ร่วมสัมภาษณ์ ดร.เมล กิลล์ ผู้เขียน หนังสือ The Meta Secret (สุดยอดเดอะซีเคร็ต)


         เมื่อวันอังคารที่ 29 มีนาคม 2554 ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์ ดร.เมล กิลล์ ผู้เขียน หนังสือ The Meta Secret (สุดยอดเดอะซีเคร็ต)  ออกในรายการโทรทัศน์ รายการ สู่ศตวรรษใหม่ ทุกวันเสาร์ สัปดาห์ที่ 4 ของเดือน เวลา 01.00 – 01.50 น.  

ดร. เมล กิลล์

ผู้ตายแล้วฟื้นจนล่วงรู้ ‘ความลับเหนือโลก’

สู่การค้นพบ ‘กฎแห่งจักรวาล’ ที่คนทั้งโลกต้องรู้

ยืนยันชีวิตหลังความตาย...เป็นเรื่องสากล และมีจริง!!!

ซึ่งประเด็นน่าสนใจมาก….

ชีวิตจริงที่ยิ่งกว่ามหากาพย์นิยายของ ดร. เมล กิลล์ ผู้ซึ่งค้นพบความลับเหนือโลก หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุตกเขา และติดเชื้ออย่างรุนแรง จนเขาต้องตัดแขนซ้ายทิ้งเพื่อเยียวยาฉุดยื้อชีวิต สุดท้ายระหว่างผ่าตัดแพทย์ลงความเห็นว่า เขาเสียชีวิตไปแล้ว! เป็นเวลา 19 นาที จากการตายในครั้งนี้ทำให้เขาได้ล่วงรู้ถึง ‘ชีวิตหลังความตาย’

และแล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อแพทย์สามารถช่วยชีวิตเขากลับมาให้หายใจอีกครั้ง เมื่อเขาฟื้นและความทรงจำเริ่มไหลวนกลับมา  สิ่งหนึ่งที่เขาล่วงรู้จากมิติหลังความตาย กลายมาเป็น ‘ของขวัญล้ำค่าแห่งชีวิต’  ที่ทำให้เขาเปลี่ยนวิธีคิดและการใช้ชีวิตไปตลอดกาล!

 

หลังออกจากโรงพยาบาล เขาได้ใช้เวลาถึง 40 ปี ต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ เพื่อค้นคว้าและยืนยันคำตอบของความลับที่เขาได้ล่วงรู้ ผสานกับทุกองค์ความรู้ที่มีในโลก จากทั่วห้องสมุดใหญ่ๆ และเดินทางไปยังดินแดนรกร้างห่างไกลทั่วทุกมุมโลก จนตกผลึกมาเป็น “7 ความลับเหนือโลก!” ซึ่งมีผลโดยตรงต่อโชคชะตาของมนุษย์ ความสุข ความรัก ความสำเร็จ การเงิน มิตรภาพ     พลังอำนาจ สุขภาพ ความเป็นอยู่  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน รวมถึงความเป็นไปของทุกสรรพสิ่งในโลกนี้

 

แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ยิ่งไปกว่านั้น การค้นคว้าของ ดร. เมล กิลล์ โดยผสานองค์ความรู้ของชาวอียิปต์โบราณ ผ่านกฎ 7 ข้อของเฮอร์เมส หรือปรัชญาเฮอร์เมติกนจารึกอยู่ใน “จารึกมรกต” ซึ่งหายสาปสูญไป บวกกับประสบการณ์หลังความตายของตัวเอง  กฎทางฟิสิกส์ หลักวิทยาศาสตร์ การวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ จิตวิทยา แนวอภิปรัชญา

 

ซึ่งทั้งหมดสอดรับกับหลักไตรลักษณ์ทางพุทธศาสนาที่เหมาะเจาะพอดีและชี้ชัดลงผลสรุปที่ว่า สรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เพราะมีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิด และทั้งหมดทั้งมวล ทุกเรื่องในโลกใบนี้ไม่พ้นเรื่องกายและใจทั้งสิ้น!!!!!!

 

บทสัมภาษณ์

คำถามและแนวคำตอบสดในรายการ


1. ดร. เมล กิลล์ เล่าประวัติชีวิตคร่าวๆ

 

แนวคำตอบ ดร. เมล กิลล์ เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตไม่แตกต่างจากมนุษย์ทุกคนบนโลก ที่ยึดติดบริโภคนิยม ไม่เคยเชื่อสิ่งที่ตามองไม่เห็นหรือความเชื่อที่งมงายอะไรทั้งสิ้น เพราะเรียนจบปริญญาเอก ทุกอย่างต้องพิสูจน์ได้ แต่วันหนึ่งก็มาพบจุดเปลี่ยนชีวิตครั้งมโหฬาร นั่นคือ วันที่เขาตาย! ร่างกับจิตแยกกัน จนเขาเข้าไปอีกมิติหนึ่ง ดร.เมล กิลล์ รอดตายแต่สูญเสียแขนซ้ายไปข้างหนึ่ง และทุกอย่างในชีวิตของ ทั้งการใช้ชีวิตและวิธีคิด ได้เปลี่ยนไปทั้งหมดนับตั้งแต่บัดนั้น และเชื่ออย่างสนิทใจว่า ในโลกมีอีกมิติหนึ่งดำรงอยู่คู่ขนานไปกับโลกมนุษย์

สอดคล้องกับทางพุทธศาสนา เรื่อง กายและจิต ที่เป็นอิสระแยกจากกัน  ภพเบื้องหลังความตายเป็นเรื่องจริง ซึ่งยืนยันได้ว่า กฎแห่งกรรม เป็นกฎแห่งสากล!!!

 

2. ดร. เมล กิลล์ ขึ้นมาเป็น ‘นักพูดพันล้าน’ ระดับโลกได้อย่างไร

แนวคำตอบ  ดร. เมล กิลล์ ผสานองค์ความรู้ของภูมิปัญญาโบราณผ่านกฎ 7 ข้อของเฮอร์เมส หรือปรัชญาเฮอร์เมติกนั้นจารึกอยู่ใน “จารึกมรกต” ซึ่งถือเป็นสิ่งต้องห้ามมาช้านาน หายสาบสูญไป แต่มีผู้เก็บรักษาภูมิปัญญานี้อย่างลับๆ โดยผ่านงานศิลปะ วรรณกรรม ก่อนตกทอดส่งต่อกันมา และความลับนี้จะล่วงรู้เฉพาะในหมู่นักประดิษฐ์ นักเทววิทยา นักวิทยาศาสตร์ นักปรัชญา นักคิดผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย เช่น อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์. บีโธเฟ่น, คาร์ล จุง กาลิเลโอ เป็นต้น

บวกกับประสบการณ์หลังความตายของเมล กิลล์  กฎทางฟิสิกส์ หลักวิทยาศาสตร์ การวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ จิตวิทยา แนวอภิปรัชญา จนกลายเป็น ‘7 ความลับเหนือโลก’

ดังนั้นสิ่งที่ ดร. เมล กิลล์ พูดให้คนทั้งโลกรับฟังเป็นเรื่องจริง พิสูจน์ได้ มีหลักวิทยาศาสตร์รองรับชัดเจน โดยใช้ ‘จิต’ เป็นกุญแจไขความลับธรรมชาติ และยืนยันว่าชีวิตของมนุษย์ ยังไงก็หนีไม่พ้นกฎแห่งจักรวาลนี้ไปได้ ด้วยความรู้ทั้งด้านจิตบำบัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาบุคคล เดินทางไปรอบโลกเพื่อบรรยายเรื่องนี้ ซึ่งได้รับการตอบรับจากคนทั่วโลกยกย่องให้เป็น ‘นักพูดพันล้าน’ อีกทั้งเป็นที่ปรึกษาของซีอีโอกลุ่มยักษ์ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ (ฟอร์จูน 500) และที่ยิ่งใหญ่สุด คือ มีผู้คนทั่วโลกรอรับฟังบรรยายจากเขามากที่สุด...และเป็นนักพูดที่มีค่าตัวสูงมากในต่างประเทศ!!

 

         

3.  หลังจากที่ตายไป 19 นาที มิติหลังความตาย เป็นอย่างไรบ้าง

แนวคำตอบ  ดร. เมล กิลล์ บอกว่า มันเหมือนเป็น ‘อีกโลกหนึ่ง’ ไม่มีเวลา ไม่มีพรหมแดน เขาเห็นตัวเองลอยไปตายอุโมงค์สีขาวพร่าพราย รู้สึกถึงสันติสุขอันยิ่งใหญ่ มีร่างเรืองแสงพาเขาไปเที่ยวชมสถานที่ที่มีความวิจิตรเหมือนสรวงสวรรค์ ถึงไม่ได้สื่อสารกันด้วยการพูดแม้แต่น้อยแต่ก็เข้าใจกันอย่างลึกซึ้งราวกับเป็นร่างเดียวกัน แล้วร่างนั้นก็พาเขากลับมาส่งที่ร่างเดิม

เขากลับมาด้วยความลับเหนือโลก และเชื่ออย่างมั่นใจว่าโลกที่อยู่พ้นตาเนื้อมีอยู่จริง เขาค้นหาคำตอบอยู่ 40 ปีจากทุกศาสตร์ และเดินทางไปรอบโลกเพื่อหาคำตอบนี้ จนค้นพบว่า จิตและจักรวาลคือสิ่งเดียวกัน ความจริงโลกมีทั้งหมด 3 ด้าน คือ

  1. ด้านกายภาพ
  2. ด้านจิตใจ
  3. ด้านจิตวิญญาณ

ซึ่งสอดคล้องกับพุทธศาสนาที่พุทธองค์ทรงค้นพบเมื่อ 2,600 ปีก่อน อย่างชัดเจนในเรื่อง โลกธาตุ แสดงถึงโลกธาตุ 3 ประเภทว่า มีโลกธาตุขนาดพันจักรวาล โลกธาตุล้านจักรวาล และโลกธาตุแสนโกฏิจักรวาล แสดงให้เห็นความรู้ในทางวิทยาศาสตร์ ไม่อาจเทียบเท่าความรู้ที่เกิดจาก การหยั่งรู้!

นี่เป็นสิ่งที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของความรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าเป็นความรู้ที่กว้างไกล รู้จริง เห็นจริง และสามารถพิสูจน์ได้ ซึ่งความรู้เหล่านี้จะเกิดขึ้นก็ต้องอาศัยปัญญาขั้นสูงสุด ที่เรียกว่า ภาวนามยปัญญา

หลวงปู่ดูลย์ พระอริยสงฆ์ที่มีผู้เลื่อมใสทั้งประเทศ ได้เมตตาอธิบายถึงเรื่องจิตและจักรวาล มีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน ไว้อย่างพิสดารว่า “จิต วิญญาณ เกิดจากรูปนามของจักรวาล และ นิพพาน เป็นการรวมของจิตบริสุทธิ์เข้ากับความว่างอันบริสุทธิ์และสว่างของจักรวาลเดิม ไว้ดังนี้

“สิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตในจักรวาล มีนับไม่ถ้วน รวมแล้วมี รูป กับ นามสองอย่างเท่านั้น นามเดิม ก็คือความว่างของจักรวาล เข้าคู่กัน เป็นเหตุเกิด ตัวอวิชชา--เกิดเหตุก่อ ที่ใดมีรูป ที่นั้นต้องมีนาม ที่ใดมีนาม ที่นั้นต้องมีรูป รูปนามรวมกันเป็นเหตุเกิดปฏิกิริยา---ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเกิดกาลเวลาขึ้น คือ รูปย่อมมีความดึงดูดซึ่งกันและกัน จึงเป็นเหตุให้รูปเคลื่อนไหว และหมุนรอบตัวเองตามปัจจัย รูปเคลื่อนไหวได้ ต้องมีนาม--ความว่าง--คั่นระหว่างรูป รูปจึงเคลื่อนไหวได้”

“เมื่อสภาวธรรมเป็นอย่างนี้ สรรพสิ่งของวัตถุ--สสารมีชีวิต และไม่มีชีวิต---จึงต้องเปลี่ยนแปลง เป็นไตรลักษณ์ เกิด ดับ สืบต่อทุกขณะจิต ไม่มีวันหยุดนิ่ง ให้คงทนเป็นปัจจุบันเช่นนั้นได้”

 

ซึ่งยืนยันได้ว่า ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบ สอดคล้องต้องกันกับพุทธศาสนา กับพระอริยสงฆ์อย่างไม่มีข้อสงสัย และผู้ที่เข้าถึงจะล่วงรู้เช่นเดียวกัน!!!!

 

4. ‘สุดยอดเดอะซีเคร็ต’ หรือ ‘ความลับเหนือโลก’ สร้างความสั่นสะเทือนต่อคนทั้งโลกอย่างไร

แนวคำตอบ อีกสิ่งหนึ่งที่ เมล กิลล์ ค้นพบคือ สรรพสิ่งล้วนสัมพันธ์กัน ตั้งแต่อนุภาคในอะตอมไปถึงจักรวาล ทุกอย่างโยงใยถึงกัน ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น เสมือนเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ที่ฟันเฟืองน้อยใหญ่สัมผัสกันหมดทั้งระบบ รวมถึงทุกสรรพสิ่งเกิดเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีการแบ่งแยก ดังสิ่งที่เขาค้นพบในและสรุปออกมา เป็น 7 กฎ ได้แก่   กฎมโนนิยม กฎแห่งความสั่นสะเทือน กฎแห่งเหตุและผล กฎแห่งความสอดคล้องต้องกัน กฎแห่งจังหวะ กฎแห่งเพศ กฎแห่งขั้วตรงข้าม

สอดคล้องกับหลักทางพุทธศาสนาที่ว่า สิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงเกิด!  และความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ของสรรพสิ่ง (อิทัปปัจจยตา) มีว่า...

สรรพสิ่งต่างๆ ในจักรวาลล้วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ไม่ใช่อยู่โดดๆ หรืออยู่แยกโดยไม่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน กาแล็กซี ดวงดาว หลุมดำ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ โลก ไปจนถึงอณู ปรมาณู และพลังงานย่อมสัมพันธ์กัน สสารซึ่งเป็นอนินทรียะเป็นต้นกำเนิดและเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับอินทรียสารและสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตต่างๆ มีต้นกำเนิดมาจากที่เดียวกันใช้รหัส ชีวิตอย่างเดียวกัน และเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน

ฉะนั้นกระแสความคิด หรือกระแสจิตที่เราส่งออกไป มีผลต่อสิ่งที่สะท้อนกลับเข้ามาหาเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับ โลกอาศัยอยู่ในจักรวาล มนุษย์อาศัยอยู่ในโลก และก็จิตอาศัยอยู่ในร่างกาย และจิตคือสิ่งกำหนดสิ่งที่จะเข้ามาในชีวิตเราทุกเรื่อง!

 

5. ‘ความลับเหนือโลก’ สอดคล้องกับ ‘พุทธศาสนา’  อย่างไร

แนวคำตอบ ความลับเหนือโลก ของ ดร. เมล กิลล์ จะอธิบายการโยงใยของจักรวาล โลก มนุษย์ และจิต ซึ่งคำตอบของความลับซ่อนอยู่รอบตัวเรา ให้หันกลับมาอยู่กับปัจจุบัน ละวางตัวตน และสงบ จึงจะค้นพบปัญญา และทุกสิ่งในโลกต่างเกิดใหม่ตลอดเวลา เคลื่อนไหว และสูญสลาย ซึ่งความลับโดยชาวตะวันตกล่วงรู้นี้ ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกับที่พระพุทธเจ้าทรงสอนเรื่อง ไตรลักษณ์ คือ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป และยืนยันได้ว่า ความรู้และปัญญาที่แท้จริง ต้องเกิดจากจิตที่สงบเป็นสมาธิ และละตัวตนเท่านั้น

ซึ่งสรุปได้เป็นอย่างดีว่า ความลับที่แท้จริง ใครๆ ก็เข้าถึงได้ และทำให้ชีวิตมีความสุขอย่างแท้จริง!!!

 

6. หนังสือ ‘สุดยอดซีเคร็ต’ ทำไมถึงขึ้นอันดับหนึ่งในหลายประเทศ ทั้งๆ ที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์

แนวคำตอบ เพราะเป็นหลักสากลที่ตอบโจทย์ชีวิตได้หมดทุกข้อของชีวิต และมนุษย์ก็เหมือนกันทั้งโลก ทุกสิ่งต้องเริ่มสร้างมาจากใจและความคิด ทั้งโชคชะตาของมนุษย์ ความสุข ความรัก ความสำเร็จ การเงิน มิตรภาพ พลังอำนาจ สุขภาพ ความเป็นอยู่  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน รวมถึงความเป็นไปของทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ จุดเริ่มต้นมาจากกระแสในจิตของเราทั้งสิ้น!

 

ตรงกับที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสเรื่องความสำเร็จไว้ว่า ทุกสิ่งใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน สำเร็จได้ด้วยใจ

 

7. มีหลักวิทยาศาสตร์ใดบ้างที่สนับสนุน ‘ความลับเหนือโลก’

แนวคำตอบ หนึ่งในผลการทดลองที่สนับสนุน ‘ความลับเหนือโลก’ ในเรื่องการดึงดูดสิ่งดีงามเข้ามาในชีวิต เช่น

  • ดร. มาซารุ อีโมโตะ และเป็นหนึ่งในผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ นักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงไปทั่วโลกซึ่งได้วิจัยโมเลกุลของน้ำพบว่า พลังงานการสั่นสะเทือนในมนุษย์ ความคิด คำพูด แนวคิด และดนตรี มีผลให้ผลึกน้ำเรียงตัวงดงาน ตรงกันข้าม ถ้าเราส่งความคิด คำพูดที่ไม่ดีออกไป ผลึกน้ำนั้นก็จะยุ่งเหยิง
  • ดร. วาเลรี ฮันต์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณด้านสรีรวิทยาที่มหาวิทยาลัยยูซีแอลเอ ซึ่งได้ศึกษาสมองของมนุษย์มาตลอดชีวิต สรุปผลว่า “จิตใจนั่นแหละที่เป็นตัวสัมผัสประสบการณ์ ส่วนสมองก็บันทึกประสบการณ์นั้นๆ ไว้...สมองอาจเป็นที่เก็บความทรงจำ แต่จิตใจต่างหากที่เป็นผู้ตัดสิน จิตใจนั้นเป็นอิสระ และมีความมุ่งมั่น”

“จิตมนุษย์เป็นเครื่องมือยอดเยี่ยมที่สุดที่เคยมีมา ทุกสิ่งที่วิทยาศาสตร์มีนั้นเป็นแค่การจำลองสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ในจิตใจมนุษย์ หากคุณกังขาเรื่องโทรจิต การตื่นรู้ และสัญชาตญาณ ก็อย่าไปติดใจสงสัย นี่จะเป็นความรู้ที่ยอมรับกันในอนาคต”

 

จึงเป็นข้อสรุปได้อย่างดีว่า ความลับเหนือโลก ไม่ต้องเดินทางออกตามหา แต่อยู่ในกายใจเราทั้งหมด ซึ่งในพุทธศาสนาได้สรุปสิ่งเหล่านี้ไว้ถึง 2,600 ปี

 

8. สุดยอดเดอะซีเคร็ต หรือ ความลับเหนือโลก เราจะมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และมีประโยชน์กับคนที่ล่วงรู้อย่างไร

แนวคำตอบ คนส่วนใหญ่ทั่วโลกยอมรับโลกภายนอกเข้ามาควบคุมภายในตัวเอง ซึ่งเป็นเหตุให้เราต้องดิ้นรน ขวนขวาย และติดอยู่กับกระแสวัตถุนิยม แต่ความลับเหนือโลก จะทำให้ผู้ที่เข้าใจถึงความลับของธรรมชาติ ซึ่งมีการเวียนว่ายตายเกิด มีมิติหลังความตาย สวรรค์ นรก มีผลของการกระทำ และความบังเอิญไม่มีในโลก

และสิ่ง ดร. เมล กิลล์ พร้อมกับนักวิทยาศาสตร์หลายคน ต่างยืนยันได้ว่า กฎแห่งจักวาล มีจริง ซึ่งสอดคล้องกับหลักศาสนาพุทธทั้งหมด ซึ่งเป็นหลักสากลที่พิสูจน์ได้ และให้คนหันกลับมาระลึกว่า กฎแห่งกรรม มีจริง และเป็นเช่นเดียวกันทั้งโลก!!!!!

 

 

หมายเลขบันทึก: 433665เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2011 12:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:40 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ขอบคุณมากครับที่นำมาถ่ายทอดแบบเจาะลึกและเข้าใจง่าย..

เข้าใจชีวิตมากขึ้นเลยครับ..

ดิฉันอ่านได้ประมาณ 100 หน้า  ยังไม่เห็นกฎ 7 ข้อชัด ๆ  และค่อนข้างจะผิดหวังผู้แปลอยู่บ้างตรงที่ไม่ค้นหาภาษาที่ถูกต้องของแต่ละศาสนาที่ถูกอ้างถึงมาใช้ เพราะศาสนาคริสต์จะไม่ใช่คำว่าองค์สาม แต่จะใช้คำว่าพระตรีเอกภาพ (หมายถึงมีพระเจ้าองค์เดียว แต่มี 3 พระบุคคล คือ พระบิดา พระบุตรและพระจิต รวมเป็นหนึ่งเดียว) พออ่านแล้วรู้สึกขัด ๆ และเริ่มเกิดความไม่แน่ใจว่าแล้วคำอื่น ๆ ที่ถูกนำมาใช้ในหนังสือเล่มนี้ ของแต่ละศาสนาจะถูกต้องหรือไม่  ตอนนี้ก็เลยยังงง ๆ อยู่ค่ะ  แต่จะอ่านให้จบเพราะอยากทราบเหมือนกันว่าถ้าไม่ใช่ได้จากการนั่งสมาธิ แล้วหนังสือเล่มนี้สามารถทำให้เราเข้าใจได้ง่ายจริงหรือ

ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ.. สำหรับท่านที่สนใจอย่าพลาดชมรายการ "สู่ศตวรรษใหม่" ประจำเดือนพฤษภาคม 2554 (วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม 2554 เวลาตีหนึ่งห้านาที ทางช่อง NBT) ผมจะสัมภาษณ์ ดร.เมล กิลล์แบบเจาะลึกครับ โปรดติดตามครับ..

ดูจากเนื้อหาคร่าวๆ แล้ว ค่อนข้างจะเกี่ยวโยงกับหลักพระพุทธศาสนา และอย่างน้อย เรื่องนี้ ก็ทำให้ "คนที่ยังไม่ตาย ได้ตาสว่าง และเห็นทางที่จะใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่าก่อนตาย"

ขอบคุณครับ ที่ทำให้เราได้มาพบเรื่องราวดีๆ ไม่เสียชาติเกิดที่เกิดมาในพุทธศาสนา ชอบมากครับ มีประโยชน์มากครับ ขอให้ท่านได้กุศลเยอะนะครับ ...มันเป็นปัจจัตตังครับ..

ขอบพระคุณมากค่ะ

เข้าใจชีวิตชัดเจนขึ้นมาอีกมุมหนึ่งค่ะ

ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท