ปิดเทอมฉันรับเละแต่สุดท้ายคือความยินดี


ก่อนการสอบปลายภาคเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษา เพียง 1 สัปดาห์

แม่น้องเมย์(นามสมมต)มาหาแต่เช้า

เรามีเวลาทำความเข้าใจกันไม่นาน

แล้วจึงลากลับไปด้วยดวงตาตาที่พอมีหวัง

ฉันสรุปการสนทนาวันนั้นได้ว่า

ทุกข์ที่ยิ่งใหญ่ของแม่คือ

ความเจริญงอกงามในการอ่านของลูกไม่เท่าเทียมเพื่อน

แม่สรุปปัญหานี้จากการอ่านหนังสือของน้องเมย์!

ซึ่งคงไม่มีใครปฏิเสธว่าการไม่รู้หนังสือเป็นบ่อเกิดแห่งความไม่รู้

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนไม่รู้หนังสือจะโง่เขลาเบาปัญญานี่..ใช่ไหม

เขายังมีตา มีหู มีจมูก และสัมผัสต่อสรรพสิ่งบนโลกใบนี้

ที่สำคัญเขายังมีสมองที่สามารถคิด

แม่เล่าว่าคุณทวดของฉันท่านไม่รู้หนังสือไทยสักตัว

แต่ท่านฟังรู้เรื่อง รู้จักคิด รู้จักทำ รู้จักแก้ไขให้ดีขึ้น

ฉันนึกถึงคำแม่เล่าแล้วยิ่งมีกำลังใจมากขึ้นที่จะช่วยเหลือน้องเมย์ขึ้นมาทันที

ทุกของแม่น้องเมย์คือลูกเรียนจะจบ ป.4 แล้วยังอ่านหนังสือไทยไม่ออก

(เอ้าแล้วขึ้นชั้นเรียนมาได้อย่างไร  ฉันคิดในใจ)

หลังรับฟังแม่ของน้องเมย์สาธยายลูกให้ฟังแล้ว

ฉันตัดสินใจรับน้องเมย์เป็นศิษย์นอกสำนักทันที

ด้วยความรู้สึกมั่นใจในฝีมือตัวเองสูง และเอ่ยปากไปว่าไม่เกิน 2 อาทิตย์นี้

น้องเมย์จะอ่านได้ แม้ฉันจะไม่ใช่ครูสอนภาษาไทยมืออาชีพ

แต่ประสบการณ์สอนเด็กอ่านไม่ออก....ให้อ่านได้เขียนได้นั้นฉันทำได้

เพราะในขณะที่ฉันทำหน้าที่ครูประจำชั้น ทุกวันแรกของการเปิดภาคเรียนแรก

ฉันจะทำการทดสอบการอ่านของเด็กก่อน

เพราะฉันเชื่อมั่นว่าเด็กที่อ่านได้จะมีความสุขกว่า

 Warming  up




ในวันแรกน้องเมย์เริ่มบทเรียนอย่างไม่เป็นทางการ

เราทำกันทำความคุ้นเคยกันก่อนฉันทำอาหารเลี้ยงน้องเมย์มื้อกลางวัน

อิ่มแล้วเรามานั่งเล่นต่อตัวอักษรไทยตามลำดับด้วยตัวหนังสือที่จากกระดาษแข็ง

ผลปรากฏว่า

รอบที่ 1 น้องเมย์แพ้

รอบที่ 2 ฉันเริ่มต้นต่อและทำทีอ่านตัวอักษรตัวต่อๆไป น้องเมย์เริ่มจับเค้าได้

และต่อไป..ก็ถึงคราวให้รางวัลด้วยขนม 1 ชิ้น แล้วเราก็กินด้วยกัน

เริ่มรอบที่สาม เราจะแข่งกันว่าใครเสร็จก่อน แต่เรามีอุปกรณ์เพียงชุดเดียว

จะทำไงดี น้องเมย์เป็นนักวิ่งของโรงเรียนหนึ่งใกล้ๆบ้านฉันและเสนอว่า

ให้จับเวลา แต่ฉันไม่มีนาฬิกาจับเวลานี่

น้องเมย์เสนอว่าเอาโทรศัพท์จับเวลาก็ได้

แล้วจดเอาว่าเริ่มเวลาเท่าไร เสร็จเวลาเท่าไหร่

(ฉันนึกในใจเสร็จฉันหละ น้องเมย์ไม่ขี้เท่อสักหน่อย)

ไม่นานแน่นอนที่เขาจะอ่านได้

เราพลัดกันแพ้และชนะ สนุกมากนะทำแบบนี้

แกล้งต่อให้ช้าบ้างแกล้งทำไม่เห็นหยิบผิดบ้าง

เพื่อให้น้องเมย์ชนะ และน้องเมย์ก็เริ่มจับผิดว่าฉันจะพลาดเมื่อไหร่

เห็นแววตา

เป็นประกายของน้องเมย์แล้วฉันใจชื้นขึ้นมาทันที

หลังจากนั้นเราคุยกันว่ามีเกมเศรษฐีอีกอย่างเล่นสนุกมาก

อยากเล่นไหม น้องพยักหน้า ตามองกล่องเกม

ฉันยื่นกล่องเกมให้ และบอกน้องเมย์ว่าเกมนี้สนุกที่สุด แต่ต้องอ่านหนังสือได้บ้าง

น้องเมย์ถามว่าทำยังไงครับ

ฉํนหยิบแบ๊งค์ต่างๆมาให้ดู น้องเมย์บอกว่าเคยเห็นครูสอนคณิตศาสตร์ให้เพื่อนเล่น

 แต่น้องเมย์ไม่ได้เล่น เพราะทำงานเสร็จไม่ทันเพื่อนสักที

หมดเวลาวันแรกแล้ว เพราะแม่น้องเมย์มารับ

 Stretching





ขอบคุณดุ๊กดิ๊กจาก

http://atcloud.com/stories/57862

หมายเลขบันทึก: 433794เขียนเมื่อ 2 เมษายน 2011 11:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีครับ

- ผมเป็นกำลังใจให้กับคุณครูละน้องเมย์ครับ

- เป็นบันทึกที่สุดยอดมากครับ

- ภาพสุดท้ายดูเหงาหงอยจัง แต่เปี่ยมด้วยแรงศรัทธาในการดำเนินชีวิต

- ดูแลสุขภาพนะครับ

คงไม่เกินความสามารถของครูที่กำลังจะเออร์ลี่แน่นอน

เอาใจช่วย...เชียร์ค่ะพี่

Ico48

ขอบคุณค่ะน้องทิม

ภาพสุดท้ายคือตัวตนของพี่ค่ะ อิสระ

แต่มั่นคงในย่างก้าวของตนเอง

ลมหายใจที่บริสุทธิ์ เสียงคลื่นกระทบฝั่ง

ทำให้ได้คิดว่าชีวิตก็เป็นเช่นนี้เอง

Ico48

ขอบคุณค่ะ เป็นงานกุศลที่พี่ชอบทำยามว่างค่ะ

เปิดโอกาสให้ตัวเองได้มีส่วนร่วมสังคมค่ะ

ที่เรียกรับเละ คือเด็กอ่านไม่ได้จริงๆ

การอ่านออกนี่พี่ว่าป.1 ก็ต้องอ่านได้แล้ว

ป.2 อ่านหนังสือพิมพ์ได้

สูตรคูรก็ป.2 เทอมปลายก็น่าจะสนุกกับมันได้แล้ว

พี่คิดว่าปัญหานี้น่าจะหมดไปจากวงการศึกษาของเราแล้ว

สำคัญอย่าปัดความรับผิดชอบ

อย่ามองข้ามปัญหา แล้ววางไว้ก่อน

เรื่องขวัญ กำลังใจ การสนับสนุนก็มีส่วน

ความรับผิดชอบร่วมกันทุกฝ่ายน่าจะช่วยได้ดี

กิจกรรมหลังเลิกเรียนใช้ให้เต็มที่

ขอบคุณค่ะ

 

 

 

สวัสดีค่ะ

  • ขอบคุณสำหรับเทคนิคในการสอน จริงน้องก็ไม่ใช่ครูภาษาไทย  แต่ก็อยากให้เด็กอ่านหนังสือออกก่อนเรียนอย่างอื่น  เคยคิดกิจกรรม "อ่าน  เขียน  ก่อนเรียนวิทย์" แต่บางครั้งเวลาไม่อำนวยต้องใช้เวลานอกห้องเรียน  เพราะเดี๋ยวนี้ โครงสร้างของสาระวิทย์ เขากำหนดให้เรียนแค่ สัปดาห์ละ 2 ชม.  ทั้งที่เขาต้องการทั้งเนื้อหาสาระและทักษะกระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์   ถ้าเด็กอ่านไม่ออกนี้ ยากมากที่จะให้บรรลุตามตัวชี้วัด
  • ครูจึงต้องทุ่มเท  เวลาส่วนตัวเพื่อช่วยเหลือนักเรียนกลุ่มอ่อน  พี่จึงเป็นบุคคลที่ควรยกย่องค่ะ

 

Ico48

ขอบคุณค่ะน้องดาวเรือง

น้องก็เป็นครูที่น่ารักคนหนึ่งนะคะ

ตอนนี้น้องเมย์อ่านหนังสือเก่งแล้ว

รางวัลของพัฒนาการอ่านพี่จะซื้อ

หนังสือที่น้องเมย์อยากอ่านให้เป็นรางวัล

พร้อมทั้งต้มถั่วเขียวเลี้ยงค่ะ

ก่อนจัดกิจกรรมการอ่านสำหรับเด็กอ่านไม่ออก

พี่พบว่าครูต้องวิเคราะห์เด็กก่อน

ค้นให้เจอว่าธรรมชาติและสิ่งที่เด็กสนใจนั้นคืออะไร

เขาจะชอบเรียนวิชาอะไร หรือไม่ไม่สำคัญเท่าเขาชอบที่จะทำอะไร

เขาอยากเรียนรู้อะไร ก็นำสิ่งนั้นมาสร้างบทเรียนเสริมให้เก่งในเรื่องที่สนใจ

แต่ครูต้องรู้จักหลอกล่อ กระตุ้นให้เขาคิด เพราะความคิดมันเปลี่ยนความคิดได้ไงคะ

อย่างกรณ๊น้องเมย์ พี่ให้น้องเขาร่วมสร้างบทเรียนกับพี่นะ ให้เขาเลือกคำ

ประโยคที่จะเรียนรู้ ให้จัดลำดับคำที่อยากเรียนก่อนหลัง พี่เองก็ไม่ได้สอนภาษาไทย

ตั้งแต่เป็นครูมาก็สอนวิชาภาษาอังกฤษ สอนๆไปเราก็รับรูว่าไม่ได้การแล้ว

เจ้าตัวน้อยของเรามีปัญหากับภาษาแม่ จึงต้องสอนแบบบูรณาการ

ซึ่งก็มีปัญหาในการจัดกิจกรรมเหมือนกัน ก็ค่อยๆปรับกันไป

และใช้เวลาหลังเลิกเรียนสอนให้อ่านภาษาไทย

ขอบคุณที่แวะมาแลกเปลี่ยนนะคะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท