมปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องโดยเวทีชาวบ้านเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่รัฐเป็นแค่พี่เลี้ยงในเวลาที่ชาวบ้านต้องการ
5. ทำพื้นที่เดิมให้ยั่งยืน เรียนรู้ทั้งล้มเหลวและสำเร็จจากที่อื่น ๆ ขยายแนวคิด ประยุกต์ SRM ให้ง่ายขึ้น ปรับเข้ากับบริบทพื้นที่ใหม่.....เรียนรู้ไม่อยู่นิ่ง ต่อยอดสิ่งที่ดี
แล้วจะต่อด้วยการนำ เครื่องมือ Outcome Mapping (OM) ไปใช้วางแผนติดตาม ประเมินผลงาน ที่เกิดจากการร่วมทำของภาคีหลายภาคส่วน
รอสักครู่นะคะ
สุดยอดครับหมอ ถอดมาเป็นเปลาะๆ เหมาะในการเรียนรู้
มาชวนหมอไปให้กำลังใจ คลิกนิกวัยรุ่น จิตรอาสา รพ ปากพะยูฯ
ว้า ละเอียดมากครับ
ผมคงขอไปปรับใช้บ้างนะครับ
ขอบคุณครับ
ว้า ละเอียดมากครับ
ผมคงขอไปปรับใช้บ้างนะครับ
ขอบคุณครับ
ตามคุณหมออดิเรกมาครับ...อ่านแล้วถึงได้รู้ว่าทำไมคุณหมอถึงร้อง...ว้าว (ฮ่าๆ)
ปล. อ่านแล้วดีใจแทนคนในท้องที่ครับ เมื่อกลไกขับเคลื่อนด้วยความเข้าใจ...ต่อไปชุมชนก็จะได้ประโยชน์อย่างแท้จริง
สวัสดีค่ะ ท่านลุงบัง
สวัสดีค่ะ คุณทิมดาบ
ยินดีที่ได้รู้จัก ท่านอาจารย์หนานวัฒน์นะคะ
สวัสดีภาคค่ำนะคะ...ท่านอาอาจารย์ขจิต
สวัสดีค่ะคุณหมอ
มาเป็นกำลังใจกับกิจกรรมดีๆนี้ค่ะ เห็นบรรยากาศแล้วน่าสนุกและผ่อนคลาย ได้ความรู้ ชื่นชมค่ะ
ตอนนี้ขอนแก่นฝนตกพรำๆค่ะ ทางโน้นเป็นอย่างไรบ้างค่ะ
สุขสันต์วันทำงานค่ะ
ประทับใจคุณหมอฟันจังเลยเวลาไปที่โรงพยาบาลบึงกาฬ โรงพยาบาลหนองคาย อัธยาศัยดีมากค่ะ หากมีโอกาสคงได้ไปที่โรงพยาบาลสระใคร (สระไม่มีคนเป็นเจ้าของหรือคะ )
คุณหมอเขียนรายละเอียดได้ละเอียด และเห็นอิริยาบทการทำงานแล้วสบายและสนุก น่านอน อิอิ
ขอบคุณค่ะ ดีใจที่มีเครือข่ายคนอีสานฟันดี..ช่วยกันทำงานอย่างขยันเช่นนี้ คนอีสานฟันดีแน่นอน
ทีมทันตสาธารณสุขเข้มแข็งจริงๆ
ช่วยเชียร์ด้วยคน
คุณหมอนน มาอ่าน คงจะดีใจ
เหมือนอาจารย์ขจิตว่า ..
สวัสดีค่ะ...คุณถาวร
สวัสดีค่ะ...คุณ Krukorkai
สวัสดีค่ะ คุณมนัญญา
แวะมาทักทายยามเช้าครับคุณหมอ ...ได้ยินว่าที่บ้านเราฝนตกทุกวัน รักษาสุขภาพด้วยนะครับผม
ปล. เห็นคุณหมอแวะไปที่บล็อกผมตอนตีสามกว่าๆ เลยไม่แน่ใจว่าคุณหมอยังไม่ได้นอน หรือเพิ่งตื่น (หากเป็นกรณีหลังผมจะต้องเปลี่ยนเป็นราตรีสวัสดิ์แทนครับ...อิๆ)
อ.หนานวัฒน์คะ
เรียน อ.ขจิต ที่เคารพ
ตามมาเก็บด้วยอ่าจร้าพี่อ้อ เพราะไม่ได้ไปอ่าครับ
เดี๋ยวจะกลับไปทำงานในพื้นที่ต่อ( อีกหลายปี) อิอิ
ดูแล้วหนุกหนานมากมาย อยากไปอ่า
แบงค์คะ
ขอบคุณมากค่ะ อ.ผู้เคยถอดบทเรียนให้เครือข่ายทันตแพทย์ผู้นำสร้างเสริมสุขภาพช่องปาก เมื่อ 2 - 3 ปี ที่แล้ว ที่อยุธยา
ขอบคุณที่อาจารย์มาติดตามดูความก้าวหน้านะคะ
ตอนนี้เครือข่ายที่ถูกใจ....ก็รักษาสัมพันธ์ไว้ให้แน่นแฟ้น
แล้วก็ขยายในส่วนที่มีคนสนใจดึงดูดใจในเรื่องเดียวกัน
ยินดีมากค่ะที่อาจารย์แวะมา ท่าน อ.ศิลา