พ่อเล่าให้ฟัง


พ่อผมเป็นครูครับ

คุณพ่อของผม ท่านเป็นข้าราชการบำนาญครับ เมื่อยังรับราชการอยู่นั้น ท่านเป็นครู ถึงวันนี้ ท่านก็ยังเป็นครูของผมอยู่เสมอ อายุท่าน 89 แล้ว สุขภาพคนสูงอายุ ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าที่ควร ท่านเป็นตัวอย่างของผมในเรื่องหนึ่ง ซึ่งผมเองก็พยายามที่จะปฏิบัติให้ได้ คือความมีวินัยในตนเองของท่าน ซึ่งจะเห็นได้จาก ท่านป่วยเป็นโรคเบาหวานมาหลายปีแล้ว และวินัยการกินยาของท่าน เรียกว่า ไม่เคยลืมเลย แม้สักครั้งเดียว และตรงต่อเวลาเป็นอย่างยิ่ง อีกอย่างคือ การพยายามออกกำลังกายของท่าน แม้การเดินเหินไม่ค่อยสะดวก แต่ท่านก็พยายามที่ออกกำลังกาย ให้ตนเองมีสุขภาพที่ดี การหายใจดี การนอนหลับพักผ่อนดี และมีสิ่งที่ดีอีกหลายอย่างตามมา ก็ด้วยความมีวินัยของท่านนี่เอง

มีครั้งหนึ่ง ท่านเล่าความหลังเมื่อครั้งที่ท่าน เตรียมตัวสอบเข้ารับราชการครู (คงราวๆ 70 ปีที่แล้ว) ขณะที่ท่านพักอยู่ที่บ้านพักกับเพื่อนของท่าน สองคน เป็นช่วงเวลา บ่ายแก่ๆ หลังจากเสร็จภาระกิจอื่นแล้ว ท่านและเพื่อนๆ ก็มานั่งคุยกันที่เฉลียงหน้าบ้าน เกี่ยวกับเรื่องการเตรียมตัวเข้าสอบ ก็มีหมอดูคนหนึ่งเดินผ่านมา และเข้ามาทำนายอนาคตจากการดูลายมือ เพื่อนของท่านทั้งสองคน ได้รับการทำนายว่า  สามารถสอบเข้ารับราชการได้ แต่พอมาถึงคิวของคุณพ่อ กลับได้รับคำทำนายว่า ต้องสอบตก ไม่ได้รับราชการครูแน่นอน แต่คำทำนายของหมอดูคนนั้น ไม่ได้ทำให้คุณพ่อ ตกอกตกใจแต่ประการใด กลับยิ่งทำให้ท่านขยันทบทวนตำหรับตำรา หนักยิ่งขึ้น ใช้เวลาทุกช่วงของวัน ให้กับการอ่านหนังสือ และหาความรู้เพิ่มเติม

จนวันสอบผ่านไป ผลการสอบปรากฏว่า คุณพ่อ และเพื่อนของท่านทั้งสอง สอบเข้ารับราชการครูได้สมปรารถณา และคุณพ่อ ได้คะแนนอยู่ในอันดับต้นๆ ซึ่งสูงกว่า เพื่อนทั้งสองของท่านซะอีก

กับคำถามที่ว่า รู้สึกโกรธหมอดูคนที่ทำนายคุณพ่อผิดหรือไม่ คุณพ่อกลับบอกว่า รู้สึกขอบคุณเขาซะอีก ที่เขาทำให้คุณพ่อเกิดความมานะพยายาม ในทางตรงข้าม ถ้าหมอดูทำนายว่าคุณพ่อจะสอบได้ กลับจะทำให้ท่านชะล่าใจไม่พยายาม ซึ่งทำให้คุณพ่อพลาดจากการรับราชการก็ได้ และคุณพ่อก็เข้ารับราชการครู เมื่ออายุ 18 ปี จนกระทั่งเกษียญอายุราชการ

เรื่องเล่าของคุณพ่อ น่าจะเป็นอุทาหรณ์ได้บ้างว่า ความพากเพียรพยายามของคนเรา สามารถเอาชนะอุปสรรคใดใด ได้จริงๆ

หมายเลขบันทึก: 433495เขียนเมื่อ 30 มีนาคม 2011 22:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เป็นเรื่องเล่าที่กระตุ้นจิตใจให้กล้าหาญไม่กลัวฟ้าดินบันดาลอันใด

ทำกรรมดี คืออ่านหนังสือ ย่อมได้ผลดีคือสอบได้นะครับ

สวัสดีค่ะ

คุณครูสบายดีนะคะ  ระลึกถึงเสมอค่ะ  ดีใจที่ได้อ่านบันทึกที่โดนใจมากค่ะ

พี่คิมไม่เชื่อเรื่องการดูดวง และไม่เคยพึ่งหมอดู แม้ว่าจะทุกข์สาหัส

"ใครจะมาลิขิตชีวิตเราได้นอกจากตัวเราเอง" 

ตอนเด็ก ๆ หมอดูให้เปลี่ยนชื่อ  เพราะ "นพแปลว่าเก้า"  แค่นี้เอง  ความจริงแล้วเป็นชื่อค่ะ

เคยเล่าเรื่องหมอดู หมอเดา  จากสถานการณ์ที่ไปพบกับเพื่อน ๆ แล้วเหมือนกันค่ะ

คำสอนของพ่อแม่ บางทีเราก็ลืมไปนะคะ  แต่เมื่อเวลาคับขันเราได้นำมาใช้เสมอ  พี่คิมจึงเชื่อเรื่องการอบรมสั่งสอนลูกหลานค่ะ

คนเราเมื่อมีวินัย  อย่างอื่นก็ง่ายต่อการปฏิบัติเสมอค่ะ

สวัสดีค่ะคุณครูIco48

  • ดีใจค่ะที่คุณครูแวะไปเยี่ยมอิงจันทร์
  • คุณครูคงมีภารกิจมาก จึงได้ห่างหายไปนาน
  • ระลึกถึงคุณครูอยู่เสมอนะคะ
  • อ่านบันทึกนี้แล้ว ก็เชื่อมโยงกับเรื่องราวของตัวเอง
  • เมื่อสัปดาห์ก่อน ที่โรงเรียนครูอิง คณะครูโดยการนำของผู้บริหารนัดไปเที่ยวอัมพวา
  • โดยเหมารถตู้ 1 คัน ครูอิงเรียนผู้บริหารว่าติดภารกิจ ต้องนำลูกชายไปมอบตัวเข้าเรียนต่อ ม.4 ผู้บริหารฟังไม่ทันจบ ก็วีนใส่ ด้วยเสียงปี๊ดแหลม
  • ตอนแรกกะว่า จะสะสางปัญหาโดยหาใครสักคนไปเป็นผู้ปกครองแทน แต่เมื่อเป็นเช่นนี้จึงตัดสินใจไม่ยอมไปอัมพวา
  • วันมอบตัวลูกชาย ทางโรงเรียนบังคับให้นักเรียนที่มอบตัวพร้อมด้วยผู้ปกครองเข้าสัมภาษณ์กับผู้บริหารโรงเรียน  เด็กคนใดที่ไม่มีผู้ปกครองไปด้วย ทางโรงเรียนให้ตามผู้ปกครองมาให้ได้ เพราะต้องอธิบายเรื่องค่าใช้จ่ายและอื่น ๆ
  • ครูอิงรู้สึกขอบพระคุณผู้บริหารเหลือเกิน เพราะถ้าท่านไม่วีนใส่ด้วยเสียงปี๊ด วันนั้นครูอิงคงไปอัมพวา  ลูกชายคงเคว้งคว้างแย่เลยค่ะ
  • รออ่านบันทึกใหม่ของคุณครูนะคะ หวังว่าคงไม่ห่างหายไปนานแบบคราวที่แล้ว
  • ขอบพระคุณค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท