ความแตกต่างระหว่าง “เรียน” กับ “เรียนรู้” จุดเริ่มต้นของการใช้ศักยภาพ!


เรียน กับ เรียนรู้

ความแตกต่างระหว่าง “เรียน” กับ “เรียนรู้”

จุดเริ่มต้นของการใช้ศักยภาพ!

@  เคยลองสังเกตดูหรือไม่ครับ? ว่าทำไมทั้งพนักงานไปจนถึงผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของกิจการ เข้าอบรมสัมมนากันมากมาย แต่มีจำนวนน้อยมากที่จะได้รับประโยชน์จากสัมมนานั้นๆ ทั้งๆที่สัมมนานั้น เนื้อหาก็ดี วิทยากรก็ใช้ได้?  แต่ส่วนมากที่เข้าสัมมนาไม่สามารถเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆไปใช้กับงานได้?

      @  ลองสังเกตกันต่อไปอีกสักนิดสิครับ แล้วท่านจะพบว่า มีผู้บริหารและพนักงานจำนวนมากอีกเช่นเดียวกัน ที่สนใจไขว่หาความรู้โดยการอ่านหนังสือประเภท HOW TO ทั้งหลายแหล่ที่มีอยู่มากมายในตลาด อ่านหนังสือก็เล่มเดียวกัน จำนวนอ่านก็ไม่น้อยไปกว่ากัน แต่ทำไมบางคนสามารถนำสิ่งที่อ่านไปใช้ประโยชน์ได้มากกว่า ในขณะที่บางคนนำไปใช้ประโยชน์ได้บ้าง และอีกหลายคนไม่สามารถนำสิ่งดีๆที่มีในหนังสือไปใช้ประโยชน์ได้เลย!

      @  เราไม่ต้องไปวิเคราะห์เจาะลึกถึงขนาดว่าใครมีเซลล์สมอง มีรอยหยักสมองที่ฉลาดกว่ากัน หรือ ยีนส์ใครดีกว่ากัน เพราะโดยเฉลี่ยไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ “แตกต่าง “ และ “ส่งผล” ก็คือ  “วิธีการเรียนรู้!” เป็นไปได้หรือไม่ว่า…

           1.การเรียนการศึกษาตั้งแต่อดีตที่ผ่านมา (ไม่รู้ปัจจุบันพัฒนาไปได้แค่ไหน) เน้น “การเรียนรู้โดยการท่องจำ”  เน้นการเรียนรู้โดย “ครูเป็นผู้ป้อน”ทำให้ กรอบของการเรียนรู้ถูกจำกัดโดยสองแนวทางหลักคือ รอรับการป้อนจากครู และท่องจำให้ขึ้นใจ…….

           2.ทั้งการเรียนและการปฏิบัติงานที่ผ่านๆมา เรามักอยู่ในกรอบที่ว่า ครู / ผู้อาวุโส / เจ้านาย / คิดหรือพูดอะไร ก็ถูกหมด เพราะอาบน้ำร้อนมาก่อน ทำให้สิ่งที่เราได้รับและสิ่งที่เราคิด “มักจะคิดในกรอบที่เราได้รับ  “ แต่ไม่สามารถที่จะ "คิดต่อยอดจากสิ่งที่เราได้รับ “ ไปจนถึงการ “คิดนอกกรอบ”จากสิ่งที่เราได้รับได้!

           3.เรามักจะ “เรียน” โดยเน้นปริมาณ ทั้งจำนวนหนังสือที่อ่าน กับหลักสูตรที่เข้าสัมมนา แต่ไม่สามารถ “เก็บเกี่ยวประโยชน์ที่เกิดจากการเรียนรู้ที่ถูกวิธี?”ทำให้ ยิ่งเรียน….ยิ่งฉลาดน้อยลง…เพราะสับสน!?

       @ เพราะฉะนั้นในขณะที่แต่ละคนกำลังคร่ำเคร่งกับการสัมมนา  หรือ คร่ำเคร่งกับการอ่านตำรับตำราแนว HOW TO ทั้งหลาย ส่วนมากก็เลยติดอยู่ในกับดักของการ “เรียนโดยการฟังสัมมนา”  และ “เรียนโดยการอ่านจากตำราวิชาการ” แต่มีส่วนน้อยมากที่จะ “เรียนรู้จากการเรียนที่หลากหลายรูปแบบ”ก็คือ…

           : จากตำรับตำราแนว HOW TO ที่อ่าน…..อะไรบ้างที่ช่วยจุดประกายก่อให้เกิดแนวคิดใหม่ๆที่สามารถนำไป”ปรับใช้”กับงานที่ทำอยู่?     อะไรบ้างที่สามารถต่อยอดจากสิ่งที่อ่านและก่อให้เกิดกระบวนการคิดที่ตกผลึกมากยิ่งขึ้นทั้งจากสิ่งที่เราอ่านและงานที่เราทำ!  นี่คือ "การเรียนรู้" ที่ไม่ใช่แค่ "เรียน"โดยการอ่านแล้วหวังสูตรสำเร็จ และหลายๆคนติดกับดักเพราะต้องการสูตรสำเร็จที่จะนำมาใช้ได้ทันที เมื่อไม่มีสูตรสำเร็จก็ไม่สามารถที่จะต่อยอดหรือจุดประกายแนวคิดใหม่ๆที่เกิดจากการผสมผสานระหว่าง สิ่งที่เราอ่านกับประสบการณ์ที่เรามี ก่อให้เกิดการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่มีมากกว่าสิ่งที่เราอ่าน!

           : ในการเข้าสัมมนาก็เช่นเดียวกัน ยิ่งเป็นการสัมนาที่ผู้เข้าฟังมาจากหลากหลายธุรกิจ (PUBLIC SEMINAR) สิ่งที่ต้องเลิกคิดและเลิกหวังก็คือเข้าไปหาสูตรสำเร็จโดยการ ฟัง โดยการ จด เพราะไม่มีสูตาสำเร็จที่เหมาะสมกับทุกคนในการสัมมนาลักษณะนี้!

           : แม้กระทั่งการฝึกอบรมให้กับองค์กรแต่ละองค์กร (IN-COMPANY TRAINING) ก็ใช่ว่าจะมีสูตรสำเร็จที่สามารถนำไปใช้ได้ทันที เพราะถ้าเราคาดหวังการเรียนทุกรูปแบบที่ต้องการนำไปใช้ทันที….”เท่ากับเรากำลัง รอการป้อน โดยคิดแค่อยู่ในกรอบที่ถูกป้อน”!  แต่ผู้บริหารและพนักงานที่มีศักยภาพเท่านั้น ที่จะรู้จัก “เรียนรู้จากสิ่งที่อ่าน”  “เรียนรู้จากสัมมนาในหลากหลายรูปแบบ”  โดยนำสิ่งที่เรียนรู้เป็นเพียง หัวเชื้อเพื่อจุดประกายและผสมผสานกับประสบการณ์….เพื่อก่อให้เกิด “แนวคิดใหม่ๆที่ต่อยอดจากเดิม”  ไปสู่ “แนวทางสำหรับนำไปปรับใช้…ในแต่ละสถานการณ์!”

       @ เพราะฉะนั้น ท่านไม่ควรเรียนรู้แค่การ”อ่าน” และ การ”ฟัง”  แต่ท่านต้องเรียนรู้จากการ “คิด” การ”วิเคราะห์” การ”สังเกต” เพื่อก่อให้เกิดสิ่งใหม่ๆที่มากกว่าในตำราที่ท่านอ่าน ที่มากกว่าเนื้อหาที่วิทยากรสอน!

       @ นี่คือความแตกต่างระหว่าง ผู้ที่อ่านหนังสือเล่มเดียวกัน เข้าสัมมนาหลักสูตรเดียวกัน  แต่นำสิ่งที่ได้ “เรียนรู้”มาใช้แล้วก่อให้เกิดผลที่แตกต่างกัน!

       @ ไม่ต้องแปลกใจที่หลายๆคน ทั้งอ่าน ทั้งเข้าสัมมนาตลอดชีวิต….แต่ได้เพียงแค่ “การเรียน”!  ขณะที่บางคนเพียงแค่อ่าน เพียงแค่เข้าสัมมนาไม่มาก แต่สามารถ ”เรียนรู้” ได้มากกว่าสิ่งที่มีในหนังสือและในสัมมนา…..

       @ ส่วนท่านที่กำลังอ่านคอลัมน์นี้….ท่านกำลัง “เรียน” หรือ “เรียนรู้”อยู่ครับ?!


หมายเลขบันทึก: 441592เขียนเมื่อ 31 พฤษภาคม 2011 11:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 19:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท