(ยืมภาพมาจากบ้านครูไก่)
พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ ทิวาพัฒน์
http://gotoknow.org/blog/parmahavinai111/434260
พระคุณแม่แน่แท้ มากมาย
ท่านก่อร่างสร้างกาย ก่อนเกื้อ
ความรักมิเหือดหาย เหินห่าง ลูกนา
รักถนอมโอบเอื้อ โอบอุ้มรักษา......
..กวีนำเสนอให้คำนึงถึงพระคุณของแม่ เหมือนพระอรหันต์ เหมือนพรหมของลูกเสมอ
โดยคำ ลานเทวา
http://gotoknow.org/profile/phutanow และมีผลงานอีกส่วนติดตามได้ที่
http://www.thaiwriter.net/forum01/index.php?topic=326.0
http://phutanow.wordpress.com/
บำเพ็ญและเที่ยวท่อง สารัตถะ
เฉกชีวิตใดสาระ ให้ยึดมั่น
เป็นอยู่อย่างธรรมดา สามัญ
พอเพียงแลเท่าทัน ในตัวตน
ครูกานท์แห่งทุ่งสักอาศรม
http://gotoknow.org/blog/krugarn1/366008?refresh_cache=true
.
● บ้านนี้ไม่มีทุกข์ ไม่ปลุกร้อนในเหย้าเรือน
มีดาวอยู่เคียงเดือน แสวงหามรรคาสมัย
บ้านนี้ไม่มีเพื่อน ที่คลาเคลื่อนรับใช้ใคร
มิตรญาติก็ตัดใย หากยื้อยุดแต่มายา
บ้านนี้ไม่มีสี ไม่สาดสีแต่ศึกษา
แนบชิดกับอิฐศิลา ทุกฐานรากนิรนาม
บ้านนี้ไม่มีฟืน ไว้ใส่ไฟให้เริงลาม
ก้อนเส้าและเตางาม ไว้หุงหาและแบ่งปัน
บ้านนี้ไม่มีรั้ว ไม่กริ่งกลัวไม่ป้องกัน
เชื่อรักและผูกพัน ในสันติธรรมจะดำรง
บ้านนี้ไม่เลือกข้าง เพราะหลุมพรางคือผุยผง
ดีชั่วก็เผ่าพงศ์ ต้องยืนหยัดร่วมปัฐพี
กวีท่านนี้เป็นครูของผมเอง แต่ไม่เคยพบท่านเลย อ่านกวีของท่านและจำเอาเป็นครู "ครูพักลักจำ" อิอิ
กวีให้แง่คิดว่า ไม่ควรหาความทุกข์เข้าบ้าน มีไฟเพื่อหุงหาอาหารมิใช่หาความรู้ร้อนมาไว้ในเรือน ไม่เกรงกลัวภัยใดๆ เพราะมีศรัทธาในความรักหวังดีต่อกันและกันของมวลมนุษย์
http://gotoknow.org/blog/nunthaputho/388694
เขียนบทกวีชื่อ.....สัตว์ มนุษย์ วิเคราะห์ความแตกต่าง
สัตว์มนุษย์ สุดประเสริฐ เลิศวิเศษ
มีท่าที รู้เหตุ เขตแก่นสาร
ผิดกับคน คอยเติม เพิ่มความพาล
คอยล้างผลาญ มนุษย์ถอย ร่อยหรอลง
สัตว์มนุษย์ รวมคน ปะปนร่าง
มีท่าที หาทาง ล้างลุ่มหลง
ยศกามเกียรติ เบียดบัง ไม่มั่นคง
สิ่งยืนยง คือความดี ไม่มีตาย
กวีบอกความหมายความเป็น มนุษย์ว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ คนมิใช่สัตว์ประเสริฐ เพราะมีความพาล พอรวม "สัตว์มนุษย์" ทำให้ความประเสริฐลดน้อยถอยลงไปด้วย แต่บอกว่า ความดีเท่านั้นที่เป็นอมตะ
พิมล มองจันทร์
http://gotoknow.org/blog/mikau2/251197
ขอทานอยู่แถวข้างถนน
เป็นคนหรือว่าเป็นเปรตผี
บางคนสนใจใยดี
บางคนปราดปรี่หนีไกล
เขาหิว เขาโหย เขาอ่อนแรง
ถูกโรคยื้อแย้งแช่งป่วยไข้
ร่างโซทรุดนั่งลงไป
ยกมือนบไหว้ขอเศษเงิน
กวีมองลึกถึงสายตาของคน 2 ประเภท มองคนเป็นคน มองคนมิเป็นคน เห็นคนแล้วควรให้ความช่วยเหลือเพราะอย่างน้อยก็เป็นคน มองเห็นมิใช่คน จึงหลบหนีไปอย่างเร็ว "เห็นคนเป็นคนจึงใช่คน เห็นคนมิใช่คน ใช่คนไม่"
นาวาเอก วสันต์ จันทะวงศ์ กองทัพเรือ
เขียนกวีชื่อว่า ......"เย็น..นิพพาน"
เหนื่อยหนักนั่งพักนิด สงบจิตสู่แจ่มใส
กี่ร้อยกี่เรื่องร้าย มอดมลายด้วย"ใจเย็น"
นิพพานที่ผ่านพบ คือสงบสว่างเห็น
จับจ้องที่ใจเป็น ให้รู้แจ้งก่อนสิ้นใจ
กวีให้แง่คิดสะกิดให้มอง เหนือยกายต้องหยุดพักผ่อนนอนหลับ เหนื่อยใจต้องหยุดคิด ให้ใจเย็นลงเสียก่อน แล้วจะเกิดปัญญา คือความสว่างในใจคน มุ่งเน้นการพัฒนาจิตใจ
ครูดาหลา
วัดขี้เหล็ก ลำพูน เขตฯ1
http://gotoknow.org/blog/krudala/431471
"วันอำลาสถาบัน"
จบหลักสูตรมอสามในวันนี้
ให้ศิษย์รักโชคดีดังประสงค์
ก้าวต่อไปให้สมเจตต์จำนง
ครูยังคงคอยให้กำลังใจ
สังคมใหม่เพื่อนใหม่ในโลกกว้าง
ใช้ปัญญานำทางกระจ่างใส
ใช้สติแก้ปัญหาทุกครั้งไป
อยู่ที่ใจรู้ค่าปัญญาชน..............กวีแสดงความหวังดี มีความห่วงใย ความผูกพันที่มีต่อศิษย์ พร้อมทั้งตักเตือน เป็นปัจฉิโมวาท ว่า มีครูเป็นกำลังใจให้เสมอ และต้องใช้สติปัญญาแก้ปัญหาชีวิตทุกครั้งคราว
นักกวีชื่อ "ทิมดาบ" อดิเรก เร่งมานะวงษ์ เขียนกวี "กลอนเปล่า" ชื่อ
มาร่วมสร้างสรรค์โลกสวยด้วยกันเถอะ
ยามใดเธอเหนื่อยหรือท้อใจ
จงเงยหน้ามองไปบนท้องฟ้า
ภายใต้พระอาทิตย์ดวงเดียว
เราทั้งผองกลมเกลียว
และจงใช้จินตนาการอันแตกต่าง
เพื่อสรรค์สร้าง
ร่วมร้องเพลงแห่งรัก
กันได้ในที่สุด
ถ่ายเทความรักข้างใน
จากทุกหัวใจดวงน้อย............มาร่วมสร้างสรรค์โลกสวยด้วยกันเถอะครับ...
กวีบันทึก "แง่คิดเชิงบวก" ไว้อย่างน่ารักน่าชังน่าติดตาม โลกแห่งความแตกต่าง แต่ว่า มีฟ้าผืนเดียวกัน และดวงอาทิตย์ดวงเดียวกัน มีความรักให้กัน โลกนี้มีแต่ความสุขอันจีรัง
“เราจะเป็นแสงตะวันด้วยกันไหม
ส่องดวงใจด้วยรักอีกสักหน
ช่วยกันฉุดดึงเหล่าเยาวชน
ให้รอดพ้นจากภัยในสังคม”…………กวีชวนผองเพื่อนช่วยเยาวชนโดยการเปรียบว่า ผู้ช่วยเหลือนั่นเป็นแสงสว่างจากดวงตะวัน ภัยสังคมนั้นคือความมืดมิดอันน่าหวาดกลัว
คำนำหน้า: |
นาย |
ชื่อจริง: |
จำนง |
นามสกุล: |
พันธ์ชื่น |
เกิดมามองโลกนี้หลายปีอยู่ ( 2 ส.ค.2482 )
เคยเป็นครูมีงานสอนอ่านเขียน ( ร.ร.ศรีราชา )
รวมเวลาสี่สิบปีที่พากเพียร ( 2502 - 2542 )
จนเกษียณราชการเนิ่นนานมา ( 2542 )…….กวีที่เล่า อัตโนประวัติ ส่งเสริมความพากเพียรจนประสบความสำเร็จ เป็นครูยาวนานจนเกษียณ หนทางสายนี้ยังมีแง่มุมให้คิดอีกมากมาย
จากบางส่วนของบทกวีที่มีชื่อว่า .....กวีประกอบอัตโนประวัติ
กระเบื้องดันเฟื่องฟูลอย คนถ่อยได้ดีมีถม
ไอ้ห้อยลอยหน้ารื่นรมณ์ ไล่ข่มเข่นฆ่าราวี
กวีบอกความหมายไว้ด้วยว่า “กระเบื้องหมายถึงคนขาดศีลธรรมแต่ได้ดี” อันเป็นคติธรรมที่สอนว่า ต่อไปภายภาคหน้าเมื่อถึงยุคเสื่อมคนไม่ดีจะครองเมือง.......
เจ้านายน้อยเป็นผู้ใหญ่ถึงคราวโกรธ
จะลงโทษข้าผู้น้อยด้อยศักดิ์ศรี
ควรแล้วหรือ เพียงตาเห็นเป็นคัมภีร์
สมควรมีเหตุผลบ้างสร้างชอบธรรม........
คติธรรมคือ จะกล่าวโทษโกรธขึงใครไม่ว่าผู้น้อยหรือผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็ต้องระวังมากกว่าผู้น้อย ควรประกอบด้วยเหตุผลอันสมควร แต่ถ้าไม่โกรธใครได้ ก็จะดีที่สุดแล้ว
และอีกหนึ่งบทเพื่อเป็นตัวอย่างให้แง่คิดทางธรรม.....................
ขอหวยจ้าวพ่อ......
เอ้อเองอยากถูกหวยรวยกับเขา
เอาซิเอาเอียงหูมาข้าจะให้
ห แปลว่า "หายนะ" พาทรัพย์ไป
ว "วอดวาย" ย "ย่อยยับ" พาอับปาง
ชื่อจริง: |
ปณิธิ |
นามสกุล: |
ภูศรีเทศ |
1. โอ้อนาถ วาสนา ชะตาลูก.....เคราะห์มาซ้ำ กรรมผูก ดังถูกประหาร
เป็นสัตว์บก ก็ไม่ใช่ ใ้ห้ร้าวราน....สัตว์เลื้อยคลาน ก็ไม่เชิง ชวนโศกา
2. สัตวน้ำ ก็ไม่ ได้เป็นอีก.....เขาเห็นหลีก หลบเร้น เล่นตีนท่า
ยังกระโดด โลดเต้น เช่น ไก่ กา.....ครู่เดียวกลาย เป็นปลา น่างวยงง
3. กำเนิดเป็น ลูกกบ ซบอกแม่.....ชะเง้อชะแง้ เห็นป้ายติด พิศวง
ลูกต้องพราก แม่พ่อ ต่อนี้คง-......เป็นกระทง หลงทาง ดั่ง "ไชยา"
ชื่อจริง: |
♥สมหญิง♥ |
นามสกุล: |
✿อุ้มบุญ✿ |
หลอก มารวม ร่วมใจเพื่อ พัฒนา
ให้อยาก นำพา สานเชื่อม เครือข่าย
แล้ว เรียนรู้ด้วยสุข แบบเรียบง่าย
จากไป มิวาย ขอ ต่อ R2R
เส้น แบ่งกลางกั้นใจในชีวิต
ทาง ลิขิตแห่งตนพ้นทุกข์ได้
สาย เชื่อมสู่สุขสงบส่งให้
นั้น ใช่ "เส้นทางธรรม" นำชีวี
นามแฝง: |
ครูแป๋ม |
คำนำหน้า: |
นางสาว |
ชื่อจริง: |
จิราภรณ์ |
นามสกุล: |
บุญสงค์ |
ในที่สุดก็มาถึงวันลาจาก
จำต้องพรากจากไปไกลแสนคิดถึง
จบไปแล้วโปรดเถอะนะจงคะนึง
รำลึกถึงพี่น้องเราสุรธรรม………………กวีกล่าวถึงการจากลา ระหว่างครูและศิษย์แง่คิดคือ “การพบเป็นสัญญาณของการจาก” เสมอ ความคิดถึงกันก็เป็นส่วนหนึ่งของทุกดวงใจ อยู่ที่ว่า ใครจะดำเนินการอย่างไร กับความคิดถึงนั้น
Poo
ดั่งธรรมชาติสอนธรรมน้อมนำจิต
เป็นพลังแห่งชีวิตคิดสร้างสรรค์
เปิดเข้าใจออกยอมรับกับวัยวัน
ที่หมุนเวียนเปลี่ยนผันพลันพธู…………..ให้แง่คิดว่า ธรรมชาติก็สอนใจคนได้ แต่ต้องเปิดใจยอมรับวันเวลาเหล่านั้น ....ธรรมชาตินั้นคือพลังอย่างหนึ่ง
เวลาผันผ่าน เนิ่นนานนมแล้ว
รูปในกรอบแก้ว ฉันยังถวิล
นั่งกอดรูปพ่อ น้ำตาหลั่งริน
ไม่เคยหมดสิ้น รักและ..อาลัย
ชื่อจริง: |
วราภรณ์ |
ชื่อกลาง: |
ดอกไผ่ |
นามสกุล: |
ธรรมทิพย์สกุล |
เป็นแค่เพียง "ดอกไผ่" ใช่ "ดอกฟ้า"
เฉกดอกหญ้าค่าด้อยไร้คนถาม
ชีพดำรงคงอยู่เพียงครู่ยาม
ประทับความดีฝากก่อนจากจร... กวีประกอบประวัติส่วนบุคคล กล่าวถึงการถ่อมตน แม้ไม่มีใครเหลียวแลแต่ว่าสามารถทำความดีก่อนชีวิตจะจบลงได้ เหมือนเช่นคนหรือสิ่งมีค่าอื่นๆ
ชื่อจริง: |
ถาวร |
ชื่อกลาง: |
อุ้ม |
นามสกุล: |
ภาวงศ์ |
ยังมีแสง สีทอง ส่องกลางใจ มีความ สดใส ในความหม่น
มีความรัก ส่องสว่าง กลางใจคน ทั้งจากตน จากคนอื่น ในผืนดิน
ชีวิตเรา วันนี้ ยังมีหวัง มีพลัง แรงใจ ไม่สูญสิ้น
อาจล้มบ้างสร้างปีกใหม่ได้โบยบิน สัมผัสกลิ่น ดินหญ้า ยลฟ้างาม ……
ชื่อจริง: |
krugui |
นามสกุล: |
Chutimahttp://gotoknow.org/blog/9942/424779 |
ตะวันลับขอบฟ้าพาใจเศร้า
เหงาแสนเหงามองหาใครไหนจะเหมือน
แสงอาทิตย์เลือนลับแล้วกลับเยือน
ให้เชือดเฉือนเธอจากไปไม่หวนคืน……ตะวันลับฟ้าหมายถึงการจากลา แต่ว่าตะวันจากไปแล้วยังมีหวังว่าจะกลับคืน ส่วนคน (คนนั้น) กลับไม่หวนคืน เป็นกวีเปรียบเทียบ มุมเหมือนมุมต่าง
นามแฝง: |
คุณยาย |
ชื่อจริง: |
มนัสดา |
นามสกุล: |
คงดี |
พอตกบ่ายไม่วุ่นวายให้ใจขุ่น
มุ่งหน้าสู่พระธาตุนาดูนบุญรออยู่
จิตตั้งมั่นหันหาธรรมค้ำหนุนชู
แผ่เมตตามาสู่ทุกผู้คน…………….กวีบอกว่า การทำบุญคือความสุข การยึดพระธรรมเป็นที่พึ่งก็เป็นความสุข การแผ่เมตตาให้แก่กันก็มีความสุข ที่สำคัญแฝงการท่องเที่ยวไว้ด้วย พระธาตุนาดูน
ตอกย้ำยามย่ำอัสดง
พะว้าพะวงหลงทาง..เปรอะเปื้อน
กอดเงาช้ำอ้างว้างกลางแสงเดือน
ยังย้ำเตือนซากรักที่หักพัง……………อีกบทหนึ่งของกวีที่ใช่เวลามุ้งมิ้งเย็นย่ำสายัณหกาลประกอบบอกเล่าถึงความหลังความรักที่สูญหายไป แฝงความหม่นเศร้าไว้ให้ผู้อ่านได้รับรู้
ชื่อจริง: |
ณัฐวรรธน์ |
นามสกุล: |
นวะมะรัตน์ http://gotoknow.org/blog/2552memo/329245 |
ด้วยเหนื่อยนัก พักลงบ้าง วางลงก่อน
ค่อยคลายถอน ผ่อนเมื่อยล้า พาสุขี
งานแสนหนัก เว้นวรรคบ้าง ห่างสักที
หาสิ่งดี ที่สร้างสุข สนุกกัน…………กวีสอนให้รู้จักละวางตามหลักธรรมอันสูงสุดทางพระศาสนา แต่ว่าให้ระวังเพราะไม่ใช่ละวางกันได้ง่ายๆ แล้วให้หาสิ่งที่เป็นความสุขทางอื่นๆ ประกอบชีวิตเสียบ้าง
ชื่อจริง: |
NONGYAO |
นามสกุล: |
CHAMCHOY |
ฟังเสียงฝน ร่วงหล่น จากฟากฟ้า
เหมือนน้ำตา ร่วงหล่น ปนความเศร้า
น้ำที่ไหล ท่วมนอง พี่น้องเรา
ไม่บรรเทา ท่วมบ้านเรือน และผู้คน……เสียงสายฝนหล่นก็ยังฟังเป็นเสียงแห่งความเศร้า หากเราอยู่ในอารมณ์อันหม่นหมอง เช่นสถานการณ์ทางภาคใต้ สิ่งที่ตามมาหลังฝนตกจนเกินการ ความเศร้าจึงตามมา
ชื่อจริง: |
ภาทิพ |
นามสกุล: |
ศรีสุทธิ์http://gotoknow.org/blog/tip-poem/433878 |
ก็ไม่ใช่ผู้กระทำย่ำผืนป่า
ไยภูผาพาลพวกฉันกันหนอนี่
น้ำหินโคลนเชี่ยวกรากพรากชีวี
เสี้ยวนาทีทุกที่ถิ่นหมดสิ้นแล้ว
พวกนายทุนนายใหญ่คือผู้ถือสิทธิ์
ปาล์มหมื่นไร่ปกปิดกันเป็นแถว
จะเดือดร้อนอย่างไรไร้วี่แวว
ที่สะสมในคลังแก้วก็เกินพอเพียงรำพึงบอกกล่าวเมื่อคราวเข็ญ
เหตุที่เป็นนั้นเราเปล่าเลยหนอ
หากเอาคืนคืนคนที่ต้นตอ
เปล่าร้องขอเอ่ยเสียง....เพียงรำพึง…….ให้แง่คิดว่าการตัดไม้ทำลายป่าเป็นความผิดพลาด กวีใช้วิธีต่อว่าธรรมชาติ เพื่อสะท้อนไปถึงคนตัดไม้ทำลายป่าว่า ไม่ถูกต้อง แล้วบอกความจริงให้ธรรมชาติรู้ ทั้งที่โดยแท้แล้วเป็นการบอกคนกระทำนั่นเอง ว่า “ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว”
คำนำหน้า: |
ดร. |
ชื่อจริง: |
อุทัย |
นามสกุล: |
เอกสะพัง |
น้ำท่วมบ้านย่านภาคใต้หลายจังหวัด
ร่วมกันจัดซับน้ำตากันเถิดหนา
ขอน้ำใจไทยช่วยไทยได้เมตตา
รินหลั่งมาฟื้นฟูใจชาวใต้..เอย……..กวีชักชวนเชิญชวนให้มีเมตตาต่อคนผู้ประสบชะตากรรม ตามหลักการแห่งกวีของล้นเกล้ารัชการที่6 ที่ทรงนิพนไว้ว่า “อันความกรุณาปรานี จะมีใครบังคับก็หาไม่...” แต่ชวนกันหน่อยก็ดีนะครับ
ชีวิตเปรียบเทียบเทียนที่เปลี่ยนแปลก
จะดวงแรกดวงหลังดังขานไข
คือดวงเทียนดวงทีมีดวงใจ
ย่อมมีฝันหวั่นไหวกลางสายลม………….กวีเปรียบชีวิตเหมือนแสงเทียน เหมือนดวงใจของทุกคน ย่อมมีฝันอันเคยใฝ่ แต่ว่าอยู่กลางสายลมแรง อาจดับลงเมื่อใดก็ย่อมได้ ดังนั้น พึงดำรงอยู่ด้วยความไม่ประมาท
ท่านหัวหน้ากลุ่มยอดเยี่ยมไปเลยค่ะ
คิดไม่ผิดเลยที่แต่งและตั้งเป็นหัวหน้ากลุ่ม..
ชื่นชมด้วยความเคารพค่ะ
เรียนครูป.1ครับ
ใส่รูปของบรรดากวีไว้แล้วแต่ว่า เวลาบันทึกไหงหายไปได้ แหม ใครหนอทำหายไป กำลังหาทางใส่รูปเข้าไปใหม่ให้ไฉไลดีกว่าเดิมครับ
อยู่ระหว่างความพยายาม
เรียนคุณธรรมทิพครับ
กะว่าจะช่วยกันนำทั้งหมดมาร่วมกันนะครับ
แต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นรูปแบบไหน และอย่างไร
มอบฝ่ายเลขาและผู้ช่วยพิจารณา
และขอคำแนะนำจากผู้มีความรู้ด้วยครับ
ไม่ยากเลยค่ะท่านหัวหน้า
ก็รวมลิงค์บันทึกจากน้องมะปรางเปรี้ยว
ก็สามารถรวมบันทึกได้ทั้งหมดค่ะ
เรียนท่าน ผศ. โสภณ ที่เคารพ ขอน้อมนบว่าเยี่ยมยุทธ์ใช่มุสา
นี่แหละใช่ถอดบทเรียนที่เขียนมา ถึงแม้ว่าเพียงส่วนหนึ่งก็ตรึงใจ
ตามเก็บความครบถ้วนล้วนมวลมิตร มิกั้นปิดเปิดใจกว้างวางใจใส
ตรงประเด็นเฟ้นใจความงามพิไล ที่โดนใจ...มิใช่เพราะ...มีชื่ออิงจันทร์
เป็นธรรมดาของการนำเสนอบนเวที ....
ของดีต้องรอรอบดึก อิอิ
สวัสดีครับอาจารย์
เรียนคุณอุ้มบุญครับ
หากยังมีบทกวีของท่านตกหล่นช่วยนำเสนอด้วย
จะได้ตามและวิพากษ์คติธรรมเพิ่มเติม
เพื่อความบันเทิงเริงใจ
ครับผม
เรียนครูอิงจันทร์ครับ
คราวนี้มาเป็นกลอนยาว ให้ได้อ่านกัน
เป็นการสร้างสรรค์งานกวีได้อย่างรวดเร็ว
เข้าขั้นกวีปฏิภาณเพราะเขียนงานได้รวดเร็ว
เรียนครูฐานิศวร์ครับ
แม้ว่าครูจะถนัดคณิตศาสตร์ยังมาเยี่ยมเยือนเสมอ
อีกไม่นานคงเกิดกวีคณิตศาสตร์อีกประเภทนะครับ
นักเรียนคงกรีดกันน่าดู
เรียนครูภาทิพ
เห็นผลงานของครูอยู่ในที่ทั่วไปอย่างกว้างขวาง
อย่างนี้หากคิดจะรวมเป็นเล่ม
คงได้หลายเล่มเลยนะครับ
เรียนคุณปณิธิครับ
ความรวดเร็วทำให้ตกหล่น ยังเดินต็อกๆ ใน G2K
หาบทกวีที่เพื่อนพ้องพี่น้องเราบันทึกไว้
จำได้ว่าเหมือนยังมีอีก
วันนี้เพิ่มกวีของทิมดาบ และครูดาหลาเข้ามาอีก 2 คนครับ
เรียนเพื่อนพ้องน้องพี่
หากใครพบเห็นกวีที่มีคติธรรมอันดีที่บันทึกไว้ใน G2K โปรดนำมาแจ้งให้ทราบด้วยครับ เพื่อว่าจะได้รู้จักรักและแบ่งปันกันให้มากที่สุดครับผม
เรียนคุณลุงชาติครับ
โปรดนำภาพถ่ายอย่างใดที่เกี่ยวข้องคติธรรมและคำกวีมาฝากในคราวหน้าด้วยนะครับ
เรียนท่าน ผศ.ด้วยความเคารพ
http://gotoknow.org/blog/mikau2/toc
ยอดกวี ระดับปรมจารย์อีกท่าน ที่ครูอิงมักเข้าไปเรียนรู้ และ เลียนแบบ 5555555555+
คือท่านผู้นี้ค่ะ เอามานำเสนออีกรอบ (ควรมิควรแล้วแต่จะพิจารณา อิ..อิ...)ขออนุญาต
รวบรวมสามัคคีชุมนุมไว้ ณ ที่นี้ นะคะ
บ้านนี้ไม่มีทุกข์ ไม่ปลุกร้อนในเหย้าเรือน
มีดาวอยู่เคียงเดือน แสวงหามรรคาสมัย
บ้านนี้ไม่มีเพื่อน ที่คลาเคลื่อนรับใช้ใคร
มิตรญาติก็ตัดใย หากยื้อยุดแต่มายา
บ้านนี้ไม่มีสี ไม่สาดสีแต่ศึกษา
แนบชิดกับอิฐศิลา ทุกฐานรากนิรนาม
บ้านนี้ไม่มีฟืน ไว้ใส่ไฟให้เริงลาม
ก้อนเส้าและเตางาม ไว้หุงหาและแบ่งปัน
บ้านนี้ไม่มีรั้ว ไม่กริ่งกลัวไม่ป้องกัน
เชื่อรักและผูกพัน ในสันติธรรมจะดำรง
บ้านนี้ไม่เลือกข้าง เพราะหลุมพรางคือผุยผง
ดีชั่วก็เผ่าพงศ์ ต้องยืนหยัดร่วมปัฐพี
เรียนครูอิงจันทร์ครับ
ดำเนินการเรียบร้อยครับทั้ง 3 ท่าน
คนสุดท้ายนั่น เป็นครูผมเอง อ่านกวีของท่านจนเอามาเขียนในทุกวันนี้
อีกประการหนึ่งเหมือนว่าท่านจะเคยอยู่ที่วิทยาลัยครูกาญจน์ด้วย
ขอบคุณที่นำมาแจ้ง อีกครั้งครับ
เรียน ท่าน ผศ.
เท่าที่ทราบครูกานท์ ท่านมีนามปากกาว่า ศิวกานท์ ปทุมสูติ ค่ะ ในหนังสือเรียนวิชาภาษาไทยระดับประถม มีผลงานของท่านอยู่เยอะมากค่ะ ท่านเป็นชาวสุพรรณ ปัจจุบันท่านก็อยู่สุพรรณ ชื่อ "ทุ่งสักอาศรม" ท่านเป็นนักกลอนตัวอย่างของสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย ปี ๒๕๓๗ ผลงานของท่านเข้ารอบสุดท้ายของรางวัลซีไรต์มาแล้ว ๒ ครั้งค่ะ ผลงานด้านวรรณกรรมของท่านได้รับรางวัลเยอะมากค่ะ คิดว่าปัจจุบัน ท่านจะยังคงดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ เป็นประธานโปรแกรมวิชาภาษาไทย เป็นรองคณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบันราชภัฏกาญจนบุรี อยู่อีกหรือไม่ค่ะ ช่วงหลัง ๆ ครูอิงไม่ค่อยได้ติดตามข่าวค่ะ แต่ก็อ่านผลงานของท่านอยู่เสมอ ๆ ค่ะ
จำนง พันธชื่นhttp://gotoknow.org/profile/august82
วิโรจน์ พูลสุขhttp://gotoknow.org/profile/be5000
ครูอิงจันทร์http://gotoknow.org/blog/users/dk-p12/view
ปณิธิ ภูศรีเทศhttp://gotoknow.org/blog/users/paniti/view
สมหญิง อุ้มบุญhttp://gotoknow.org/blog/khonsanfun/434541?refresh_cache=truehttp://gotoknow.org/blog/ruamrosbotkawi/429223
ครูแป๋ม จิราภรณ์ บุญสงค์http://gotoknow.org/blog/jrpkpp/429062
Poo http://gotoknow.org/blog/lanandaman/410827
ระพี กวีข้างถนนhttp://gotoknow.org/blog/2133/317858
วราภรณ์ ธรรมทิพย์สกุลhttp://gotoknow.org/profile/thamtipsakul
ถาวร ภาวงศ์http://gotoknow.org/blog/tawornpawong/431544
ครูไำก่ ชุติมาhttp://gotoknow.org/blog/9942/424779
คุณยาย http://gotoknow.org/blog/khongdee/427151
กิ่งไผ่ใบหลิวhttp://gotoknow.org/blog/a-kerdjumroon/409032
ณัฐวรรธน์ นวะมะรัตน์http://gotoknow.org/blog/2552memo/329245
ครูป.1 นงเยาว์ แช่มช้อยhttp://gotoknow.org/profile/nongyao_chamchoy
ครูภาทิพhttp://gotoknow.org/blog/tip-poem/433878
ดร. อุทัย เอกสะพังhttp://gotoknow.org/profile/uthai1589
และโสภณ เปียสนิท
ยังมีบทกวีตกค้างหลงตาอยู่ที่ใดโปรดแจ้งด้วยครับ
ครูศิวกานท์ ปทุมสูติ http://gotoknow.org/blog/krugarn1/366008?refresh_cache=true
ธนา นนทพุทธ http://gotoknow.org/blog/nunthaputho/388694
พิมล มองจันทร์ http://gotoknow.org/blog/mikau2/251197
และอีกหนึ่งคือ นาวาเอกวสันต์ จันทวงศ์ http://gotoknow.org/journals/wasan_chantawong/entries/72098
เยี่ยมยอดไปเลย นะคะครูชอบจังบันทึกนี้
✿อุ้มบุญ✿ มาเรียนปรึกษา ว่า
'ลีลาภาษากลอน' : เก็บแรงบันดาลใจใส่กลอน : ตอน กวีวิพากษ์ จากเวทีครูกลอน
ฝากท่านพิจารณา.....เพื่อโปรดอนุมัติ
เรียนคุณอุ้มบุญครับ
อนุมัติจัดดังเสนอ.....(ลงนาม) ว่าแต่ว่า
หากเสร็จสิ้นก่อนสงกรานต์จะดีนะครับ เพราะ
ผมเองคงได้แต่เอาใจช่วยแล้ว วันอาทิตย์หรืออย่างช้าก็วันจันทร์นี้
จะเดินทางไปอยู่กับแม่อีกครั้ง
เพราะสงกรานต์ไปอยู่กับท่านทุกปี เน็ทไม่มีให้เล่น
รดน้ำ ทำบุญ สงบเงียบอยู่กับแม่ คราวนี้หลายวันเชียว
เอาภาพของกวียุคเดียวกับ ครูกานท์ อีกคน ชื่อ สุธีร์ พุ่มกุมาร
มีภาพประกอบด้วยครับ
มีร้อยกรองของพระคุณเจ้า (คิดว่าเป็นพระ) อีกท่านในโกทูโนว์ ที่น่าศึกษา ท่านใช้นามว่า "คำ ลานเทวา" ผลงานท่านหลากหลาย http://gotoknow.org/profile/phutanow http://www.thaiwriter.net/forum01/index.php?topic=326.0http://phutanow.wordpress.com/
กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ
ดำเนินการเพิ่มแล้วครับ กราบขอบพระคุณครับ ที่นำความสมบูรณ์มาเพิ่มให้
โคลงพระคุณแม่ของ "สุเมโธ ภิกษุ" น่าอ่านครับ ส่วนของพระมหาวินัย เพียงหัดขีดเขียน แต่อาจารย์ก็ยังนำมาลงไว้ ต้องให้ท่านผู้เชี่ยวชาญแนะนำครับ.สำหรับ ท่าน"คำ ลานเทวา" นี่ยังสงสัยอยู่ว่าท่านเป็นพระหรือเป็นเพียงฆราวาสผู้ปฏิบัติธรรม(อนาคาริก) อาจารย์รู้จักประวัติท่านมั้ย.
นำภาษามาร้อยเรียงเพียงตัวอย่าง
พอเป็นทางการประพันธ์อันสดใส
ยามที่ว่างจากการเรียนขีดเขียนไป
สะสมไว้เป็นผลงานการประพันธ์
แม้ไม่เพราะเหมือนกวีที่โดดเด่น
แต่ก็เป็นความภูมิใจที่ใฝ่ฝัน
แม้ไม่ใช่กวีศรีสำคัญ
แต่ว่าฉ้นก็รู้เรื่องเบื้องกานท์กลอน
ตัวฉันเองก็มีครูผู้สอนสั่ง
เคยได้ฟังครูแนะนำพร่ำสั่งสอน
ได้ความรู้จากคุณครผู้อาทร
เป็นดังพรได้ต่อยอดตลอดกาล
กลอนที่แต่งแม้ไม่ซึ้งถึงขนาด
เพราะว่าขาดทำนองร้องขับขาน
สามสองสามงามดีชี้คำกานท์
คือตำนานกลอนสุภาพซาบซึ้งใจ
พระมหาวินัย
ศุกร์ ที่ ๑๘ ก.พ. ๕๔
กราบเรียนพระอาจารย์ครับ
คำ ลานเทวา เพิ่งจะรู้จักได้ยินชื่อครั้งแรกที่พระคุณเจ้า
นำมาแปะไว้ให้เท่านั้นเองครับ
แต่ดูจากการแต่งกายแล้วน่าจะเป็นสมณะนะครับ
- ประทับใจและชื่นชมมากครับ
- ผมอยู่ในดินแดน ที่เข้ามาพื้นที่โกทูโนแห่งการแบ่งปันและความรักของผมไม่ได้ ตั้งแต่วันที่ 8 - 10 เม.ย.54 ครับ งานผมจึงช้าบ้าง แต่เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมทำงานกับทุก ๆ คน ที่เป็นกัลยาณมิตร ด้วยความรัก ถึงแม้ไม่ได้ยินเสียง และเจอหน้ากันนะครับ มาร่วมทิ้งร่องรอยเล็ก ๆ ของพวกเรานะครับ แล้วจะเป็นแรงกระเพื่อมเป็นวงกว้างในจักรวาลนะครับ....
เข้ามาแล้วครับอาจารย์ ขออนุญาตนำเป็นต้นแบบ และเป็นตำราฝึกเขียนกลอนนะครับ
เรียนคุณทิมดาบครับ
คิดดูนะครับ แวนโกะวาดภาพแล้วขายไม่ได้
อดอยากยากจน จนกระทั่งตาย
นานแล้วภาพจึงมีราคา
เเพงกว่าทองคำ
ผลงานของโสภณ และทิมดาบ
อาจขายได้แพงกว่าผลงานของแวนโกะก็ได้
แต่ อาจต้องมรณะกรรมอีกหลายหน อิอิ
เรียนหนุ่มเอมครับ
ค่อยๆกวียามมีเวลาว่างนะครับ
ครูสุนทรภู่ ครูนวรัตน์ ครูกานท์
แต่ละคนมือดีทั้งนั้นเลยครับ
“การดำรงชีวิตที่ดีจะต้องปรับปรุงตัวตลอดเวลา การปรับปรุงตัวจะต้องมีความเพียรและความอดทน
เป็นที่ตั้ง ถ้าคนเราไม่หมั่นเพียร ไม่มีความอดทน ก็อาจจะท้อใจไปโดยง่าย เมื่อท้อใจไปแล้ว ไม่มีทางที่จะมีชีวิตเจริญรุ่งเรืองแน่ๆ”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ครูและนักเรียน โรงเรียนจิตรลดา ๒๗ มีนาคม ๒๕๒๓