ขอบคุณไม่ทันเลย เจอคุณจตุพรมาแทรกซะก่อน พิมพ์ช้าไปสามนาที
- ขอบคุณคุณจตุพรด้วยนะคะ ที่ช่วยขยายความได้เห็นภาพเลย ยิ่งแก้ปัญหาบางทียิ่งทำให้เป็นปมขมวดแน่นจริงๆ
ป.ล. ดีใจมีคนสังเกตุด้วยแหะ กับเจ้าขาว
ตกเย็นนั่งเซ็ตคอมพิวเตอร์ให้น้องข้างห้องสามารถใช้
wireless network ของผู้เขียนได้ เพราะผู้เขียนดันล๊อค Mac
Address ไว้เลย ถ้าจะใช้ต้องให้ผู้เขียนอนุญาติ
อนุญาตให้ใช้ network ก่อน โดยการเอา Mac Address มาใส่ไว้ใน List
ก่อน
ปัญหาคือ เครื่องน้องเค้าเป็นอะไรไม่รู้ เรียก cmd ไม่ได้ เรียก command ได้แต่พิมพ์เรียกดูค่า Mac Address ไม่ได้ เพราะพิมพ์ ipconfig ที่ command prompt แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย แค่ dir ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เอ...เครื่องเค้าเป็นอะไรมั้ยนะ
พยายามหาทางเรียกดู Mac ให้ได้ ทั้งถามเพื่อนที่กำลังออนไลน์อยู่ก็แล้ว ลองเซ็ต Network setting wizard ใหม่ก็แล้ว ฮืม...ทำยังไงดีน้า ผ่านไปเกือบจะชั่วโมงแล้วน้า
ท้อแล้วน้า เอาเป็นว่าคืนนี้ปลด Security ออกก่อนก็ได้ ผู้เขียนจัดการปลดล๊อคของความปลอดภัยที่ตั้งค่าเอาไว้ (กลัวใครมาแอบใช้มาก) แต่พอถอยออกมา (ด้วยเพราะถอดใจแล้ว) พอถอยออกมา...กลับได้พบทางออก
เพราะพอไม่มีการล๊อคเครื่องน้องเค้าก็ใช้ wireless ได้เลย ผู้เขียนลองเช็คดูว่าเครื่องเห็นใครในเครืองข่ายบ้าง และแล้ว Mac Address ที่หาทางดูอยู่ตั้งนานก็ปรากฏออกมา เป็นการทำย้อนกลับนั่นเอง เย้ๆๆ
ด้วยความดีใจ จัดแจงใส่ Mac ใน List ให้เครื่องรู้จัก แล้ว Reboot ใหม่ เท่านี้ก็เรียบร้อย คราวนี้เครื่องน้องเค้าก็ใช้ wireless ได้แล้ว
ฮืม... ไม่นึกเลย การที่เราถอยออกมาจากปัญหา กลับทำให้เจอทางออกอย่างไม่น่าเชื่อ เป็นข้อคิดที่ดีสำหรับตัวเอง เพราะบางทีเราก็พยายามดันทุรังหาทางออก หรือแก้ปัญหาในวิธีที่เราคิดว่าใช่แน่นอน ต้องใช้วิธีนี้ล่ะถึงจะแก้ได้ แต่ยังไงๆ ก็ยังแก้ไม่ได้ แต่เพียงแค่เราถอยออกมาหนึ่งก้าว ออกมาจากปัญหา แล้วมองกลับไปดูที่ตัวปัญหา เออ...ทางแก้มันมีอยู่ให้เห็นง่ายๆ เฉยเลย ถึงแม้ครั้งนี้จะแก้ปัญหาได้แบบฟลุ๊คๆ ก็เถอะ แต่ได้มุมมองใหม่ให้กับตัวเอง (แปลกดี)
ครั้งหน้าคงต้องมองหลายๆ มุม ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้เสมอ
หมายเหตุ
จริงแท้แน่นอนคะ...
ปัญหา...ทุกปัญหา...มีทางออก..และแก้ไข...
ด้วยปัญญา...ที่เรามีอยู่...และใช้อย่างตั้งใจและพิจารณา...ในการใช้
เห็นด้วยค่ะ....ถอยออกมาหนึ่งก้าว...เพื่อมายืนมอง...ก็จะเห็นภาพมันชัดเจนและกว้างขึ้นจริง ๆ ผิดกับตอนที่เราเอาตาไปจ่อติดอยู่ที่ภาพใกล้จนมองไม่เห็นอะไรเลย ออกมายืนมองและพิจารณา ปัญหาทุกอย่างอยู่ที่ปลายจมูกนี่เอง จากนั้นก็ใช้ปัญญาแก้ปัญหาค่ะ
บางทีสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน เรากลับมึนในการคิดจะแก้ปัญหาตรงหน้าอย่างเดียว
ยิ่งแก้ ก็เหมือนปัญหายิ่งขมวดปม...บางทีก็ถามตัวเองว่า เอ...เราตั้งใจกับการแก้ปัญหามากเกินไปหรือเปล่า...เราเครียดไปหรือเปล่า...
อือ...ถอยมาสักก้าว เหมือนคุณ IS บอกซิ...
นั้นหละครับ...การเรียนรู้ผ่านเหตุการณ์จริง
ขอบคุณมากครับ
.....
ปล. พิมพ์ข้อคิดเห็นไป มองหัวใจ สีแดงที่พร่างพราวไปครับ
ขอบคุณไม่ทันเลย เจอคุณจตุพรมาแทรกซะก่อน พิมพ์ช้าไปสามนาที
ป.ล. ดีใจมีคนสังเกตุด้วยแหะ กับเจ้าขาว
ขอบคุณอาจารย์ขจิตที่ตรวจทานให้นะคะ แหะๆ พิมพ์ผิดไปจริงๆ ตาดีจริงๆ นะเนี่ย
สบายดีค่ะ
ขอขอบคุณอาจารย์ iS...
เรื่องวิธีแก้ปัญหานี้... ทำให้นึกถึงอะไรหลายๆ เรื่อง
ขอแสดงความชื่นชมกับวิธีแก้ปัญหาของอาจารย์ครับ