วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2554
ตอนดึกดื่นคืนวาน ...ผมรู้สึกหนาวเท้ามาก จึงลุกมาสวมถุงเท้าให้ตนเอง และสวมอีกคู่สำหรับลูกชาย เขากำลังนอนกรน เบา ๆ หอมแก้มและขอให้เทวดาคุ้มครองตลอดราตรีกาล
ตื่นเช้า...ผมรู้สึกคิดถึงเรื่องราวเก่า ๆ ที่ผ่านมาในชีวิตผม และคนที่อยู่ในห้วงคำนึงของดวงใจของผม และหนึ่งนั้นก็คือ 'ปู่สอน กล้าศึก' ความคิดถึงท่ามกลางฤดูกาลความหนาวเย็นแบบไม่ตังตัว แต่ทว่า วันนี้ มีแสงแดดจาง ๆ ในตอนเช้า ให้คาดการณ์ว่า วันนี้คงอบอุ่นและความยะเยือกเย็นคงจางไปบ้าง
ผมเขียนถึง...ปู่สอน ไว้ 10 บันทึกแล้ว ณ พื้นที่แห่งนี้ แต่ในสมุดบันทึกของผม ยังมีเรื่องราวมาก ๆ ที่รอยหมึกของปากกาที่จรดจากนิ้วมือและสมองของผม แต่นั้นมันคงไม่สามารถเทียบเท่ากับ 'ความรัก' ที่แทรกซึมในทุกอณูตัวอักษรของผม
ในความตั้งใจของผม ผมต้องการเขียนบันทึกรวมเล่ม ซึ่งเป็นผลงานชิ้น โบว์แดงของผมก็ว่าได้ อยากเขียน...อัตชีวิตของปู่สอน เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ ที่แสดงถึงวิถีชีวิต สุขภาวะของผู้สูงอายุ ในการดูแลสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ตอนนี้ผมกำลังปรึกษาผู้รู้ ในการจัดการข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อให้เขียนเป็นงานวิจัย ความตั้งใจนี้ ปู่สอน สนับสนุนและให้กำลังใจผมอย่างเต็มกำลัง
และอีกความตั้งใจหนึ่งของผม ซึ่งต้องพากเพียร มีวินัย และมุ่งมั่น รวมถึงต้องใช้ทุนของผมเองอย่างมาก ที่มีปู่สอน เป็น 1 ในบุคคล 5 บุคคล ผมอยากทำ บันทึกเรื่อง ' 5 บุคคล ที่คนภูเขียว ต้องจดจำ' เพราะอำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ เป็นอำเภอที่งดงาม และผู้คนน่ารักอย่างมาก และมีหลายคนที่พวกเราเป็นคนในพื้นที่ต้องรู้เราก่อนใช่ไหมครับ ? ผมให้กำลังใจ และบอกกับตัวเองว่า อยากทำให้สำเร็จ
ภาพฝันของผม คือ คงจะพิมพ์และเข้าเล่ม ไม่มากครับ ลงทุนเอง และส่งให้โรงเรียนในอำเภอ ที่มีประมาณ 160 แห่ง และส่วนราชการในอำเภอ อีก 20 แห่ง ที่เหลือขอเก็บไว้สำหรับที่ต้องการ
'5 บุคคล ที่คนภูเขียว ต้องจดจำ' ผมคิดคร่าว ๆ ว่า จะมีท่านเหล่านี้ ครับ
1. คุณโกวิท วัฒนกุล นักแสดงเจ้าบทบาทที่เป็นลูกหลานคนภูเขียว (คงต้องเดินทางไปคุยกับท่านที่กรุงเทพฯ ปัจจุบันพำนักอยู่ที่นั่นครับ)
2. คุณครูดนัย ไกรศักดิ์ มานะศิลป์ ครูผู้เป็นที่เคารพของศิษย์ชาวภูเขียว
3. หลวงปู่สีทัศน์ (ท่านมรณภาพแล้ว) พระที่ผู้ยึดเหนี่ยวจิตใจ นักพัฒนาวัดพระธาตุหนองสามหมื่น และศาลาพันห้องของเมืองภูเขียว
4. ปู่สอน กล้าศึก ผู้ปลูกต้นไม้ในใจคน ผีบ้าปลูกต้นไม้แห่งโนนเสลา ภูเขียว
5. ว่างไว้ก่อนนะครับ ผมกำลังตัดสินใจ
ผมเป็น 'หมออนามัย' แต่ผมว่า ถ้าผมสามารถทำอะไรได้อีก ตามกำลังความสามารถของเรา ควรจะทำ แล้วยิ่งสำหรับบ้านเกิดแล้ว ผมควรทำอย่างยิ่ง ถึงมีความแซวผมว่า เป็นประเภท 'ทำทุกอย่างที่ไม่ใช่หน้าที่ อยู่ทุกทีที่ไม่ใช่ที่ทำงาน' แต่ผมนับว่า เป็นคำชมนะครับ
ผมร่ายเกริ่นนำมายืดยาวจังนะครับ ขอเข้าเรื่อง 'วัยวัน...วัยเด็ก...ปู่สอน กล้าศึก ผู้ปลูกต้นไม้ในใจคน' (ปัจจุบันอายุ 79 ปี) ได้แล้วครับ ข้อมูลที่ได้รับรู้ มาจากคำพูดของปู่สอนล้วน ๆ ผมอาจจะนำเสนอไม่หมด ด้วยข้อกำจัดหลาย ๆ อย่าง แต่ทุกคนคงได้อรรถรส และคุณค่า จากชีวิตของปู่บ้างนะครับ
ชีวิตของผมเกิดจากแม่ของผม พ่อของผมไดตายจากไป เมื่อผมอายุได้เพียง 6 ปี มีพี่น้องร่วมท้อง 8 คน หญิง 5 คน ชาย 3 คน
พออายุได้ 8 ปี ผมได้เรียนหนังสือที่วัดตาแขก สมัยนั้นโรงเรียนไม่มี ได้อาศัยวัดเป็นโรงเรียน วันศีล วันพระ ก็ได้หยุดเรียน คงไม่เหมือนสมัยนี้
แต่ว่าผมก็เลิกเรียน และเรียนจบชั้นประถม 3 ก็เพราะผมขาดเรียนบ่อยมาก บางวันก็ได้ไปเลี้ยงควาย เลี้ยงวัว ผมก็เลยกลัวครูอาจารย์จะตำหนิ
เมื่อจะสอบขึ้นชั้นประถม 4 เรียนได้ 2 เดือนแล้วก็ออกกลางคัน เพราะฉะนั้นการศึกษาของผมจึงอ่อนมาก ...
ผมจึงไม่สามารถทำความดีได้ ผมก็เลยเป็นคนธรรมดา
นิสัยของผมเป็นอ่อนน้อมถ่อมตนมาตลอด ผมชอบไปวัดกับคนแก่ แต่ผมไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรมากนัก ถ้าผมได้นั่งในสถานที่บุญ ผมไม่ชอบพูดเล่น จะพูดแต่ความจริง เพราะว่า นิสัยผมเป็นอย่างนี้ ผมไม่อยากฆ่าสัตว์ และสิ่งมีชีวิต
สมัยผมเป็นหนุ่ม ผมชอบไปทำบุญตักบาตรกับเพื่อนบ่าวสาว รู้สึกสนุกดี และดีใจมาก เพราะทำอย่างนี้...ได้บุญดี
......... (โปรดติดตามตอนต่อไปครับ) ...........
ไม่มีความเห็น