ยิ่งใหญ่... ยิ่งต้องเล็ก


ยิ่งใหญ่ ยิ่งต้องเล็ก

ยิ่งใหญ่... ยิ่งต้องเล็ก

    @ ในอดีต องค์กรที่มีขนาดใหญ่ ทั้งใหญ่ในแง่จำนวนคน อาคารสำนักงานที่ใหญ่โตหรูหรา ปริมาณสาขาที่มีทั่วประเทศ หรือทั่วโลก จะเป็นที่ภาคภูมิใจ ซึ่งทุกวันนี้ หลายๆธุรกิจหลายๆองค์กรก็ยังมีความภาคภูมิใจกับขนาดอันใหญ่โตขององค์กรกันอยู่  แต่ใครจะรู้บ้างว่า  จำนวนพนักงานที่มีมากมายมหาศาล อาคารสำนักงานใหญ่โตต้องแบกรับภาระในเรื่องค่าใช้จ่าย และหารายได้ต่อเดือนเท่าไหร่?
    
    @ ยิ่งในโลกทุกวันนี้ จะหาสินค้า-บริการที่ทำกำไรมหาศาลเหมือนในอดีต เป็นเรื่องยากที่จะเกิดกับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ แต่ในทางกลับกัน สินค้า-บริการที่ทำรายได้และกำไรมหาศาลมักจะเกิดกับบริษัทขนาดไม่ใหญ่ เป็นบริษัทใหม่ที่สร้างนวัตกรรม สร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดกับโลกธุรกิจที่องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ได้แต่มองและค้อนด้วยความหงุดหงิดและอาจจะคิดในใจด้วยก็ได้ว่า ทำไมองค์กรขนาดใหญ่ที่มีจำนวนคนมหาศาล พนักงานหลายหมื่น หลายแสนคน ถึงไม่มีปัญญาคิดสินค้า-บริการใหม่ๆที่สร้างรายได้และกำไรอย่างที่บริษัทขนาดเล็กหรือขนาดกลางคิดขึ้นมาได้!

    @ ความใหญ่ขององค์กรไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถ้าดูเผินๆอาจดูดีน่าภาคภูมิใจ แต่เมื่อไหร่ ก็แล้วแต่ ที่ความใหญ่ขององค์กร ไม่สามารถผลิตสินค้าใหม่ๆได้แต่อาศัยกินบุเก่าขายสินค้าเดิมๆ ในขณะที่จำนวนคนขององค์กรในโลกยุคใหม่ไม่ใช่เป็นตัววัด ความสามารถและศักยภาพขององค์กร เช่นอาจมีพนักงานหลักหมื่นคน แต่กว่าครึ่งเป็นพนักงานที่ทำงานที่ไม่สร้างรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายประจำทุกเดือนในจำนวนเงินมหาศาล เฉพาะแค่ค่าไฟฟ้าก็มากกว่าค่าใช้จ่ายทั้งองค์กรขององค์กรขนาดเล็กที่มีศักยภาพรวมกันเป็นสิบบริษัท ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าปวดหัวของ CEO และ ฝ่ายที่ต้องหารายได้หล่อเลี้ยงในทุกๆเดือน

    @ สิ่งที่เราจะเริ่มเห็นนับจากนี้เป็นต้นไปอย่างเด่นชัดมากยิ่งขึ้นก็คือ องค์กรขนาดใหญ่ จะวัดความสามารถที่ศักยภาพในการหารายได้ ที่เกิดจากนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดจากศักยภาพของคน คุณภาพของคน ไม่ใช่ปริมาณหรือจำนวนคน รวมทั้งไม่ใช่ความใหญ่โตหรูหราของสำนักงานที่บางครั้งเป็นเปลือกที่ห่อหุ้มดูภายนอกสวยงานแต่พร้อมที่จะปริแตกและล่มสลายได้ทุกเวลาเมื่อต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงและคู่แข่งหน้าใหม่ๆที่เข้ามาแบบคาดไม่ถึง!

    @ องค์กรขนาดใหญ่ทั้งในบ้านเราและทั่วโลก เริ่มที่จะพยายามทำตัวให้เล็กลง ทั้งเล็กลงในเรื่องของการบริหารจัดการ ลดขั้นตอนหยุมหยิมล่าช้าที่ไม่ทันกิน เริ่มกระตุ้นให้คน คิดและค้นหาจินตนาการในการทำงาน ค้นหาสินค้าและนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างเช่นการเปลี่ยนแปลงที่น่าชื่นชมของกลุ่มปูนซิเมนต์ไทยในบ้านเราที่พยายามเขย่าและหล่อหลอมคนในองค์กร ให้เกิด “วัฒนธรรมใหม่ๆเพื่อสรรค์สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ไม่ใช่ยึดติดอยู่กับความสำเร็จในอดีตเพียงอย่างเดียว” และอีกไม่นาน กลุ่มปูนซิเมนต์ไทยก็จะกลายเป็นต้นแบบ ที่สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปรกติการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆที่เปลี่ยนแปลงตลาดเคยเป็นจุดเด่นของธุรกิจองค์กรขนาดเล็กที่ผงาดขึ้นมาครองโลกเท่านั้น ก็เป็นเรื่องที่น่าจับตาการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มนี้

    @ กลับมาประเด็นเดิม องค์กรอีกหลายองค์กรในบ้านเรา ก็ต้องเลิกภาคภูมิใจกับจำนวนคนอันมากมายมหาศาลที่มีอยู่ในองค์กร ถ้าพูดกันแบบไม่เกรงใจก็ต้องขอพูดตรงๆด้วยซ้ำว่า  ถ้าองค์กรของท่านมีจำนวนพนักงานมากหลายพัน หลายหมื่นคน แต่ภาระในการขับเคลื่อนองค์กร ในการคิด ในการหารายได้ขี้นอยู่กับคนเพียงไม่กี่คน คีย์แมนเพียงไม่กี่ตำแหน่ง… อะไรจะเกิดขึ้นถ้ามีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร หรือคีย์แมนที่หารายได้? อะไรจะเกิดขึ้นถ้าสินค้าหรือบริการที่ขายอยู่ ถูกสินค้าคู่แข่งหรือสินค้าทดแทนที่คุณภาพดีกว่าแต่ราคาถูกว่าเข้ามาจู่โจมแบบไม่รู้ตัว? และที่สำคัญ องค์กรของท่านอีก 3 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ถ้าจำนวนกว่า 80 % ของพนักงานอันมากมายมหาศาลของท่าน ทำงานไปวันๆ ถูกวัฒนธรรมหล่อหลอมให้คิดแบบพนักงาน ไม่มีส่วนร่วมในการสร้างรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม….น่าคิดนะครับ!

    @ ในขณะที่องค์กรขนาดเล็ก นอกจากค่าใช้จ่ายจะน้อย ความคล่องตัวจะสูงในการหรับเปลี่ยนองค์กรเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่คาดเดาได้ยากอย่างโลกทุกวันนี้แล้ว ยังสามารถ “มองเห็น”โอกาสทางการตลาดใหม่ๆ ที่องค์กรขนาดใหญ่มักจะ”มองแต่ไม่เห็น”   การแข่งขันของโลกยุคใหม่ คู่แข่งขององค์กรขนาดใหญ่จะไม่ใช่องค์กรขนาดใหญ่ด้วยกันแบบในอดีต แต่จะเป็น องค์กรขนาดเล็กที่แตกออกมาจากองค์กรขนาดใหญ่ หรือองค์กรขนาดเล็กที่เกิดใหม่เพื่อเป็นแจ็คผู้ล้มยักษ์ให้เราเห็นในอนาคตมากขึ้น

    @  เพราะฉะนั้น สิ่งที่องค์กรขนาดใหญ่ต้องเริ่มปรับเปลี่ยนก็คือ  วิธีคิดแบบที่องค์กรขนาดเล็กคิด วิธีบริหารจัดการแบบที่องค์กรขนาดเล็กจัดการ รวมทั้ง การสร้างและหล่อหลอมให้พนักงาน เริ่มมีแนวคิดแบบเจ้าของกิจการ ไม่ใช่คิดแบบพนักงานฝังตัวอยู่กับองค์กรไปวันๆตราบชั่วฟ้าดินสลาย!

    @ถึงวันนี้ องค์กรขนาดเล็ก ควรภูมิใจ เพราะสิ่งที่ท่านมีและสิ่งที่ท่านเป็น กำลังเป็นสิ่งที่องค์กรขนาดใหญ่อยากจะมีและอยากจะเป็นแต่เป็นไม่ได้ เพราะองค์กรขนาดใหญ่อยู่บนหลังเสือได้แต่ตะบึงไปข้างหน้าจนกว่าจะหมดแรง…หมดแรงที่จะหารายได้มาหล่อเลี้ยงคนในองค์กรที่มี….มากเกินไป!

หมายเลขบันทึก: 441594เขียนเมื่อ 31 พฤษภาคม 2011 11:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 ตุลาคม 2012 15:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

มุมมองที่ดีครับ องค์กรต้องการคนดี คนกล้า และใจพร้อม ขอเป็นกำลังใจครับผม

เห็นด้วยค่ะ  ยิ่งใหญ่  ก็ต้อง ยิ่งเล็ก ครูอ้อยก็กำลังประสบกับเรื่องนี้อยู่  เป็นกำลังใจให้นะคะ

ขอบคุณนะครับสำหรับกำลังใจ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท