“ .....กินดี มีสุข อยู่ดี มีสุข ทำมา หากิน หลาย ๆ คำที่ สำนวนไทย มีให้สำหรับการดำรงชีวิตของคนไทยทั่วทุกภูมิภาค ที่สะท้อนการมุ่งเน้นความสุขในชีวิต แล้ว ฅนสนามหลวง เขากินอะไรกัน เขาสุขอะไรกัน หลาย ๆ คน อาจจะคาดไม่ถึง... ”
เมื่อพูดถึง ข้าวไข่เจียว หลายคน คิดถึง ตรอกข้าวสาร แต่ใครจะรู้บ้างว่า แท้จริงแล้ว ข้าวไข่เจียวราคาถูก มีจุดเริ่มต้นที่สนามหลวง ที่ เริ่มแรก เน้นตลาดที่มีลูกค้าเป็น ฅนสนามหลง ที่เป็นทั้งคนจร และขาประจำ (ที่ไม่ใช่ขาประจำของรัฐบาล) สนนราคาก็อยู่ที่ 10 บาท นี่ล่ะ มาแต่ไหนแต่ไร แต่เมื่อลงไปถามว่าใคร เป็นคนแรก ที่คิดดำริที่เอาข้าวไข่เจียวมาขายที่สนามหลวง ก้ไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ชัดเจน เมนูข้าวไข่เจียว จานละ 10 บาท เป็นเมนูแรก ๆ ที่ นำเข้ามา และ เริ่มมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนปัจจุบัน กลายเป็น อาหารตามสั่งราคาเกื้อกูล คืออยู่ในราคาระหว่าง 10 – 20 บาท แต่หากใครจะสั่ง เมนูพิเศษไปกว่านี้ ราคาก็จะเพิ่มตามขึ้นไป ตาม สนราคาของวัตถุดิบที่ นำมาประกอบอาหารในแต่ละเมนู ซึ่งสูงสุด ก็ไม่เกิน 40 บาท ก็ถือได้ว่า เหมาะสมกับ กลุ่มลูกค้าดั้งเดิม และในปัจจุบัน ลูกค้าของร้านขายอาหารตามสั่งสนามหลวงที่มีอยู่ราว ๆ 10 กว่าร้าน ก็ จะมี คนทำงาน ที่ผ่านไปมา บางคนซื้อติดมือกลับบ้านด้วยซ้ำไป ร้านที่ สามารถพบปะชาวอิสรชนได้ช่วงดึก ๆ ก็เห็นจะเป็นร้านของพี่พัดหรือพี่นก ที่ อยู่ใกล้ ๆ กับถนนกลางสนามหลวง ที่ชอบเรียกชาวอิสรชนว่าอาจารย์อันเนื่องมาจากเคยเชิญแกไปร่วมเสวนาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อปีกลาย
อีกร้านที่ จะข้ามผ่านไปไม่ได้ แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งร้นบนสนามหลวง แต่ ก็อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน เรียกกันติดปากว่า ร้านข้าวแกงเจ้โดด ชายหนุ่มร่างท้วมที่ มีใจเป็นหญิงสาว ที่ตั้งอยู่ปากซอนสาเก ข้าง ๆ โรงแรมรัตนโกสินทร์ ที่แต่ละวันมีเมนูอาหารไม่น้อยกว่า 10 อย่าง ตั้งอยู่บนรถเข็นคันเล็ก ที่แต่ละวัน ลูกค้าคนสำคัญก็หนีไม่พ้น คนขายบริการทั้งชายและหญิง คนขับรถตู้วินระหว่างจังหวัด คนขับรถที่ขับมาให้เจ้านายที่มาประชุมบนโรงแรม คนผ่านไปผ่านมา แม่ค้าพ่อค้าที่มาขายของริมคลองหลอด สนนราคา อยู่ที่ 1 อย่าง 15 บาท 2 อย่าง 20 บาท ไข่ต้มฟองละ 5 บาท ร้านโดด เป็นขวัญใจคนแถวนั้น ใครผ่านไปผ่านมา ต้องนัดพบปะกันตรงนี้ ใครต้องการจะเจอชาวอิสรชน ก็ แวะไปถามไถ่ หรือนั่งรอที่ร้านนี้ได้ แค่ถามว่า อาจารย์มาหรือยัง ก็จะได้คำตอบเอง เพราะ แกชอบเรียกอิสรชนว่าอาจารย์ตามนักศึกษาฝึกงานที่ลงพื้นที่เรียกกัน
ถัดไปหน่อย บนถนนอัษฎางค์ริมคลองหลอด ตรงบริเวณปากตรอกครุฑ ที่เป็นร้านขายน้ำเล็ก ๆ ที่อิสรชน จะแวะไปนั่งพูดคุยกับ หญิงขายบริการอีกกลุ่ม ที่เจ้าของร้านเป็นชายวัยกลางคนเชื้อสายจีน ที่เราเรียกแกว่าเฮีย ไปนั่งมาหลายครั้งลืมถามชื่อทุกที แต่ตรงนี้ คนแถวนั้นเรียกอิสรชนว่าหมอ เพราะ เอาถุงยางอนามัยไปแจก และ พูดคุยเรื่องโรคเอดส์เป็นประจำ
วิถีชีวิตที่ ฅนสนามหลวง ฅนคลองหลอด ใช้ชีวิตประจำวันอยู่ ท่ามกลาง เสียงบ่น และการกวาดจับรายวันของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ยังมีรอยยิ้ม เสียงหัวเรา คละเคล้ากับเสียงบ่น และน้ำตาในบางวัน แต่หากจะถามว่า เขาเหล่านี้ “ .....กินดี มีสุข อยู่ดี มีสุข ทำมาหากิน.... ” ตามที่ กล่าวไว้ข้างต้นหรือไม่ อิสรชน เห็นว่า ในบางครั้งเขากลับมีความสุขมากกว่าเราด้วยซ้ำไป ที่ เขามีเพื่อน ที่ พูดคุยกันอย่างจริงใจ เกื้อกูลกันอย่างบริสุทธิ์ใจ ผิดกับ คนที่ บอกกับตัวเองและคนอื่น ๆ ว่า มีโอกาสมากกว่า แต่กลับต้องดิ้นรนทำมาหากินอย่างเหน็ดเหนื่อย โดยปราศจากเพื่อนสนิทแม้แต่คนเดียว ??? และยิ่งโดยเฉพาะ คนบางกลุ่ม ที่ มีรายได้บนหยาดเหงื่อและเครื่องเพศ ที่ เธอและเขาตรากตรำ ทำมหากินมา ???บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน(องค์กรสาธารณประโยชน์) ใน เรื่องเล่าอิสรชน
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก