คู่อธิษฐาน (ตอน1): คู่ชีวิตที่ออกแบบเองได้
คู่อธิษฐาน (ตอน1): คู่ชีวิตที่ออกแบบเองได้
เรื่องนี้ตั้งใจเขียนเพื่อจะร่วมส่งในเทศกาลตามประกาศของคุณมะปรางเปรี้ยวแต่ส่งไม่ทันค่ะเพราะต้องออกข้อสอบและจัดการทุกอย่างก่อนร่วมเดินทางกับคณะสงฆ์ที่ไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพระธรรมจาริก ได้เขียนเป็นช่วงๆระหว่างเดินทาง กลับมา (23) ทราบว่าหมดเขตแล้ว ....แต่คิดว่าเรื่องนี้อาจเป็นประโยชน์สำหรับคนรุ่นใหม่ หนุ่มสาวที่ยังไม่มีคู่ ในการใช้เป็นแนวทางบ้าง (อาจดูโบราณ) หรือจะเลือกคู่ครองอย่างไร ให้ได้ดั่งใจไม่มีปัญหา ครองเรือนอย่างไรไม่รุ่มร้อน ใช้ชีวิตที่พอดี พอใจก็เป็นสุข และเรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ
ทุกคนคงเคยได้ยินว่าหลายคนที่มีลูกยาก จะไปขอพรจากที่ต่างๆ อธิษฐานขอลูกบ้าง สำหรับกรณีนี้อธิษฐานออกแบบคู่ที่ไม่น่าจะได้แต่ง แต่เพื่อต้องการพิสูจน์ว่าหากมีเกณฑ์คู่จริง จะต้องได้ดั่งที่ขอไว้ทุกข้อครบเท่านั้น ไม่นั้นจะไม่แต่งเป็นอันขาด เผื่อใครจะลองนำไปใช้ดู อาจได้คู่โดยเร็ว หุ หุ
เริ่มต้นง่ายๆว่าไม่เคยคิดเรื่องการแต่งงาน และไม่คิดว่าจะได้แต่งงาน..ก็เพราะคำอธิษฐานนี่ล่ะ
เรื่องของเรื่องก็คือ meepole เป็นลูกคนเดียว แถมหลานคนเดียวอีก ดังนั้นเรื่องคู่ครองเป็นอะไรที่ต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ เมื่อจบปริญญาตรี ที่บ้านก็ให้รับราชการครู ด้วยเหตุผลว่า อุตสาห์เรียนมาต้องใช้ความรู้ และต้องอยู่ที่บ้านเกิดเท่านั้น ระหว่างทำงานก็มีเพื่อนร่วมงาน ไปใหนก็เป็นกลุ่ม ไม่เคยคิดเรื่องแฟน จนกระทั่งมีอจ.อาวุโสท่านหนึ่งบอกว่าจะหาแฟนให้ ก็ได้แต่หัวเราะไม่คิดอะไร จนกระทั่งวันหนึ่งมีผู้ชายคนหนึ่งมาหาที่ห้องพักอาจารย์ซึ่งเป็นห้องพักรวม แต่meepoleไม่อยู่ก็เลยโชคดีไป เพราะขณะที่กำลังเข้ามาที่ห้องพักได้ทันเห็นผู้ชายคนนั้นสวนออกไปพอดี เข้าในห้องพัก พี่ในห้องก็บอกว่าผู้ชายชื่อ..มาหา เราบอกไม่รู้จัก พี่บอกว่าเขาว่าจะมาดูตัวเราเพราะอจ.อาวุโสท่านนั้นบอกไว้ เท่านั้นเองก็หงุดหงิดทันที พูดได้ยังไงมาดูตัว ก็เลยบอกสวนไปทันทีว่า ถ้าคราวหน้ามาอีกก็ให้บอกไปเลยว่าหน้าเหมือนปลาจวด (สำนวนสมัยก่อนนะ จำเขามาพูด ไม่เคยเห็นหรอกว่าปลาจวดหน้าตาเป็นยังไง ปัจจุบันก็ไม่รู้) ไม่เอาหรอก แต่คำพูดนั้นจะดูเหมือนแรงนะ แต่สมัยนั้นอายุยังน้อยเลยไม่คิด คำพูดนั้นก็ได้หลุดเข้าหูเขาในที่สุดเขาก็ไม่มาอีก แม่ชักก็มาบอกว่าหากไม่ชอบก็ไม่ต้องไปว่าเขา และที่ชอบน่ะเป็นยังไง ก็ตอบไม่ถูกเพราะไม่เคยคิดเลยไม่รู้
ในที่สุดก็ต้องคิด เพราะวันหนึ่งไปได้ยินการคุยของผู้ใหญ่ในบ้านว่าจะชักนำให้เรารู้จักลูกของเพื่อนสนิท 2 คน เราก็รู้สึกไม่ชอบทั้งที่ไม่เห็นหน้า คิดหลายครั้งในที่สุดนึกถึงคำของอาจารย์ที่สนิทมากตอนเรียนปริญญาตรี ที่เคยบอกว่าเรื่องคู่ครองเป็นสิ่งที่ถูกลิขิตไว้แล้ว อาจารย์ของเราคนหนึ่งเป็นโสด (จนปัจจุบัน) อีกท่านท่านแต่งงานมีลูก ท่านนี้ที่เป็นผู้ให้ความกระจ่างเรื่องคู่ครองตอนที่ meepole เรียน อาจารย์ทั้งสองท่านไปนั่งกรรมฐานที่วัดปากน้ำ หาดใหญ่เสมอ และหลายครั้งก็จะพา meepole ติดห้อยไปด้วย อจ.ท่านที่แต่งงานให้ความกระจ่างว่า คู่ครองถูกกำหนดมาแล้ว หนีอย่างไรก็หนีไม่พ้น อจ.ท่านเองเคยหลบหลีกการแต่งงานมาได้สองครั้งเพราะมีอจ.พระของท่านเคยบอกท่านว่าในอนาคตท่านต้องเสียลูกและสามีพร้อมกัน อจ.รู้เช่นนั้นเลยจะแก้ด้วยการไม่แต่งงานหลบหลีกทุกรูปแบบเช่นกัน เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียลูกและสามี แต่ชะตาลิขิตไว้แล้ว พอครั้งที่สามหลบไม่พ้นท่านก็ต้องแต่งงานกับนายแพทย์ท่านหนึ่ง และมีลูกชายคนเดียวเรียนแพทย์เช่นกัน วันหนึ่งลูกชายเรียนจบกลับจากต่างประเทศ สามีเลยขับรถจากสงขลาไปรับที่กรุงเทพ ขากลับรถประสบอุบัติเหตุตายทั้งสามี ลูกและเพื่อนลูกเป็นหมอที่กลับจากตปท.ด้วยกัน หากจำไม่ผิดอจ.บอกว่านสพ.พาดหัวข่าวว่าเป็นการสูญเสียบุคลากรทางการแพทย์ที่มากที่สุดถึง 6 คน หลังจากนั้นอจ.จึงหันมาสู่เส้นทางการปฎิบัติธรรมอย่างจริงจังตลอดมา และได้บอกพวกเราว่าเรื่องคู่ครองเมื่อเขาลิขิตแล้ว หลีกไม่พ้น
คู่ที่ขอออกแบบเอง
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ได้ ก็เลยจะลองดู จึงตั้งจิตอธิษฐาน (อย่างจริงจัง) ขอบุญกุศลที่ทำมา หากจะมีคู่ครอง คนที่แต่งงานด้วยต้องมีคุณสมบัติดังนี้ (ก่อนจะอ่านต่อขออนุญาตทำความเข้าใจก่อนว่า เรื่องนี้เกิดเมื่อ meepole อายุได้ประมาณ 24-23 ปี นานมามากแล้ว และเป็นเด็กตจว. ดังนั้นอย่าได้สงสัยว่าทำไมจึงขอแปลกๆ เพราะตอนนี้มองย้อนกลับก็ยังขำตัวเองค่ะ)
-
ต้องไม่สูบบุหรี่ (รู้สึกตอนนั้นว่า คนเครียดแก้ปัญหาอะไรไม่ได้จึงสูบบุหรี่ และเราไม่ชอบคนเครียด)
-
ต้องเป็นคนกรุงเทพ (เหตุผลส่วนตัว ที่ขำกลิ้ง ใครสงสัยหากเจอ meepole ถามได้ค่ะ จะได้ยินของแปลกค่ะ)
-
ต้องใจเย็น ใจดี มีเมตตาต่อสัตว์ (เพราะ meepole สมัยก่อนใจร้อนและชอบเลี้ยงสัตว์)
-
ต้องจบวิศวะและเก่งคอมพิวเตอร์ (สมัยก่อนเป็นเรื่องใหม่มาก)
-
ต้องเล่นดนตรีเก่ง
-
ต้องถ่ายภาพเก่ง (เพราะตัวเองถ่ายรูปไม่เป็น แต่อยากถ่ายรูป และสมัยก่อนกล้องไม่ไช่เป็นแบบ auto กดอย่างเดียว แบบยุคนี้)
-
ต้องเป็นคนที่เข้าวัด และไหว้จ้าวได้ (เพราะยายจะพาไปไหว้จ้าวที่ศาลเจ้าตามเทศกาลต่างๆ)
-
ต้องไม่โลภ (ไม่เล่นการพนัน ไม่ซื้อหวย(กระทั่งลอตเตอรี) ไม่เล่นแชร์)
เห็นคุณสมบัติข้างต้นแล้วอย่าเข้าใจผิดคิดว่าเลือกมาก แต่จริงๆคิดแค่ว่าตัวเองชอบอะไรและไม่ชอบอะไร หากจะต้องแต่งงานก็ต้องเป็นคนที่มาเติมเต็มชีวิต และอยู่อย่างมีความสุข ไม่ไช่มาแล้วทำให้ชีวิตเป็นภาระ หรือทุกข์ เวลาไหว้พระก็จะขอว่าหากชีวิตจะต้องแต่งงานก็ขอให้พบคนที่มีคุณสมบัติครบ 8 ข้อนั้น และตัวเองก็บอกกับตัวเองว่าคงไม่ได้แต่งแน่นอน แต่ก็อยากพิสูจน์ว่าที่อาจารย์เคยบอกไว้ว่าคู่ถูกลิขิตมาตามบุรพกรรมแล้ว ถ้ามีก็จะเจอเอง เมื่อถึงเวลา ดังนั้นหากเราจะทดลองออกแบบคู่ครองที่เรารับได้ มันก็ควรต้องได้ แต่งานนี้ทั้งเพื่อนและผู้ใหญ่ก็คิดเหมือนกันว่าเสร็จ ไม่ได้แต่งแน่ เพราะสวยก็ไม่สวย ยังจะเรื่อง/เลือก มากอีก (ไม่สวย หมวยจัง แต่ก็จะเลือก)
ติดตามตอนสองว่า แล้วจะได้ดั่งใจอธิษฐานหรือไม่ คาดเดาได้เลยค่ะ :) :)
ความเห็น (5)
สวัสดีครับคุณ Mee Pole
ผมได้อ่าน Talk of the Town ของคุณครูสกาย สาระใต้ มาตั้งแต่เดือนกันยายน ปีที่แล้ว คุณครูเขียนแบบคุณครูเตือนลูกศิษย์ อ่านไปอมยิ้มไป
ไม่รู้จะเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่อธิษฐานของคุณ Mee Pole หรือไม่ ส่งมาให้อ่านครับ
“รูปสวย รวยทรัพย์ อับปัญญา บิดาตาย แม่ยายโง่ ”
ช่วงนี้ข่าว Hot ยัง Talk of the town ของดาราที่ยังเคลียร์กันไม่ได้ และมีแนวโน้มว่าจะเกิด Single mum เพิ่มขึ้นอีกคน ทำ ให้นึกถึงวันก่อนสอนแทรกนอกเนื้อหาให้นักเรียนมอสามไปหยกๆเรื่องการเลือกคู่ ครอง เพราะเด็กผู้หญิงบางคนมีทีท่าว่าเรียนไปปวดหัวมีผัวดีกว่า หรือเด็กผู้ชายบางคนบ่นเรียนไปอ่อนเพลีย มีเมียดีกว่า ก็เลยคุยกันว่ามีวิธีการเลือกคู่ครองอย่างไร ในชีวิตจริงการแต่งงานไม่ใช่เป็นการสิ้นสุดเหมือนหนังละครนะที่ตอนจบพระเอก นางเอกแต่งงานแล้วก็จบแบบมีความสุข แต่มันเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ที่จะสุขหรือทุกข์ ขึ้นอยู่กับว่าคนสองคนจะพยายามปรับเข้าหากันหรือไม่เพราะคนสองคนต่างนิสัย ต่างพ่อ ต่างแม่มาพบกัน ซึ่งวันแรกๆที่รักกันก็ยังมองไม่เห็นข้อบกพร่องของกันและกัน พออยู่กันนานๆไปลวดลายลีลาก็ออกมาให้เห็นจนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทนกันไม่ได้ ต้องแตกหักกันไปข้างหนึ่ง หากไม่มีลูกก็ดีไป แต่ถ้ามีลูกก็เกิดปัญหาสังคมตามมา พ่อแม่ไปสร้างครอบครัวใหม่ ทิ้งลูกเก่าอยู่กับตายายหรือญาติ เลี้ยงกันดีก็รอดไปไม่เกิดปัญหาสังคม แต่ถ้าเลี้ยงไม่ดีเกิดปัญหาสังคมตามมา กลายเป็นโจรขโมย อาชญากร ฯลฯ
การเลือกคู่ครองจึงต้องคิดให้ถ้วนถี่อย่าดูกันแค่สวยหล่อเพียงอย่าเดียว เลยยกตัวอย่างให้เด็กได้ร่วมกันคิดว่า เอ้า ผู้ชายอยากได้เมียแบบไหนมาเป็นแม่ของลูกตนเองละ “รูปสวย รวยทรัพย์ อับปัญญา บิดาตาย แม่ยายโง่ ” ดี ไหม มีบางคนบอกดีเลย คิดง่ายๆ ครูเลยต้องถามว่าดีเหรอมีเมียสวย มีเงินมาก แถมโง่ทั้งแม่ทั้งลูกและคงจะโง่ตามมาถึงหลานอีกคนเอาหรือ ชีวิตจริงก็คงไม่มีใครอยากได้แม่พันธุ์ที่โง่มาเป็นคู่ชีวิตหรอกนะ และยิ่งตกถังข้าวสาร ผู้หญิงรวยกว่าผู้ชายจะรู้สึกมีปมด้อยมากจริงไหม ?
ส่วนผู้หญิงบอกอยากได้แบบไหนละ “ หุ่นเท่ห์ เปย์เก่ง เบ่งน้อย ห้อยปริญญา มารดาตาย ” แหมรูปหล่อเท่ห์แบบ ทอล์ดดาดแอนแฮนซั่ม สูงยาวเข่าดี ผิวเข้มรูปหล่อ จ่ายเก่ง เดินตามผู้หญิงหิ้วกระเป๋ารูดบัตรเงินสดเป็นว่าเล่น เป็นคนนอบน้อม มีปริญญา ความรู้สูงกว่าแบบนี้สาวๆใครก็ชอบ แม่ผัวตายอีก โอโฮ้สเปคเลย แต่ถามว่า ถ้าหล่อนสวยเลือกได้ทำได้ไหม แต่ถ้าไม่สวยละจะเลือกใครได้ ก็ต้องดูสเปคต่ำลงมานิด แต่ไม่ใช่ด้อยกว่าจนน่าเกลียด เคยมีภรรยาความรู้สูงกว่าสามี ไปไหนก็ไม่ภาคภูมิใจ ที่มีสามีต่ำกว่าทั้งคุณวุฒิ วัยวุฒิ และที่สำคัญ ควรดูว่ามีความชอบเหมือนกันไหม นั้นคือรสนิยม อย่างน้อยเด็กๆก็ได้ข้อคิดว่าจะเลือกใครมาเป็นคู่ครอง บางคนทำท่าหวือหวารักกันหนาจะพากันหนี ก็บอกว่าระวังให้ดี ผู้หญิงช่วงนี้จะทดแทนบุญคุณพ่อแม่ได้ก็ตอนนี้แหละ (สินสอดทองหมั้นของฝ่ายชายให้ไงละ) แล้วผู้หญิงก็อย่าชิงจบโทก่อนจบปริญญาตรีละ โทต๊อง (ท้องโต) เดี๋ยวก็จะกลายเป็น Single mum ไปอีกคน
ลืมเข้าระบบ เลยไม่มีชื่อครับ
สวัสดีค่ะ
พี่คิมฝันอยากมีแฟนเป็นนักเกษตร ทำนา ทำไร่ อยู่ในฟาร์มเล็ก ๆ สักแห่ง แต่ไม่มีนักเษตรมารู้จักสักคนเลยค่ะ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณค่ะที่นำมาให้อ่าน แต่ของmeepole คนโบราณเลยขอแบบมักน้อยค่ะ หุ หุ
รักของวัยรุ่นมักจะหวือหวามาเร็วไปเร็วเหนือเหตุผล
จะเตือนในห้องเรียนก็หูซ้ายทะลุหูห_าไปเลย นศ.อยู่กินกันตามหอพักมากจริงๆ ทำแท้งไม่เกรงกลัวกรรมกันเลย อาศัยเงินพ่อแม่ที่ส่งเรียน ก็ยังไม่ทุกข์ วันไหนเรียนจบที่บ้านไม่ส่งค่าเรียน ตอนนั้นคงรู่ว่าอะไรคือ รสชาดชีวิตที่แท้
สวัสดีค่ะ
สงสัยเพราะครูคิม ฝัน แต่ meepole จริงจังตั้งจิตอธิษฐานเลยได้ดั่งใจ หุ :) หุ :)