กุลมาตา
นาง ธันยา พิชัยแพทย์(นามสกุลเดิม) แม็คคอสแลนด์

แด่..แม่ใบเลี้ยงเดี่ยว


คำสอนของท่านแม่ชีศันสนีย์ แห่งเสถียรธรรมสถานเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูก "พ่อแม่คือครูคนแรกของลูก..ลูกไม่ได้เกิดมาเพื่อเพื่อสนองความต้องการของพ่อแม่ แต่ลูกเกิดมาเพื่อเรียนรู้จากพ่อแม่"

 

 

 

 

ท่านแม่ชีศันสนีย์เมตตาผูกข้อมือให้ลูกออม ครั้งที่เข้าค่าย"ครอบครัวแห่งสติ..อริยะสร้างได้" เดือนเมษายน ปี ๒๕๕๓

.

โอ้..แม่ใบเลี้ยงเดี่ยวเกี่ยวเพียงลูก

  แม่สร้างปลูกลูกรักจักห่วงหา

  พ่อจากเป็นพ่อจากตายวายชีวา

  แม่เลี้ยงมาเพียงลำพังอย่างอดทน

.

  แม้ลำบากตรากตรำแม่ทำได้

  แม้ฟืนไฟภัยมนุษย์สุดฉ้อฉล

  แม้หญิงชายร้ายลวงหลอกลอกทำกล

  มิอับจนทนมิท้อขอ "ธรรมา"

..

กุลมาตา

๒๙ พฤษภา ๒๕๕๔

..


ภาพแม่อ้อ-ลูกออม ณ ปัจจุบัน ถ่ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้

.

ช่วงเช้าวันอาทิตย์ ณ ปัจจุบันนี้

ดิฉันมีโอกาสเข้าวัดฟังธรรมทุกอาทิตย์

พาลูกชายไปด้วย อยากให้ลูกซึมซับธรรมเท่าที่ทำได้

วันอาทิตย์นี้ก็เช่นกัน ดิฉันได้นั่งฟังธรรมเทศนา

จากท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ณ เสถียรธรรมสถาน

เพื่อนำสิ่งที่ท่านสอนมาปรับปรุงแก้ไขตัวเอง

โดยเฉพาะเรื่องการเลี้ยงลูก

..

ดิฉันแต่งกลอนบทนี้ระหว่างช่วงนั่งฟังธรรม

นอกจากคิดถึงสถานภาพของตัวเองแล้ว

ยังคิดถึงแม่ๆอีกหลายท่านที่ได้พบปะรู้จักกันที่นี่

ได้รับทราบว่า..แม่ใบเลี้ยงเดี่ยว

ผลพวงจากการเลิกราหย่าร้างมีเพิ่มมากขึ้นมาก

รวมทั้งคำบอกเล่าจากคุณพ่อท่านหนึ่ง

เล่าว่าเพื่อนๆ ผู้ชายเลิกรากับภรรยากันมากมาย

..

ดิฉันเห็นใจฝ่าย "แม่" มากเพราะต้องเลี้ยงลูกคนเดียว

ส่วนใหญ่คุณพ่อลูกไม่ได้ช่วยเรื่องค่าเลี้ยงดูลูก

แม่ใบเลี้ยงเดี่ยวจึงรับภาระหนักอึ้ง

แถมยังต้องระวังเรื่อง "คน" ที่เข้ามากันอีก

เพราะอาจมีคนไม่ดีที่ถือโอกาสที่แม่เลี้ยงลูกตามลำพัง

เช่นเดียวกับดิฉัน..พ่อของลูกจากตาย

ต้องเลี้ยงลูกตามลำพังและเจอปัญหาเรื่องคนเช่นกัน

..

แม่อุ้มลูกออมตอนอายุ ๖ เดือน คุณพ่อของลูกเสียชีวิตไปตั้งแต่ลูกอายุ ๓ เดือน

ดิฉันขอเป็นกำลังใจให้ "แม่ใบเลี้ยงเดี่ยว"ทุกท่าน

มี "ธรรมะ" รักษาใจ มีสติ มีปัญญา

ที่จะนำทางชีวิตตัวเองและชีวิตลูกน้อย

ให้รอดปลอดภัยและมีความสุขประสาแม่ๆลูกๆ

ขอนำคำสอนของท่านแม่ชีศันสนีย์

จากหนังสือ"มีความสุขให้ลูกเห็น เป็นคนดีให้ลูกดู"

ซึ่งเป็นหนังสือชุดธรรมะสำหรับพ่อแม่

เป็นคู่มือภาวนากับการเลี้ยงลูกสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่

ซึ่งเป็นคู่มือเลี้ยงลูกของดิฉันอีกเล่มหนึ่งค่ะ

..


พ่อแม่คือครูคนแรกของลูก

"ลูกไม่ได้เกิดมาเพื่อสนองความต้องการของพ่อแม่

แต่ลูกเกิดมาเพื่อ"เรียนรู้"จากพ่อแม่"

การเลี้ยงลูกให้มีความสุขและมีธรรมะในใจนั้น

พ่อแม่ต้องเริ่มที่ตัวเอง ผลที่เกิดขึ้นเป็นเช่นไร

ย่อมเกิดขึ้นกับเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง

พ่อแม่จึงต้องสร้างเหตุปัจจัยที่ดีด้วยการเปลี่ยนที่ตัวเอง

ทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูก ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขให้ลูกเห็น

และเป็นคนดีให้ลูกดู เพื่อให้เขาได้ซึมซับ

และเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง

แล้วเมล็ดพันธุ์แห่งความดีและความสุขในตัวลูก

จะค่อยๆเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง 

โดยมีพ่อแม่เป็นผู้รดน้ำพรวนดินด้วยการทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี

และสร้างปัจจัยแวดล้อมที่เหมาะสมให้แก่ลูก

(บทที่ ๑ เลี้ยงลูกวิถีพุทธด้วยหลัก

"มีความสุขให้ลูกเห็น เป็นคนดีให้ลูกดู")

และแถมด้วยเรื่อง

"พลิกชีวิตแม่เลี้ยงเดี่ยวให้สดใสและเปี่ยมคุณค่าด้วยธรรม"

..ลูกจะเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับพ่อแม่เป็นหลัก

เพราะพ่อแม่ก็เหมือนแม่พิมพ์ของเขา

ถ้าเรายังเป็นแม่พิมพ์ที่บูดๆ เบี้ยวๆ อยู่

เราก็เหมือนกับแม่ปูและลูกปู เขาจะเดินตรงได้ยังไง

ก็ต้องเบี้ยวๆ ตามเรานั่นแหละ..

"จากบทสัมภาษณ์คุณแม่น้อง..คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวท่านหนึ่ง"


 

เพลงของRascal Flattsเพื่อ "แม่ใบเลี้ยงเดี่ยว" ทุกท่านค่ะ

 

"My guy"คือ..ลูกชาย..ไม่ใช่ผู้ชายคนไหนเลย..


หมายเลขบันทึก: 441343เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2011 14:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)
  • ธุค่ะ..

เป็นกำลังใจให้อาจารย์นะคะ  ^^  ต้อมชื่นชม "แม่ใบเลี้ยงเดี่ยว" ทุกท่าน  ที่สู้อุตส่าห์เลี้ยงลูกโดยลำพังจนลูกเติบใหญ่

  • พ่อแม่เป็นผู้สร้างลูกจริงๆ
  • เห็นด้วยครับ

ค.ห.๑ คุณเนปาลี

ขอบคุณน้องต้อมที่มาเป็นกำลังใจให้แม่เลี้ยงเดี่ยวทุกท่านค่ะ

กำลังใจจากกัลยาณมิตร จากผู้ที่เข้าใจ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเราสู้เพื่อลูกกันนะคะ

ค.ห.๒ คุณโสภณ เปียสนิท

ขอบพระคุณท่านกวีธรรมค่ะ ที่มาให้ข้อคิดดีๆ สั้นแต่เป็นกุศล

ได้เห็นพ่อแม่ดีๆหลายครอบครัวทั้งที่วัดและข้างนอก

ขออนุโมทนาค่ะ..

ใช่ว่า..แม่เลี้ยงเดี่ยวจะมองว่าผู้ชายร้ายไปหมด มองตามจริงค่ะ

มีเรื่องมาเล่า..ผู้ชาย "แมง"ที่เข้ามาจับแม่เลี้ยงเดี่ยวคิดว่าง่าย

คุณเธอแค่คบ..ระวัง..มิได้ปักใจ..ให้ใจ..

เขาอวดว่าเป็น "หงส์"..แค่ตัวขาว..

ในที่สุดธาตุแท้ก็เผยโฉม..กลายเป็น "ปลวกตัวขาว"..หาลู่ทางกัดกินเธอ

ขอรถป้ายแดง..ขอบ้าน..

..

เห็นใจจจริงๆค่ะ..ทำมาหาเลี้ยงลูกก็ลำบากแล้ว

ยังเจอ "ปลวก" ปลอมเป็นหงส์อีก..

สวัสดีค่ะ

ดีใจที่ได้อ่านบันทึกของน้องอีก 

พี่คิมขอเป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ  สู้ ๆ ๆ ๆ ค่ะ

น้องออมน่ารักมากค่ะ

ค.ห.๓ คุณคิม นพวรรณ

ขอบพระคุณพี่คิมเช่นกันค่ะ ที่เป็นกำลังใจให้ทุกบันทึก

ช่วงที่ยังว่างๆ ยังไม่ได้งานและใช้อินเตอร์เน็ตได้แล้ว

คงมีบันทึกให้อ่านกันบ่อยขึ้น

..

เห็นแม่เลี้ยงเดี่ยวหลายท่านแล้วเห็นใจมากๆ หัวอกอันเดียวกัน

แค่ทำมาหากินเลี้ยงลูกเลี้ยงตัวก็..หนักแล้ว

ยังเจอผู้ชายร้ายๆ แกล้งอีกค่ะ

ของแม่อ้อเอง..ก็เจอข่าว ว่าผู้ชายใหญ่เป็น"นายฟักเสื้อเขียว" ขึ้นสองแถว

เห็นเราขึ้นสองแถว รถสาธารณะ เพราะขับรถไม่ได้ เอาเราไปเกี่ยวกับผู้ชายใหญ่

เดาว่าปาก "ปลวกตัวขาว" ที่เราไม่คบนั่นล่ะค่ะ..แกล้งกุข่าว

เท่าที่ทราบ "ฟัก" เป็นที่หมายปองของ "สมทรง"ลูกจ้างร้านเน็ตมากกว่า

เสริมว่า..แม่เลี้ยงเดี่ยวที่พอมีฐานะ ทำงานได้เงินพอสมควร มีรถมีบ้าน

โดน "ปลวกทั้งตัวขาวตัวดำ" หมายจับหมายกัดกันทั้งนั้น

ไม่ยอมทำมาหากินเอง ไม่สร้างฐานะ เป็นซะแบบนี้..แต่ไม่ละอายใจ

ลืมขอบคุณพี่คิมที่ชม "น้องออมน่ารัก"

ออมกำลังสนใจสิ่งรอบตัวและศาสตร์หลายศาสตร์

ไม่ใช่ว่าจะเป็น "กวี" หรือเป็นอะไรในตอนนี้..ยังไม่แน่นอนค่ะ

ลูกคงไม่เหมือนใคร..เป็นตัวเขาเอง

อย่างที่แม่ชีท่านสอนให้พ่อแม่สร้างลูกให้เป็นอย่างที่เขาเป็น

เราเป็นครูคนแรกของลูก..ช่วยให้เขาเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเขาอย่างที่เขาเป็นเท่านั้นค่ะ

สมทรงกับปลวกเห็นรูปออมใส่เสื้อเขียว

เลยด่าว่าเขาเป็น "กวีใหญ่" ที่สมทรงหมายปอง

แต่ขึ้นรถสองแถว..ประมาณนั้น

เรื่องขับรถไม่ได้ ต้องขึ้นรถสาธารณะ

คนดูถูกอย่างที่เขียนบันทึกไปแล้วนี่

ไปอยู่ที่ไหนก็เจอจริงๆค่ะพี่

แทนที่จะดูว่า..เป็นคนดี ซื่อสัตย์ จริงใจมั้ย

กลับดู..ขับรถอะไร..ใหม่เก่า..หลอกไม่เป็นไร ใครๆเขาก็หลอก

..

ท่านแม่ชีสอนเลยว่า..อย่าให้ลูกโกหก..เพราะถ้าปล่อยให้โกหก ก็จะโกหกตลอดไป

และแก้ตัวแบบนี้ค่ะ..ใครๆก็หลอก..

ได้ยินมาว่า..แม้แต่ครูที่หลอก..ก็พูดแบบนี้

น่ากลัวจริงๆนะคะพี่คิม

สวัสดีค่ะคุณแม่ใบเลี้ยงเดี่ยวที่เข้มแข็ง

พ่อแม่เป็นตัวอย่างแรกให้ลูกได้เรียนรู้จริงๆเลยนะคะ

ถ้าเขาซึมซับเอาสิ่งที่ดีๆจากเราไปเราก็ชื่นใจ

แต่หากเขาซึมซับเอาสิ่งไม่ดีจากสิ่งแวดล้อมเข้าไปก็ต้องเราอีกนั่นแหละ

ที่จะต้องชี้แนวทางและจูงให้เขากลับมาในเส้นทางที่ดีต่อไป

เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ

ค.ห.๔ คุณkrugui Chutima

ขอบพระคุณคุณkrugui Chutima ที่มาให้ข้อคิดดีๆ เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ

เรื่องซึมซับสิ่งไม่ดีจากสิ่งแวดล้อม เช่นที่เพิ่งเมนท์ไปคือเรื่องแม่ขับรถไม่ได้

เขาก็อยากมีรถ อยากให้แม่หัดนะคะ เพราะเพื่อนเขามีกันทุกคน

คนที่ขับรถไม่ได้จะเป็นคุณย่า คุณยาย ส่วนใหญ่ หรือแม่ขับไม่ได้ พ่อก็ขับ

ก็ต้องอธิบายไป ใครว่า ใครดูถูก ไม่ต้องสนใจ เราไม่ได้ขอใครกิน ถึงจะนั่งรถสาธารณะ

ลูกโตแล้วมีเงินเดือน..ก็ไปหัดขับ..ผ่อนเอานะ..ขับให้แม่บ้าง..อิอิ

..

เด็กในเมือง..เรื่องราคา..วัตถุนิยม ต้องดึงกันมากๆเลยค่ะพี่

ไม่งั้น..จะเอาแต่ซื้อ..ไม่เห็นคุณค่า..เป็นเรื่องต้องย้ำกันสุดฤทธิ์

อีกเรื่องคือ..ความซื่อสัตย์..มีแต่คนพูดใครๆเขาก็หลอกกัน..ลูกจะเขว

พาไปวัด..ท่านแม่ชีสอน..ค่อยยังชั่ว..

เด็กรร.บดินทรเดชา..อยู่ใกล้ๆ..รร.และพ่อแม่พามาช่วยงานในวัด..เป็น"จิตอาสา" น่ารักจริงๆค่ะ

ครูกับวัดมีส่วนช่วยเด็กๆมากค่ะ พ่อแม่สวนกระแส"หลอก"ไม่ไหวแน่..ต้องมีครูดีๆและวัดช่วย

  • ตามมาให้กำลังใจครับ
  • ผมเชื่อมั่นว่าคุณกุลมาตาเลี้ยงน้องออมได้
  • ผมเสียพ่อ ตอน 7 ขวบ
  • แต่แม่เลี้ยงเรา 6 คนได้ครับ
  • สู้ๆๆครับ  เอามาฝากด้วย
  • http://www.gotoknow.org/blog/yahoo/128736
  • ธุ อาจารย์ธันยาค่ะ..
  • 

ต้อมเห็นด้วยกับครูกีร์ (ความเห็นที่ 4) ที่ว่า..พ่อแม่เป็นตัวอย่างแรกที่ลูกต้องได้เรียนรู้ และซึมซับ   ^^  

 

เคยคุยกับลูกสาวเจ้านาย (ที่เป็นผู้บริหารโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง) ว่า เด็กสมัยนี้รุดหน้าทางเรื่องของ IQ  แต่ EQ ถดถอย  เนื่องจากสังคมมีการแข่งขันกันในระดับเว่อร์ ฯลฯ

 

เรื่องรถ..น้องออมคงเป็นห่วงแม่น่ะค่ะ  และอยากให้แม่สบาย  น้องก้คงมองและบอกไปตามที่น้องเห็น   และด้วยความเป็นเด็ก..น้องอาจจะไม่ได้คิดไปถึงเรื่องที่เรารู้ลึกซึ้งกว่านั้น ใน "ความมี" หรือ "ไม่มี"

ค.ห.๕ คุณเนปาลี

ขอบคุณน้องต้อมมากนะคะ สำหรับข้อคิดดีๆ

น้องออมเห็นรถเป็นไม่ได้ ยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้ อยากมีค่ะ

ส่วนที่อยากให้แม่สบาย ตัวสบาย ก็คงมีส่วนค่ะ

แต่แม่ต้องให้เขาเข้าใจว่า..เหตุปัจจัยคือ..แม่เคยเรียนขับรถแต่ไม่ได้

..

เคยซื้อรถ ๒ คันแล้วนะคะ มือสองคันแรก ขายซื้อป้ายแดง

ในที่สุดขับไม่ได้..ต้องยกให้น้องชาย เป็นรถประจำบ้าน

เขาทำงานที่บ้าน ก็ได้ช่วยขับให้คุณพ่อคุณแม่ พี่สาวและหลานบ้าง

แต่ตอนนี้..เขาแยกครอบครัวไปค่ะ

ออมก็คงคิดถึงความสบายตอนที่ได้นั่งรถนั่นล่ะ

..

เห็นด้วยกับน้องต้อมมากเรื่องอีคิวเด็กสมัยนี้

แม่ถึงพาลูกเข้าวัดกันทุกอาทิตย์ ไม่อยากให้เว่อร์จริงๆค่ะน้องต้อม

แข่งขันเอาเป็นเอาตายทุกเรื่อง..ไม่ไหว..

ค.ห.๖ คุณขจิต ฝอยทอง

ขอประทานโทษ เปิดมาหน้าบันทึกนี้เจอเมนท์น้องต้อมพอดี เลยตอบก่อนค่ะ

เพิ่งมาเห็นเมนท์คุณขจิต

..

คุณแม่คุณขจิต..เก่งจริงๆค่ะ..ลูกตั้ง ๖ คน..

ดิฉันขอชื่นชมจากใจจริงเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้เลี้ยงลูกออมจริงๆ

ขอบพระคุณมากค่ะ

  • อาจารย์คะ..

