ณ พ่อขุนปาร์ค
หลังอาทิตย์อัสดงโบกมือลาขอบฟ้ากว้างได้ไม่นาน ผมนั่งอยู่ได้ร่มไม้ชายคาหน้าเพิงพัก พักผ่อนเอาแรงหายใจหอบใหญ่หลังจากแบกจอบขุดหลุมปลูกต้นไม้ตั้งแต่ตะวันบ่ายคล้อย หวังเอาไว้ให้ผู้คนได้พักอาศัยหลบแดดไต้ร่มไม้ใหญ่ หากมันโตและไม่ยอมแพ้ต่อแสงแดดที่แผดเผาพร้อมให้ศิโรราบทุกขณะแค่สายลมร้อนเมษาผ่าน
ปีหน้า..หวังเอาไว้คงได้แหงนคอมองยอดไม้มันมั่ง (ไม่รู้ว่าต้นไม้โตเร็ว..หรือตัวผมสั้นก็ไม่รู้...) และอีกหลายปีข้างหน้าโน้น...มันจะเป็นร่มไม้ใหญ่...พอให้เหล่านกน้อยใหญ่ได้จับจองสักกิ่งก้านไว้อาศัยพักนอนสร้างรวงรังและครอบครัวที่อบอุ่นบนคาคบไม้นั่น...และอีกหนึ่งวนิพกพเนจรได้หลบลมร้อนและแสงแดดกล้าให้หายคลายร้อนได้บ้าง....
แต่ในใจลึกๆส่วนหนึ่งนั้น.....หวังไว้เป็นอนุสรณ์แก่ลูกหลานมัน (เผื่อได้แต่ง..มีลูกกะเค้ามั่ง..)ยามเมื่อผมได้ตายจาก มันคงเป็นประโยชน์ต่อโลกมากกว่าคนหลายร้อยคนที่มั่วแต่คิดเอาเปรียบ.....แย่งชิงหวังครอบครองทุกสิ่งอย่างที่ไม่ได้เป็นของพวกเขามาตั้งแต่ต้น......น่าสงสาร!พวกเขามืดบอดมากจนเกินงาม...จึงหลงลืมความเป็นจริงของธรรมชาติ...
ยิ่งค่ำก็ยิ่งมืด......อากาศหน้าเพิงพักคืนนี้เย็นสบาย คงเป็นเพราะความวิปริตของลมฟ้าอากาศ..ฝนตกถึงจะน้อยค่อยๆหล่นเปาะแปะ...แต่นานวัน พ่อขุนปาร์คจึงชุ่มเย็นอยู่จนถึงบัดเดี๋ยวนี้ กระทั่งคนบ้านพ่อขุนก็เย็นฉ่ำดุจเดียวกัน....
แสงนีออนคืนนี้อ่อนไหวงดงาม.....หน้าเพิงพัก.....เชื้อเชิญเหล่านางฟ้าตัวน้อยออกมาร่ายรำ....อวดโฉมเรียวปีกอันบอบบางโลมไล้เสียงนีออนสีนวล....
ณ...เวลานี้ผมได้แต่นั่งยิ้มแอบมองมวลหมู่แมลงเม่าด้วยชื่นชมยินดีในธรรมชาติปั้นแต่งที่หลายคนมิอาจเห็น.....ดังแม่น้ำน้อยไหลลงสู่ทะเลใหญ่...มวลหมู่แมลงเม่าล้วนขยับปีกขาวขุ่นแพล็บๆ..ออกจากพุ่มไม้ใบบัง...ด้วยความหวังแนบอก.....ลัดเลาะตามสีข้างผม...กรรเชียงเข้าหาแสงนีออนบานฉ่ำ ผมนั่งอยู่ที่นั่นเนิ่นนานพอ....จนสังเกตเห็นอย่างอื่นคืบคลานเข้ามานอกเหนือจากปีกแมลงเม่าที่โบกสะบัด....
(ขี้เกี้ยม)เหล่าพลพรรคจิ้งจกตัวเล็กตัวน้อย เยื้อย่างชักชวนกันออกมาจากซอกหลืบอย่างเยือกเย็น...แววตาจ้องเขม็ง ....ดุดันไม่กระพริบ....เสมือนหนึ่งหมาเฒ่าจรจัดถูกต้อนให้จนมุม...จ้องมองบ่วงฉุดดึงอิสรภาพสุดท้ายของมันให้หลุดหายไปก็มิปาน.... ณ..บัดนี้หน้าเพิงพัก....รังสีอัมหิตเริ่มก่อตัวและลุกลามปกคลุมทั่วทั้งบริเวณ...
มหกรรมการสังหารหมู่อย่างเลือดเย็นเริ่มแล้ว.....จิ้งจกน้อยใหญ่ตะหวัดลิ้นอันนุ่มนิ่มไร้กระดูกเขมือบมวลหมู่แมลงเม่าผู้ชะตาขาด ณ ค่ำคืนนี้อย่างรวดเร็ว....มิทันที่แมลงเม่าตัวน้อยผู้อ่อนต่อโลกจะได้เอ่ยคำร่ำลาแก่พวกพ้อง...ญาติมิตร...เพียงชั่วขยับปีกเดียว...ชีวิตก็สูญสิ้น..เหลือเพียงเรียวปีกอันน้อยปลิวไสวเพราะแรงลมติดริมฝีปากจิ้งจกเฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างไร้ปราณี....
ลมเอื่อยๆ....ท้องฟ้ายังคงมืดมิด...มีเพียงแสงจันทร์ลางๆและดวงดาวเพียงน้อยนิดที่ส่องประกายคล้ายเทียนเล่มน้อยที่จุดเอาไว้กลางป่ากว้างขับไล่ความมืดบอดของผู้คนให้เห็นแสงสว่างในการเดินทางชีวิต....
ค่อนดึก...ปีกน้อยล่วงหล่นเกลื่อนพื้นหน้าเพิงพัก....ชาติชีวิตหนึ่งดับดิ้นเพื่ออีกชีวิตหนึ่งคงอยู่...เหลือเพียงร่องรอยแห่งการกระพือปีกบางท่ามกลางแสงนีออนนวลผ่อง....เป็นตำนานให้ผู้คนได้กล่าวขาน...ถึงความห้าวหาญบังอาจกระทำตามใจตัว...แม้ชีวิตตัวเองจะแดดิ้นสิ้นชาติเชื้อแมลงเม่าเพียงชั่วข้ามคืนหากเพียงได้ทำตามแต่ใจตัวปราถนาโลมเลียแสงนวลนั่น......มิเสียชาติเชิงพันธุ์แมลงเม่าไทย......ความกล้าหาญเจ้าจะถูกจดจำมิจางหายไปพร้อมกับความมืดมิดแห่งค่ำคืนรัตติกาลนี้....
จดจำ....หลายชีวิตจบสิ้นที่นี่...เพียงเพราะได้ทำในสิ่งที่ตนปราถนา....น่าอิจฉาเจ้าแมลงเม่าตัวน้อย...อย่างน้อยเจ้าคงจากไปพร้อมรอยยิ้มอันกรุ่มกริ่ม....การมีชีวิตอยู่อย่างยาวนานจะมีค่าอะไร...หากไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ....
เสียงหริ่งหรีดเรไรเริ่มร้องก้องระงม....ขับขานบทเพลงแห่งรัตติกาล เหล่าฆาตกรกลับเข้าสู่ซอกหลืบพักผ่อนเอาแรงในคืนวันพรุ่ง...แมลงเม่าที่เหลือหดหายหลบหลี้ลงไต้ดิน....อาจบางทีผมก็คงได้เวลาพักผ่อนเอาแรงบ้างแล้ว.......
- ยินดีที่ได้รู้จักทายาททางภาษา ของ ว. ณ เมืองลุงและ น.นพรัตน์ (แถม คุณลุงคำพูน บุญทวีให้อีกคนค่ะ)
- ถ่ายทอดเรื่องราวได้ดีค่ะ
เห็นด้วยๆๆๆ
คู่แข่งของ วินทร์ เลียววาริณ
กำลังแจ้งเกิดแล้ว...ที่นี่
กล่าวกันว่าเอาไปทำปุ๋ยได้ดีเหมือนกัน
ได้ประโยชน์ ไหนๆ ก็เสียชีวิตไปแล้ว
.... จนสังเกตเห็นอย่างอื่นคืบคลานเข้ามา นอกจากปีกแมลงเม่าที่โบกสบัด....
ตื่นเต้นนะ...ในใจก็บอกว่า รีบลุกขึ้นวิ่งหนีเร็ว...
นึกว่าเป็นงู...
สำนวนพริ้วเชียว เด็กๆนั่งฟังอ้าปากหวอเลยล่ะ
สวัสดีค่ะ
ชีวิตมันเป็นเช่นนี้เอง สัตว์ใหญ่กินสัตว์เล็ก.....
บางครั้งธรรมชาติก็ช่วยให้เกิดความสมดุลย์ ไม่อย่างนั้นจะมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดล้นโลก
มากเกินความจำเป็น แต่มนุษย์เราทำไมคนดีถึงมีน้อยกว่าคนไม่ดีเนาะ
เอ๊ะ...พูดเรื่องอะไรกัน
สวัสดีค่ะคุณเส้าหลง
งดงามมากค่ะทั้งภาพและภาษา ชื่นชมค่ะ
ทำตามฝัน ในวันนี้ ที่ทำได้ ทุ่มเทใจ ให้คุณค่า พาสู่หวัง
แมลงเม่า เป็นเหยื่อ เพื่อจะยัง ชีพสัตว์ทั้ง น้อยใหญ่ ให้โลกยล