พยาบาล หลักสูตรพิเศษ กับจำนวน มากพอที่ทำให้การจัดการ ดูมีความท้าทาย
การจัดการระบบ ในเดือน เมษายน ที่ผ่านมา ทีมงานได้ให้น้องพยาบาลเลือกสถาน
ที่ทำงาน ซึ่งในแต่ละสถานที่มีการกำหนดจำนวนพยาบาลที่ต้องการ
มีการจัดการเสร็จสิ้นภายใน วันเดียวกัน พยาบาล จำนวน ๖๒ คน
ถูกจัดสรรลงพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่ อำเภอหนองจิก
การจัดการ กับระบบพยาบาลใน รพสต ใน ๖ เดือนแรก เราให้น้องพยาบาลได้เรียนรู้
ความเป็นไป ของพื้นที่ และมีพี่พยาบาเวชปฏิบัติทั่วไป อยู่ใพื้นที่เพื่อ
ดูแลในการเรียนการสอน เรื่องการรักษาพยาบาลเบื้องต้น
และการรักษาพยาบาลผู้ป่วยเรื้อรัง
มีการจัดทีมงานในการจัดการเรียนการสอน โดยใช้บริบทของพื้นที่เป็นพื้นฐาน
( Contex base Learning ) ซึ่งในช่วงแรก ก็เป็นกลุ่มเรื้อรัง , Home Ward
รักษาพยาบาลเบื้องต้น การดูแลกลุ่มมารดาฝากครรภ์ที่มีความเสี่ยง
หลังจากนั้น เราได้จัดกลุ่มสอนเรื่องเวชศาสตร์ครอบครัว ให้แก่น้องๆ
จำนวน ๑๐๐ % และวางแผนการจัดการฝึกงานในโรงพยาบาล อีก ๖ เดือน
ข้างหน้า
ส่วนน้องในโรงพยาบาล ก็แบ่งกลุ่มตามหน่วยงานที่จัดสรรลง ซึ่งในช่วงแรก
เราอาจไม่มีการหมุนเวียนจุด เพื่อเรียนรู้ในแต่ละงาน
อาจไม่เหมือนสถานบริการสุขภาพอำเภออื่น ที่หมุนเวียนทั้งโรงพยาบล
จำนวน ๒ เดือน เพื่อ เรียนรู้ ความเป็นอยู่ในโรงพยาบาลทั้งหมด
แต่ เราและทีมงานเชื้อว่าเวลากับการเรียนรู้ให้ชำนาญ เป็น เฉพาะเรื่องจะก็ให้เกิด
ประโยชน์ ในเวลาอันจำกัด เพื่อใช้ประโยชนฺจากทรัพยากร ในเวลาอันไม่นานนัก
ในเดือนเมษายน น้องๆ ทุกคน ถูกจัดเป็น เวร ควบคุ่กับพี่ ๆเก่า แต่ละเวรส่งต่อ
โดยให้น้องจำนวนที่เพิ่มขึ้น เป็นเวรส่งต่อคู่กับพี่ๆ เรียนไปกับประสบการณ์จริง
ในเดือนพฤษภาคม เริ่มมีการลดจำนวน พยาบาลเวรเช้า ๑ คน และจัดน้องพยาบาล
เพิ่มให้ ๒ - ๓ คน โดยมีพี่พยาบาลรุ่นเก่า คอยดูแลเป็นรายกลุ่มรายคน
ในเดือนมิถุนายน สอบ สมรรถนะ ทั้งภาคปฤษฎี และภาคปฏิบัติทุกจุดบริการ
ในเดือนมิถุนายน และกรกฎาคม เริ่มลดพยาบาลเวรผลัดบ่าย และดึกลง
และจัดพยาบาลน้องใหม่ขึ้นปฏืบัติงานแทน โดยจัดพี่พยาบาลเก่า เป็น ๑/๑
และมีเวร Cover ระหว่างตึก เพื่อรับรายงานเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ พร้อมให้การช่วยเหลือ
จุดบริการที่ ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้
ในเดือน สิงหาคม กันยาน เริ่มเข้าสู่ระบบการจัดการปกติ แต่ยังมีการดูแล
การปฏิบัติงานของน้องพยาบาลใหม่ โดยการจัดการเรียนการสอนเป็นรายคน
รายกลุ่ม และ สอบภาคทฤษฎี และ ภาคปฏิบัติเมื่อครบ ๖ เดือน อีกครั้ง
เราเชื้อคะว่าน้องพยาบาล ทุกคนในหลักสูตร โครงการผลิตพยาบาลเพิ่ม
ในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ไม่ได้มีคุณภาพที่ด้อยกว่าพยาบาลรุ่นพี่เลย
เพียงแต่พยาบาลรุ่นพี่ จะสามารถเป็นต้นแบบที่ดีให้น้องๆ ได้จริงหรือไม่
พวกเขาเป็นคนดี ที่พร้อมเสีย หากต้นแบบไม่ดีพอ
สวัสดีค่ะ
ติดตามอ่านบันทึกของคุณตลอดทุกบันทึกค่ะ ขอเป็นกำลังใจนะคะ
ขอบคุณคะ ครูคิม ผู้มีจิตอาสในหัวใจ
จากที่เคยกังวลว่านักศึกษาที่จบไปไปอยู่ภาคใต้จะไปอยู่กันที่ไหน? มีระบบรองรับกันอย่างไร? ตอนนี้รู้สึกเพราะมีข้อมูลมากขึ้น ขอบคุณที่มาเขียนเล่าเรื่องดีๆให้ฟังค่ะ แล้วจะไปเล่าให้อาจารย์ที่วิทยาลัยฟังต่อนะคะ เพราะอาจารย์ทุกคนยังคอยติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของนักศึกษาโครงการพยาบาลจาก ๓ จังหวัด ชายแดนภาคใต้อยู่เสมอว่าลูกศิษย์เราจะไปอยู่ที่ไหนเป็นอย่างไรบ้าง ในช่วงระยะเวลา ๔ ปีที่เขาอยู่ที่นี่ ถึงแม้ในช่วงแรกจะเป็นกังวลอยู่บ้างในเรื่องของครูไม่พอ หรือความแตกต่างทางด้านภาษา และวัฒนธรรม เมื่อปรับระบบ ปรับตัวเองเข้าที่เข้าทาง ไม่เคยเลยที่จะคิดว่าเขามีคุณภาพด้อยกว่าเด็กภาคปกติที่เข้ามา ดิฉันเชื่อว่าคนทุกคนพัฒนาได้ค่ะ กลับมีความภูมิใจว่าอย่างน้อยความเป็นครูที่สถาบันแห่งนี้เราได้บ่มเพาะนักศึกษาให้กลับไปทำงานเพื่อแผ่นดินเกิดเป็นแขนขาให้ในหลวง ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่เคยได้ไปอยู่ ไม่เคยสัมผัสความรู้สึกในพื้นที่เสี่ยง แต่นักศึกษากลุ่มนี้เป็นความหวังว่าดอกแคทรียาแห่งรั้ว ฟ้า-ขาว ที่จบไปนี้จะไปเบ่งบานทั่ว ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ดูแลคนในพื้นที่ให้มีสุขภาพดีถ้วนหน้าค่ะ แล้วจะติดตามข่าวคราวเรื่อยๆนะคะ
สวัสดีคะ อาจารย์ ศภิสรา
ดีใจคะ ที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการบอกเล่าเรื่องราวของ ดอกปีบสีขาวที่บานสะพรั่ง ในชายแดนใต้
รพ.ปากพะยูนได้น้องใหม่จากสามจังหวัด สองคน ยังไม่ได้สัมภาษณ์
วันหลังจะเล่าสู่กันฟัง
ยินดีด้วยคะ ฝากดูแลบ้างนะคะ