ตื่นมาตอนตีสี่ เพราะเสียงฝนกระหน่ำลงบนหลังคา ออกจากที่นอนมาสำรวจรอบๆภายในบ้าน สาเหตุที่ต้องสำรวจทุกครั้งที่ฝนตกก็เพราะว่า หลังคาบ้านรั่วน้ำไหลนองทุกครั้งที่ฝนตกหนัก เคยให้ช่างมารื้อหลังคาเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดไปรอบหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่หายรั่ว ช่างมาดูตอนฝนตก แล้วแก้ไขอยู่สองสามครั้งก็ยังไม่หายอีกนั่นแหละ ตอนหลังโทรไปบอกว่าหลังคายังรั่วอยู่ ช่างไม่มาเลย
เมื่อช่างคนนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาให้ได้ ก็ต้องหาช่างใหม่ พอเล่าอาการให้ฟังช่างคนใหม่ก็ไม่ค่อยกล้ามาทำเหมือนกัน เพราะกลัวเสียชื่อช่างอีกคน
สุดท้ายปู่ก็ต้องหาบันใดปีนขึ้นหลังคาด้วยตัวเอง ไม่ใช่จะไปทำอะไรหรอก แต่ต้องการดูสภาพที่ช่างเขาทำไว้ ว่าเป็นอย่างไร ทำไมถึงแก้ไขไม่ได้ เพราะตลอดที่ผ่านมาปู่ไม่เคยได้ขึ้นไปดูบนหลังคาด้วยตัวเองเลยว่ามีสภาพเป็นอย่างไร
หลังจากทุลักทุเลขึ้นไปยืนบนหลังคาได้ สำรวจไปรอบๆ ก็ค่อนข้างผิดหวัง เพราะว่ามีความไม่เรียบร้อยอยู่หลายจุด กระเบื้องมีรอยแตกร้าวหลายแผ่นทั้งๆที่เป็นกระเบื้องใหม่
ในวันนั้น หลังจากบอกเล่าปัญหาให้ฟัง ช่างวิเคราะห์สภาพปัญหาแล้ว บอกวิธีแก้ปัญหา พร้อมกับเขียนรายการของที่จะสั่งซื้อ ปู่ไว้วางใจและตัดสินใจให้ช่างสั่งของมาตามที่ต้องการ โดยหวังว่าจะแก้ปัญหาให้ได้ แต่ผลสุดท้ายก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ เพราะวันนี้ฝนตกหนักน้ำก็ยังรั่วอยู่เหมือนเดิม
ข้อคิดสำหรับการแก้ปัญหาต่างๆ หากเราพึ่งคนอื่นตลอด อาจเกิดการผิดพลาดขึ้นมาได้เหมือนกับหลังคาบ้านปู่นี่แหละ
ดังนั้นหากจะแก้ไขปัญหาใดๆก็ตาม เราจะต้องรู้สภาพปัญหาอย่างแท้จริง ค้นหาสาเหตุแห่งปัญหาให้พบก่อนแล้วจึงลงมือแก้ไข ไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นเหมือนลิงแก้แหก็ได้ คือยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง
เรื่องของหลังคามันพาให้เจ้าของบ้านปวดหัวมาหลายต่อหลายรายแล้วนะคะ
แล้วก็แปลกที่ว่า หากเกิดกับบ้านใครมาตั้งแต่เริ่มต้นมันก็มักจะมีปัญหาอยู่อย่างนั้นตลอด
หากบ้านใครไม่มีปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นก็สบายไป
มีบ้านคนรู้จักกันมีปัญหาตั้งแต่เริ่มต้น ต้องให้ช่างรื้อออกหมดแล้วทำใหม่....กรรม