ต้อมเคยบอกกับใครๆ (พี่ๆ ที่สนิทกันสองสามวัน) ว่า "ถ้าต้อมมีลูก  ต้อมจะไม่บังคับขู่เข็ญให้ลูกต้องเรียนโน่นเรียนนี่  ต้องทำโน่นทำนี่เหมือนเด็กคนอื่น   เห็นเด็กๆ เดินแบกกระเป๋าหนังสือใบโตไปโรงเรียนแล้วไหนจะต้องเรียนพิเศษจนมืดจนค่ำ  วันหยุดก็ไม่ได้หยุด   ลูกต้อมคงจะได้เล่นดินเล่นทรายเล่นน้ำ  ตัวมอมแมมแค่ไหนก็ได้..ต้อมจะไม่ว่า   นั่งวาดรูปเล่น  แต่งกวีเย็นใจ   ด้วยกัน  ชมนก ชมไม้  สวดมนต์ ไหว้พระ ไปวัดกัน   ต้อมจะสอนลูกให้เป็นคนดี  ไม่คดไม่โกง  ไม่เอารัดเอาเปรียบคนอื่น  จะเลี้ยงลูกให้เจริญเติบโตอย่างสมวัย  ฯลฯ"

เฮ้อ  ดีนะเนี่ย ที่ไม่มีลูก  อิอิ ^^   ไม่งั้นลูกต้อมคงรู้สึกแปลกแยกแตกต่างไปจากเด็กส่วนใหญ่ในสมัยนี้  

 

ป.ล. พี่ขจิต.. วันนี้ออกแนวให้กำลังใจแฮะ  ทีกะเรา..แกล้งเอ้า แกล้งเอา 

ขอแก้ไข จาก "พี่ที่สนิทกันสองสามวัน" เป็น "----สองสามคน"  อิอิ ^^  เห็นพี่ขจิตในบันทึกนี้ เลยมือสั่น  พิมพ์ผิดเลยเนี่ย  

ค.ห.๗ คุณเนปาลี

คุณขจิตไม่กล้าแกล้งบ้านนี้มากกว่าค่ะน้องต้อม

คิดถึงคุณแม่คุณขจิตที่เลี้ยงลูก ๖ คนมาคนเดียว เลยไม่กล้าแกล้ง

เอาไว้แกล้ง..สาวๆน่ารักๆอย่างน้องต้อมไงคะ..อิอิ..ถูกต้องแล้วล่ะ..

..

ท่านแม่ชีสอนว่า..แม้โลกจะรุนแรงขึ้น เสื่อมลง..แต่ "อริยะ" ก็จะมากขึ้นค่ะ

พี่ก็เชื่อว่าจริง..ขนาดพาลูกไปที่เดียว..ยังเห็นครอบครัวพาลูกมาเล่นดินทรายที่วัด

ทำกิจกรรมปั้นดิน ทำลูกชุบ ระบายสีกันในวันหยุด

แล้วที่วัดอื่นๆ หรือกลุ่ม ชุมชนในต่างจังหวัดที่ช่วยกันปลูกฝังให้ลูกเล่นในธรรมชาติล่ะ

พี่เชื่อว่า..ยังมีอีกพอสมควรค่ะน้องต้อม..เอาแค่เวบโกทูโน..ก็มีคนแนวนี้ไม่น้อยนะ

..

ถึงจะไม่เหมือนคนส่วนใหญ่..แต่ลูกเราอยู่ในกุศล..พี่ก็พอใจแล้วค่ะ

เราก็ไม่ได้ต่อต้านสังคมส่วนใหญ่ เราก็อยู่..เพียงแต่เลือกส่วนที่ดี ที่เหมาะกับเรา

จะรอ.."หลาน"..ลูกน้องต้อมนะคะ..แซวต่อ..หุ หุ

ไม่กล้าแกล้งน้องต้อม กลัวบาป ชาติหน้ากลัวเกิดมาตัวกลมๆๆ ก๊ากๆๆๆๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท