เปลี่ยนนิสัยการบริโภคผิดๆ นำมาสู่ปัญหาอ้วนลงพุง
ไขมัน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เบาหวาน
หันมากินผักหลากสีดีต่อสุขภาพ
เหลือง-ส้ม
บำรุงบำเรอ
ส่วนผักสีเหลืองและสีส้ม อาทิ
แครอท ฟักทอง ข้าวโพด แตงโมเหลือง เมลอน พริกหวาน
พวกมันอุดมไปด้วยสารแคโรทีนอยด์ (Carotenoids)
จึงมีสารต้านอนุมูลอิสระเต็มเปี่ยม
ช่วยรักษาสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือด
ผสานพลังกับสารไบโออาโวนอยด์
(Bioavoniods) เพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายช่วยบำรุงหัวใจ
บำรุงสายตาสามารถมองเห็นในที่มืดได้ดี
ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต้อกระจก
และลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง
แดง แรงฤทธิ์
ผักสีแดงทุกชนิดอุดมไปด้วยสารไลโคฟีน (Lycopene)
เต็มเปี่ยมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก ลดภาวะการเป็นหมันชาย
ชะลอความเสื่อมของเซลล์
ในร่างกายและลดปริมาณไขมันในเลือดและยังช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ได้
ม่วง ต้านเสื่อม
เริ่มต้นจากผักสีม่วงแดงน้ำเงิน
เช่น กระหล่ำปลีม่วง มะเขือ
มะเขือเปราะม่วงและล่าสุดกับมะเขือเทศเชอรี่สีม่วง
เป็นนวัตกรรมทางพันธุ์พืช (Breeding) โดยคัดสรรมะเขือเทศสีแดงรสชาติดี
และช่อผลยาว มาผสมกับเชอร์รี่สีม่วง จากนั้นเมื่อได้มะเขือเทศผลสีม่วง
แล้วจึงนำพันธุ์มาผสมกับมะเขือเทศแดงอีกครั้ง
จนได้มะเขือเทศเชอร์รี่สีม่วงที่มีทั้งรสชาติอร่อยและรูปลักษณ์พวงยาวสาวยงาม
บรรดาพืชผักเหล่านั้นมีสารแอนโธไซยานิน
(Anthocyanins) ซึ่งมีฤทธิ์ต้นอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์
ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด ลดอัตราความเสี่ยงโรคหัวใจ
ชะลอความเสื่อมของดวงตา และสารฟีโนนิค (Phenolics)
ช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง รักษาระบบทางเดินปัสสาวะ
และเพิ่มความจำ
ขาว รักษาสมดุล
ไล่มาที่ผักสีขาว อย่างแตงกวา
หัวไชเท้า ดอกกะหล่ำ มะเขือเปราะขาว มะระขี้นก เมลอนขาว
มีสารพวกแอนโธแซนทิน (Anthoxanthins) มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
ลดอาการปวดข้อเข่า ต้านเชื้อวัณโรค รักษาระดับน้ำตาลในเลือด
รักษาระดับภูมิคุ้มกันให้อยู่ในสภาพดีและยังมี อัลลิซิน (Allicin)
และธาตุซิลิเนียม ช่วยลดคอเลสเตอรอล และต้านเซลล์มะเร็ง
จึงช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งและหัวใจด้วย
เขียว สบายตา
ผักสีเขียวมากมายในท้องตลาด
มีสารกลุ่มคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll),ลูทีน(Lutein) และอินโดเลส
(Indoles) ประกอบด้วยเบต้าแคโรทีน แคโรทีนนอยด์
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก
โรคศูนย์จอตาเสื่อม และเพิ่มความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
ปอเปี๊ยะเบญจรงค์
ส่วนผสม
แผ่นแป้ง (สำหรับห่อแหนมเนือง)
15-20 แผ่น
เนื้ออกไก่ (ต้มแล้วฉีกเป็นเส้น)
1 ชิ้น
กะหล่ำปลี (สีเขียว) 1
หัว
กระหล่ำปลี (สีม่วง) 1
หัว
แครอท 2 หัว
แตงกวา 3-4 ผล
ข้าวโพดหวาน (ต้ม-แยกเป็นเมล็ด)
1-2 ฝัก
ผักชี 1 กำ
ส่วนผสมน้ำจิ้ม
กระเทียมไทย 20 กลีบ
พริกชี้ฟ้าแดง 10 เม็ด
น้ำจิ้มไก่ 2/3 ถ้วย
มะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
งาขาว เล็กน้อย
วิธีทำ
1. โขลกพริกชี้ฟ้า
และเกลือให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย นำน้ำจิ้มไก่ผสมน้ำมะขามเปียก
แล้วตั้งไฟใส่เครื่องปรุงที่โขลกเตรียมไว้ ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายตามชอบ
คนจนน้ำตาลละลาย ตักใส่ถ้วย โรยด้วยงาขาว
2.
วางเนื้อไก่ฉีกและผักที่เตียมไว้บนแป้ง (แช่น้ำให้นิ่มก่อนห่อ )
แล้วห่อม้วน พับริมแผ่นแป้งซ้ายขวาห่อเป็นแท่งยาวจัดใส่จาน
เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม รับประทาน 10-15 คน
TRICK :
ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ กล่าวสรุปว่า
ผู้บริโภคควรรับประทานผักหลากสีให้ได้ทุกสีต่อหนึ่งมื้ออาหาร
ในอัตราส่วนคาร์โบไฮเดรตต่อวิตามินจากผักผลไม้หนึ่งต่อหนึ่ง
ซึ่งเป็นวิธีดูแลสุขภาพที่ดีเยี่ยมอย่างไม่มีวิธีใดเปรียบ
จงรับประทานผักหลากสีบ่อยๆ เพราะผักทุกสีมีคุณประโยชน์มากล้น
แถมยังเพิ่มความสวยงามให้อาหารจานโปรดอีกด้วย
|
