เหตุใดการนวดตาจึงรักษาต้อหินได้ และนวดอย่างไร?


การนวดตาจึงช่วยให้ส่วนที่ยังดีอยู่ไม่เสื่อมลงต่อไป ซึ่งภาษาแพทย์เรียกว่า การดำเนินโรคหยุดลง

การนวดตาอย่างที่ผมทำ เป็นการใช้ส่วนที่เป็นสันนุ่มๆ ที่อยู่ส่วนล่างของฝ่ามือ เหนือข้อมือ กดตรงเบ้าตาทั้งเบ้า กดเป็นมุมตรงๆ เข้าไป ไม่เฉียงขึ้น เฉียงลง หรือเฉียงออกข้าง น้ำหนักที่กดก็พอประมาณ ไม่กดแรงจนเจ็บ (ลองนึกถึงประสบการณ์เดียวกับการใช้มือนวดส่วนอื่นๆ ของร่างกาย หากกดแรงเกินไปก็เจ็บ และอาจเป็นอันตรายได้) ส่วนจะแรงแค่ไหน หรือขนาดไหนจะ "พอดี" ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่แต่ละคนจะสัมผัสกับความรู้สึกนั้นได้เอง อย่างไรก็ตาม หากกดเบาเกินไปก็อาจไม่เกิดผลอะไร

ตอนเริ่มกดให้ค่อยๆ กด อย่ากด "ป๊าบ" เข้าไปแรงๆ ทีเดียว ตอนจะถอนมือออกก็เช่นเดียวกัน ค่อยๆ ถอนออก เรียกว่า อ่อนโยนกับลูกตาแม้จะใช้น้ำหนักกด

ที่สำคัญคือ อย่ากดปล่อย กดปล่อย แบบโช๊คอัฟเด็ดขาด เพราะอาจเป็นอันตรายต่อขั้วจอประสาทตา การโช๊คอาจมีแรงดูดให้ขั้วจอประสาทตาถูกดึงออกจากที่ตั้งได้ (อันนี้หมอไม่ได้บอก เป็นสมมุติฐานของผมเอง)

และที่สำคัญอีกอย่างก็คือ กดนิ่งๆ นิ่งสนิทจริงๆ ไม่โยกไม่คลึง เพราะการโยกการคลึงอาจส่งผลให้เลนส์ตาเคลื่อนได้ (อันนี้ผมฟังมาจากจักษุแพทย์คนหนึ่งที่ออกทีวี) กดแช่ไว้อย่างสงบๆ ๒ นาทีครึ่ง โดยอาจนับเลขในใจ ใช้นาฬิกาจับเวลา หรือจะเปิดเพลงที่มีความยาวประมาณนั้นก็ได้ (หากไม่เป็นการรบกวนคนอื่น) หมอสมเกียรติแนะนำให้ผมนวดวันละ ๖ ครั้ง โดยแบ่งเวลาเอาเองว่าจะนวดเวลาใด ห่างกันครั้งละ ๓ - ๔ ชั่วโมง

เหตุใดการนวดตาจึงรักษาต้อหินได้?

การนวดตามเนื้อตามตัวโดยทั่วไปจะทำให้เรารู้สึกสบาย ผ่อนคลาย เพราะ "เลือดลม" แล่นดี แล่นได้ปลอดโปร่ง ภาษาแพทย์ว่าการไหลเวียนของเลือดดี (จึงป้องกันหรือรักษาโรคได้) การนวดตารักษาต้อหินก็อาศัยหลักการเดียวกัน

ผมเองเมื่อเริ่มนวดใหม่ๆ ก็รู้สึกปวดอยู่บ้าง แต่เมื่อชำนาญแล้วก็รู้สึกติด อยากนวด เพราะนวดแล้วรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย เหมือนได้นวดตามเนื้อตามตัว บางทีนวดแล้วก็ไม่อยากหยุด แต่ก็ต้องหยุดเพราะหาก "มากเกินไป" หรือ overdose ก็อาจเป็นอันตราย ผมเชื่อว่าอะไรที่ไม่พอดี ตึงไป หย่อนไป ไม่ดี

ต้อหินเกิดจากเซลล์ประสาทตาเสื่อม ที่เสื่อมก็เพราะขาดเลือดเข้าไปเลี้ยงอย่างเพียงพอ แต่ไม่ได้เสื่อมและตายพร้อมกันทุกเซลล์ พวกที่ตายไปแล้วก็ตายไปเลย หมอสมเกียรติให้ความรู้ผมว่า เซลล์ประสาทตาส่วนที่ตายแล้วจะถูกร่างกายเราขจัดออกไป ส่วนที่เหลือแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่ยังดีอยู่ กับส่วนที่อ่อนแอแต่ยังไม่ตาย ส่วนที่ยังอ่อนแอนี้หากระบบไหลเวียนเลือดในตาดี เลือดเข้าไปหล่อเลี้ยงเซลล์ประสาทได้ดี เซลล์ที่ยังป้อแป้อยู่ก็มีโอกาสฟื้นคืนกลับมาแข็งแรงได้ใหม่

การนวดตาจึงช่วยให้ส่วนที่ยังดีอยู่ไม่เสื่อมลงต่อไป ซึ่งภาษาแพทย์เรียกว่า การดำเนินโรคหยุดลง หรืออย่างน้อยก็เสื่อมช้าลง

โรคต้อหินเรื้อรังอย่างผม หากจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โรคประสาทตาค่อยๆ เสื่อมลงก็คงได้ หากเซลล์ประสาทตาเสื่อมลงจนตายเกลี้ยงเมื่อใดก็ตาบอด ตอนนี้ที่ยังเห็นอยู่ (แม้จะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนคนทั่วไป) แสดงว่ายังมีเซลล์ประสาทตาที่ยังดีเหลืออยู่ การรักษาโรคต้อหิน หากจะเรียกให้ถูกจึงอาจเรียกได้ว่า การรักษาให้เซลล์ประสาทที่ยังเหลืออยู่ไม่เสื่อมลงและตายต่อไปอีก หรือไม่ให้โรคดำเนินต่อไป เพราะเซลล์ที่ตายแล้วก็ตายไป ร่างกายขจัดออกไปแล้ว 

ผมเคยถามหมอสมเกียรติว่า เซลล์ในร่างกายเราก็มีตายและมีการสร้างใหม่อยู่ทุกวันไม่ใช่หรือครับ ท่านตอบว่า เซลล์อื่นๆ ใช่ แต่ไม่ใช่ของประสาทส่วนกลาง ประสาทตาเป็นส่วนหนึ่งของประสาทส่วนกลาง ผมก็คิดว่า จริงแฮะ ก็เส้นใยประสาทตานี้มันอยู่ในหัว ในสมองเราเลยนี่นา มันยื่นออกมาแล้วก็สอดทะลุเข้ามาในลูกตาเรา

คนที่เป็นต้อหินมีความดันในลูกตาสูง ลูกตาคนที่เป็นต้อหินจึงแข็งกว่าคนปกติ จึงเรียกว่าต้อหิน แพทย์สามารถใช้เครื่องมือวัดความดันในลูกตาเราได้ คล้ายๆ กันวัดความดันโลหิต แต่เครื่องมือเป็นคนละอย่าง ละเอียดกว่ามาก มีทั้งชนิดใช้ตุ้มน้ำหนักเป็นโลหะวางบนลูกตา (แบบนี้ต้องหยอดยาชาที่ตาก่อน) และชนิดที่ใช้ลมเป่าแล้ววัดแรงดันลมที่สะท้อนออกมา (แบบนี้ไม่ต้องใช้ยาชา) เวลาที่ความดันในลูกตาผมสูงมากๆ ผมใช้ปลายนิ้วตนเองสัมผัสผ่านเปลือกตาดูก็รู้สึกจากการสัมผัส(ที่ละเอียดๆ)นั้นได้ เรียกว่า วัดแบบหยาบๆ ได้ 

ผมนวดมาปีกว่า รู้สึกว่าตาข้างขวาที่เป็นต้อหินมัวน้อยลง บางวันก็ไม่รู้สึกมัวเลย ไม่พบความแตกต่างกับตาข้างซ้าย และเมื่อใช้มือกดเบาๆ ดูก็ไม่รู้สึกแข็งเหมือนแต่ก่อน ผมลองกดดูอยู่เรื่อยๆ ไปให้หมอใช้เครื่องมือแพทย์วัดก็มักตรงกัน

หมอสมเกียรติบอกว่าการนวดตาสามารถลดความดันในลูกตาลงได้ เพราะการที่ลูกตาเราแข็งเป็นหินเพราะน้ำ(ของเหลว)ในลูกตาเรา "ระบาย" ไม่ดีเหมือนชาวบ้านที่ตาเขาปกติ คนที่ตาปกติ น้ำที่ไหลเข้ากับน้ำที่ไหลออกของเขาสมดุลกัน คนที่เป็นต้อหินอย่างผม น้ำที่เข้ามาปกติ แต่ไหลออกไม่ปกติ ทางไหลออกอาจตีบตัน ทำให้ความดันในลูกตา(เปรียบได้กับถุงหรือลูกโป่งบรรจุน้ำ)ก็เพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา แต่ที่ลูกตาเรายังไม่ระเบิดก็เพราะมันยังสามารถไหลออกได้อยู่ เพียงแต่ไหลออกไม่ดีพอ (ผมลองคิดว่าถ้าเป็นตรงข้ามกัน คือ น้ำไหลออกดีแต่ไหลเข้าไม่ดี ลูกตาเราก็คงจะสูญเสียความเต่ง จะแฟบยุบลง)

การกดนวดตานี้ช่วยให้น้ำในลูกตาของคนเป็นต้อหิน(ทางระบายน้ำไม่ดี)ไหลออกได้ดีขึ้น ผมนวดแล้วรู้สึกว่าลูกตาผมที่แข็งกระด้างอ่อนนุ่มลง ท่านจึงให้นวดบ่อยๆ อย่างผมท่านให้นวดวันละ ๖ ครั้งๆ ละสองนาทีครึ่ง ญาติผมคนหนึ่งเป็นไมเกรน ท่านให้นวดถึง ๙ ครั้งต่อวัน ความทนทุกข์ทรมานจากไมเกรน ๒๐ ปี หายไปในสัปดาห์เดียว เหมือนเกิดใหม่ พอดีขึ้นแล้วก็ค่อนนวดห่างขึ้น

สำหรับผู้ที่จะลองหรือจะเลือกวิธีรักษาด้วยการนวดตา ขอให้ตัดสินใจเองนะครับ ส่วนผม เรื่องตาเป็นต้อหิน ผมตัดสินใจเลือกทางนี้เพราะลองดูด้วยตนเองแล้วพบว่าดีขึ้น ผมขอแนะนำให้ไปหาหมอสมเกียรติหรือจักษุแพทย์ที่เป็นเครือข่ายหมอสมเกียรติ (หากมี) ก่อนลงมือนวด ผมเองก็ไม่รู้ว่าอายุผู้ป่วยหรือพยาธิสภาพผู้ป่วยแบบใดควรนวดแบบใด ผมคิดว่าในขั้นที่การค้นพบนี้ยังใหม่อยู่ ควรทำภายใต้คำแนะนำของแพทย์ก่อน (มีที่ปรึกษาไว้ก่อนดีกว่า)

หมอสมเกียรติอยู่โรงพยาบาลเอกชัย ระหว่าง ๙.๐๐ - ๑๗.๐๐ น. รพ.นี้อยู่ทางไปมหาชัย หากไปจากกรุงเทพฯ ลงทางด่วนเส้นดาวคะนองที่ถนนพระราม ๒ แล้วขับไปเรื่อยๆ จะไปตัดกับถนนเอกชัย เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเอกชัยไปเรื่อยๆ ก็จะพบโรงพยาบาลเอกชัยอยู่ทางซ้ายมือ มีที่จอดรถของ รพ.อยู่ด้านหลังโรงพยาบาล จอดได้เป็นร้อยคัน

หมายเลขบันทึก: 430832เขียนเมื่อ 12 มีนาคม 2011 13:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:38 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำ

น้ำในลูกตาแห้ง ไว้จะต้องลองใช้วิธีนี้ดูบ้างค่ะ

เห็นด้วยคะ คุณแม่ก็เป็นเหมือนกันคะ รักษากับคุณหมอสมเกียรติ เหมือนกัน ไปยิงเลเซอร์มาพร้อมกับนวดตา อาการของแม่ดีขึ้นคะ คุณหมอจะประจำที่ รพ.เอกชัย จัน-ศุก เวลา 09.00-17.00 เสา-ทิต ที่ รพ.บางมด เวลา 08.00-12.00 คะ พระราม 2 นะคะเพื่อใครสะดวกมาที่นี้มากกว่าคะ เพราะว่าตอนนี้คุณแม่ก็ยังรักษาอยู่คะ

ขอบพระคุณมากค่ะ กับข้อมูลค่ะ มันอาจจะเป็นหวังสุดท้ายของมินท์ จะลองเข้าไปปรึกษาคุณหมอค่ะ

ด้วยตัวมินท์เอง เป็นปานแดงครึ่งหน้าค่ะ มีผลกระทำ ทำให้ เป็นต้อหิน ทำให้มองเห็นได้ข้างเดียว ทุกวันนี้ใช้ยาเพียงตัวเดียวค่ะ คือ Glauco-Oph ใช้มา ตั้งแต่เกิด ยันตอนนี้ ก็ 30 ปีแล้วค่ะเคยไปหาหมอหลายที่ ก็บอกว่าหมดทางเยียวยา เลยหมดหวังมาทั้งชีวิต จนวันนี้ ตามอ่าน การรักษา ของคุณหมอ เลยคิดว่าอาจจะเป็นความหวังสุดท้าย ถ้ามีปฏิหารย์ คงสามารถมองเห็นได้อีกครั้งค่ะ

 

ขอบพระคุณอีกครั้งสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากค่ะ

กรณีที่ผู้ต้องการนวดเป็นต้อหินทั้งสองข้างแต่มีข้างนึงที่ได้รับการผ่าตัดเอาเลนเทียนใส่แล้วสามารถนวดได้รึเปล่าคะ

กรณ๊ผ่าใส่เลนส์เทียมแล้ว กรุณาสอบถามจาก นพ.สมเกียรติครับ หมอสมเกียรติอยู่โรงพยาบาลเอกชัย ที่มหาชัย

ไปตรวจหมอบอกความดันตาข้างขวาสูง 26 ซ้าย 18 จะรักษาโดยการนวดตา (ทำเองดู) จะได้มั๊ยครับ มีอันตรายมั๊ยครับ โทร.0812659559

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท