กรีนพีซ-เอแบคโพลล์เผย คนไทยร้อยละ 80 ต้องการทราบข้อมูลการปล่อยมลพิษสู่แหล่งน้ำ


กรีนพีซ-เอแบคโพลล์สำรวจความเห็นประชาชน ผลการสำรวจความคิดเห็นยังระบุว่า ร้อยละ 83.8 ของกลุ่มตัวอย่างมีความเห็นว่ามลพิษทางน้ำเป็นปัญหาสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและ ควรเร่งแก้ไข และประเมินการทำงานของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องยังคงล้มเหลวในการปกป้อง แหล่งน้ำจากมลพิษ

กรุงเทพฯ /วันนี้ ( 21 มี.ค.54)  มี รายงานว่า กรีนพีซและเอแบคโพลล์เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อมลพิษทางน้ำใน ประเทศไทยเนื่องในวันน้ำโลก พบว่าร้อยละ 80.2 ต้องการกฎหมายกำหนดให้โรงงานอุตสาหกรรมจัดทำและเปิดเผยข้อมูลการปล่อยมลพิษ สู่สิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นหนึ่งมาตรการส่งเสริมการลดมลพิษทางน้ำจากแหล่งกำเนิดอุตสาหกรรม ซึ่งกำลังเป็นภัยคุกคามแม่น้ำเจ้าพระยาและแหล่งน้ำที่สำคัญต่างๆ ของประเทศ

ผลการสำรวจความคิดเห็นยังระบุ ว่า ร้อยละ 83.8 ของกลุ่มตัวอย่างมีความเห็นว่ามลพิษทางน้ำเป็นปัญหาสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและ ควรเร่งแก้ไข และประเมินการทำงานของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องยังคงล้มเหลวในการปกป้อง แหล่งน้ำจากมลพิษ

การสำรวจเริ่มขึ้นในเดือน มกราคมถึงกลางเดือนมีนาคมปีนี้ โดยสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,550 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครและชุมชนที่อาศัยใกล้เขตนิคม อุตสาหกรรม 3 แห่ง ซึ่งประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นิคมอุตสาหกรรมบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และนิคมอุตสาหกรรมบางชัน จังหวัดกรุงเทพมหานคร

"ผลสำรวจ ได้แสดงให้เห็นว่าชาวไทยอยากเห็นรัฐบาลลงมือแก้ไขมลพิษจากภาคอุตสาหกรรม อย่างจริงจัง ซึ่งกำลังเป็นปัญหาคุกคามแหล่งน้ำของประเทศ ความโปร่งใสด้านการบริหารจัดการและการเปิดเผยข้อมูลเป็นแนวทางที่จะสามารถนำ สู่การแก้ไขปัญหามลพิษได้ในระยะยาว  ทั้งนี้ภาครัฐ และภาคอุตสาหกรรมควรคำนึงถึงสิทธิการรับรู้ของประชาชนเกี่ยวกับสารพิษ อันตรายที่ใช้และปล่อยจากกระบวนการผลิตอุตสาหกรรม โดยควรเร่งออกกฎหมายกำหนดให้อุตสาหกรรมจัดทำทำเนียบการปลดปล่อยและเคลื่อน ย้ายมลพิษเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและตรวจสอบได้" นายพลาย ภิรมย์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าว

"กรีนพี ซเชื่อว่าความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลด้านมลพิษนี้จะต้องมาจากความร่วมมือ ของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม การปิดบังข้อมูลการใช้และการปล่อยสารพิษอันตรายนั้นจะยิ่งนำไปสู่ความคลุม เครือโดยเฉพาะในยามที่เกิดอุบัติเหตุ เช่นเดียวกับที่เราได้เรียนรู้จากอุบัติภัยนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นเร็วๆนี้ ว่าเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงหายนะภัยได้" นายพลาย กล่าว

จากผลสำรวจพบว่า 3 ประเด็นแรกที่ผู้ตอบแบบสอบถามเห็นด้วยมากที่สุดเมื่อเทียบกับประเด็นอื่นๆ คือ 1. ปัญหามลพิษทางน้ำเป็นปัญหาสำคัญต่อสิ่งแวด ล้อมและควรเร่งป้องกันแก้ไข (ร้อยละ 83.8) 2. ควรมี กฎหมายกำหนดให้โรงงานอุตสาหกรรมเปิดเผยข้อมูลการปลดปล่อยมลพิษ (ชนิดและปริมาณ) สู่สิ่งแวดล้อมและให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลสิ่งแวดล้อมได้ (ร้อยละ 80.2) และ 3. โรง งานอุตสาหกรรมควรใช้วัตถุดิบในการผลิตสินค้าที่ไม่เป็นอันตรายและเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเท่านั้น (ร้อยละ 79.6) 

จากประเด็นปัญหาต่างๆที่ทำการ สำรวจ พบว่า 5 ประเด็นแรกที่คนส่วนใหญ่มีความกังวลมากถึงมากที่สุดคือ

1.ปัญหา มลพิษทางน้ำรวมกับปัญหาโลกร้อนจะเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดการขาดแคลนน้ำสะอาดใน อนาคต (ร้อยละ 91.5)

2.ปัญหา น้ำเน่าเสียตามคูคลองและแม่น้ำ (ร้อยละ 90.3)

3.ปัญหา ขยะในแหล่งน้ำ (ร้อยละ 89.94)

4.ปัญหา ผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่เกิดจากมลพิษทางน้ำ (ร้อยละ 84.5)

5.การปน เปื้อนสารพิษในห่วงโซ่อาหารหรือสิ่งแวดล้อม (ร้อยละ 84.1)

มากกว่าครึ่งหนึ่งถึง 3 ใน 4 ของกลุ่มตัวอย่างกังวลต่อการประสบปัญหามลพิษของแม่น้ำ 4 สายหลักในภาคกลาง พบว่าร้อยละ 74.5 มีความกังวลมากถึงมากที่สุดต่อแม่น้ำเจ้าพระยา รองลงมาคือ แม่น้ำบางปะกง คิดเป็นร้อยละ 58 แม่น้ำแม่กลอง คิดเป็นร้อยละ 52.2 และแม่น้ำท่าจีนคิดเป็นร้อยละ 52

"ตลอด หลายสิบปีที่ผ่านมา คุณภาพแม่น้ำในประเทศไทยได้เสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะในบริเวณที่มีโรงงานอุตสาหกรรมหนาแน่น ตัวอย่างเช่น มีการตรวจสอบพบสารพิษอันตรายในคลองเชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างซึ่ง รองรับน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม (1) ผลการสำรวจ ครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลยังปฏิบัติไม่เพียงพอในการปกป้องแหล่งน้ำ ของเรา การปล่อยสารพิษจากอุตสาหกรรมลงสู่แหล่งน้ำเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ว่าสารพิษจะถูกปล่อยออกมามากหรือน้อยก็สามารถสะสมอยู่ในระบบนิเวศและห่วง โซ่อาหารได้ และการเปิดเผยข้อมูลด้านมลพิษเป็นแนวทางพื้นฐานที่สำคัญให้รับรู้ข้อมูลและ กระตุ้นสู่การลดการใช้สารพิษอันตราย" นายพลาย ภิรมย์ กล่าวสรุป

คำสำคัญ (Tags): #ข่าว
หมายเลขบันทึก: 432216เขียนเมื่อ 22 มีนาคม 2011 08:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 18:49 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

คลองใน กทม น้ำเน่ามากกก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท