แย่งเด็กกับครอบครัวเด็ก
สิ่งหนึ่งที่สำคัญของบ้านอุปถัมภ์เด็ก หรือการทำงานของมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก จะบอกกับเราว่า "บ้านต้องทำงานกับครอบครัวเด็ก" สิ่งเหล่านี้บางครอบครัว คุณครูทุกคนต้องเล่นบทนางร้ายกับครอบครัวเด็ก
ครอบครัวที่ 1 มีลูกทั้งหมด 5 คน ด้วยกัน ไม่ได้ให้ลูกได้เรียนหนังสือเลย ทางเราต้องต่อรองให้ลูกเข้าเรียน 2 คนแรกเป็นเด็กผู้ชายต้องไปเรียนหนังสือและพักที่บ้านสร้างสรรค์เด็ก ส่วน 2 คนผู้หญิงมาพักและเรียนหนังสือที่บ้านอุปถัมภ์เด็ก พี่สาวคนโตอายุ 12 ปี ต้องเรียน ป. 1 น้องคนที่สอง อายุ 8 ปี เรียน ป. 1 เหมือนกัน แต่พี่คนโตเรียนหนังสือเก่งพอสมควร อ่านหนังสือได้ แต่ต้องเพิ่มเรื่องการเขียน สำหรับครอบครัวก็มารับเด็กกลับไปชุมชน แล้วไม่ได้ดูแลเด็กเลย สภาพร่างกายของเด็กสกปรกมาก ตลอดจน "ซังคัง" ขึ้นเต็มไปหมดทั้งตัว ต้องหาหมอรักษา หมอสั่งห้ามไม่ให้ไปที่สกปรกอีกเป็นอันขาด พ่อเลี้ยงก็เลาะมาหาเป็นประจำ อย่างนี้ที่ครูประจำบ้านต้องรู้ข้อมูลพร้อมทั้งหาแนวทางแก้ไข
ครอบครัวที่ 2 พ่อเด็กติดยาเสพติด และออกมาจากเรือนจำแล้ว มารับลูกกลับไป ลูก 2 คนเรียนอนุบาล พ่อไม่มีรายได้อะไรเลย มีแต่แม่คนเดียวที่เลี้ยงลูก เมื่อลูกกลับไปบ้านก็ไม่ยอมให้เด็กไปเรียนหนังสือ ขาดเรียนเป็นเดือน พูดเท่าไร ครอบครัวก็บอกกับคุณครูว่า ดูแลเด็กได้ไม่ต้องหวง ลูกของเขา เขาดูแลได้ จนพ่อแม่ถูกจับเรื่องยาเสพติด ญาติก็ไม่ให้เด็กอีกอ้างว่าเด็กจะรอแม่กลับออกมา จนผู้เขียนต้องสั่งให้คุณครูไปรับเด็กมา พร้อมทั้งบอกไม่ต้องอ้างว่าแม่จะต้องดูแลลูก เมื่อคุณไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ ทางบ้านอุปถัมภ์เด็กดูแลเด็กให้มีโอกาสเรียนหนังสืออย่างต่อเนื่องไม่ต้องหยุดเรียน แต่ทางตำรวจจับเด็กอีกครั้งญาติต้องรับผิดชอบเอง ทางบ้านอุปถัมภ์เด็กจะไม่เข้าไปเกี่ยวใดๆทั้งสิ้น ทางญาติถึงได้ยอมให้เด็กกลับมาที่บ้านอุปถัมภ์เด็ก
ตัวอย่างที่เขียนมานี้ คือพวกคุณครูทุกคนต้องลงทำงานกับครอบครัวเด็กด้วย สร้างความรักความผูกพันกับเด็กเป็นอย่างดี ทางคุณครูถึงจะต้องต่อกรกับครอบครัวเหล่านี้ ยิ่งช่วงปิดเทอมอย่างนี้บางครอบครัวมารับเด็กเพื่อนำเด็กไปใช้แรงงาน ทางบ้านอุปถัมภ์เด็กก็ต้องช่วงชิงโอกาสที่จะให้เด็ก และให้เด็กได้รับโอกาสที่ดีที่สุด เป็นหน้าที่ของพวกเรา
สวัสดีค่ะ
เด็กคืออนาคตของชาติ และอนาคตของสังคม
สังคมและชาติจึงต้องเป็นอนาคตของเด็กด้วยเช่นกันค่ะ
สวัสดีค่ะพี่คิม
เด็กทุกคนคือผ้าขาว ที่พวกเราพยายามอยากให้เป็นผ้าขาวตลอด แต่กว่าจะมาถึงมือพวกเรา เด็กเหล่านี้ผ่านครอบครัวเดิมมา
ซึ่งบางครั้ง นิสัยหรือความประพฤติบางอย่างถูกสะสมมาจากประสบการณ์ ที่ไมี่พึ่งประสงค์ เราต้องมาเจียระไนยกันใหม่