ทำวิสัยทัศน์ให้เป็นจริง


คนช่างฝันถ้าไม่สามารถทำวิสัยทัศน์ให้เป็นจริงได้ก็เป็นเพียงคนฝัน เฟื่องเท่านั้น

การที่เชื่อว่าคุณสามารถปรับปรุงตนเองและปรับปรุงชีวิตของคุณได้นั้น เป็นเพียงก้าวแรก แต่ถ้าจะให้มีคุณค่าอย่างแท้จริงวิสัยทัศน์ของคุณจะต้องมีคุณสมบัติอีก อย่างหนึ่ง คือ ความสามารถที่จะรู้ว่าทำอย่างไรจึงจะทำให้อนาคตนั้นเป็นจริงได้ เพราะคนช่างฝันถ้าไม่สามารถทำวิสัยทัศน์ให้เป็นจริงได้ก็เป็นเพียงคนฝัน เฟื่องเท่านั้น
สิ่งสำคัญคือจะต้องมีกลยุทธ์ในการทำวิสัยทัศน์ให้เป็นจริง ซึ่งคำแนะนำต่อไปนี้จะช่วยคุณได้

1.  กำหนดวิสัยทัศน์ของคุณ
     ถ้าคุณปรารถนาความสำเร็จคุณต้องกำหนดวิสัยทัศน์ที่มีต่อชีวิตคุณให้ได้ และวิสัยทัศน์นั้นจะมาจากคนอื่นไม่ได้ เพราะถ้าไม่ใช่วิสัยทัศน์ที่มีต่อชีวิตของคุณเอง คุณจะไม่มีแรงผลักดัน และการตัดสินใจเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งนั้นมันจะต้องเกิดขึ้นบนพื้นฐานของ ความสามารถ ความฝัน ความหวัง และความปรารถนาของคุณ วิสัยทัศน์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ซึ่งมีผลต่อเรื่องอื่นๆในทางบวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวิสัยทัศน์ของคนผู้หนึ่งสอดคล้องกับจุดหมายปลายทาง ของเขา นั่นคือปณิธานแห่งชีวิของเขา

2. พิจารณาชีวิตในปัจจุบันของคุณ
     การทำวิสัยทัศน์ให้เป็นจริงไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างปุบปับมันเป็นไป ตามกระบวนการเหมือนกับการเดินทาง เมื่อคุณตัดสินใจที่จะเดินทางสิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ กำหนดจุดเริ่มต้นก่อน เพราะถ้าคุณไม่รู้จุดเริ่มต้นคุณก็จะไม่สามารถกำหนดเส้นทางไปสู่จุดหมาย ปลายทางได้

3. ยอมแลกสิ่งเล็กน้อยทั้งหมดเพื่อวิสัยทัศน์ใหญ่เพียงสิ่งเดียว
     ความฝันทุกอย่างมีราคาทั้งนั้น สิ่งที่คุณจะต้องเสียสละเพื่อทำให้วิสัยทัศน์ของคุณเป็นจริงอยู่ที่ทาง เลือกอื่นๆ คุณไม่สามารถจะมุ่งหน้าสู่ความฝันโดยไม่ยอมละทุกสิ่งทุกอย่างในเวลาเดียว กันได้ “ความฝันทุกอย่างมีราคา”
เปรียบเสมือนคนที่ขับรถไปถึงทางแยกที่มีหลายทาง เขาสามารถเลือกเส้นทางที่แน่ใจที่สุดว่าจะไปยังจุดหมายปลายทางของเขาหรือจะ รักษาเส้นทางเลือกทั้งหมดไว้โดยไม่ได้ทางใดทางหนึ่งเลยก็ได้ แต่ผลคือเขาก็จะอยู่ตรงนั้น

4. ปรับปรุงพัฒนาตนเองให้เข้ากับวิสัยทัศน์ของคุณ
     เนื่องจากการพัฒนาตนเองเป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำวิสัยทัศน์ให้เป็นจริง เพราะฉะนั้นคุณจะต้องวางแผนการพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของคุณ ลองพิจารณาดูว่าการทำวิสัยทัศน์ให้เป็นจริงนั้นคุณจะต้องทำอะไรบ้าง จากนั้นจึงค่อยกำหนดว่าคุณจะต้องเรียนรู้อะไรเพื่อให้ตัวเองเป็นดังที่เป็น  อ่านหนังสือ ฟังเทป เพื่อให้เกิดการพัฒนา

5. พบปะคนที่ประสบความสำเร็จ
    ส่วนหนึ่งของกระบวนการพัฒนาตนเองจะต้องเกี่ยวข้องกับผู้คน วิธีเรียนรู้ ความสำเร็จที่ดีที่สุด คือ การอยู่ใกล้ชิดผู้ประสบความสำเร็จ สังเกตเขา ถามเขา แล้วคุณจะเริ่มคิดเหมือนเขา ดังภาษิตโบราณที่กล่าวไว้ว่า “นกขนสีเดียวกันย่อมอยู่ฝูงเดียวกัน” เป็นความจริงเสมอ

6. ตอกย้ำความเชื่อในวิสัยทัศน์ของคุณอย่างต่อเนื่อง
     การทำวิสัยทัศน์ให้เป็นจริงนั้น คุณจะต้องใช้ความพยายามและสร้างแรงเหวี่ยงให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ทางหนึ่งที่จะส่งเสริมความพยายามและสร้างแรงเหวี่ยงไปพร้อมกัน คือ การตอกย้ำความเชื่อในวิสัยทัศน์ของคุณอย่างต่อเนื่อง กล่าวด้วยวาจากับคนอื่น  พูดในใจกับตนเอง รักษาทัศนคติแห่งความเชื่อมั่นในทางบวกเอาไว้ แม้ในยามที่คุณกังวลสงสัยก็จะมุ่งเน้นที่ความมั่นใจ ความมั่นใจภายนอกจะนำมาซึ่งความมั่นใจภายใน ถ้าคุณสูญเสียความมั่นใจ และความเชื่อในวิสัยทัศน์ของคุณ คุณก็จะทำให้มันเป็นจริงไม่ได้

7. คาดการณ์ถึงการต่อต้านวิสัยทัศน์ของคุณ
     อีกเหตุผลหนึ่งที่คุณจะต้องคิดทางบวกกับวิสัยทัศน์ของคุณอยู่เสมอก็เพราะ คุณจะต้องพบกับการต่อต้าน คนที่ไม่มีความฝัน เขาจะมองไม่เห็นความฝันของคุณ เขาบอกคุณว่ามันไร้ค่า เมื่อถึงเวลานั้นอย่าแปลกใจ แต่จงเตรียมใจไว้ให้พร้อม ด้วยทัศนคติบวกที่ไม่มีวันจะลบลงได้

8. แยกคนที่คิดลบออกจากความเป็นเพื่อนสนิท
     เพราะถ้าคุณสนิทสนมกับเขา เขาก็จะเอาแต่ความสงสัยและการมองโลกในแง่ร้ายมาแบ่งปันให้คุณ คุณจะเริ่มเชื่อเขา และเมื่อไรก็ตามที่คุณเชื่อว่าคุณไม่สามารถไขว่คว้าความฝันของคุณได้ ความฝันนั้นก็ลอยห่างจากมือคุณไป

9. สำรวจทุกเส้นทางเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์
     เพื่อให้วิสัยทัศน์เป็นจริง คุณจะต้องมองหาสิ่งที่จะช่วยคุณอยู่ตลอดเวลา จงพร้อมที่จะลองของใหม่ มองหาความคิดดีๆจากทุกที่ จงเป็นคนช่างสังเกต ความคิดดีๆ ที่ได้ผลในด้านอื่นอาจเป็นประโยชน์กับคุณในด้านที่คุณ
พยายามอยู่ก็ได้

10 ทำสิ่งที่เกินคาด
     ที่กล่าวมาทั้งหมดสามารถช่วยให้วิสัยทัศน์ของคุณเป็นจริงได้ แต่มันจะไม่ทำให้คุณดีขึ้นสักเท่าไร หากคุณไม่พร้อมที่จะทำให้เหนือกว่าและเกินกว่าสิ่งธรรมดาๆ ที่คาดหมายในตัวคุณ ไม่มีใครบรรลุความฝันได้ด้วยพลังและความพยายามโดยปกติ มันจะต้องทุ่มเทและพยายามอย่างต่อเนื่อง นั่นคือสิ่งที่คุณต้องจ่ายเพื่อซื้อความสำเร็จ

11. จงช่วยผู้อื่นที่เขามีวิสัยทัศน์คล้ายเรา
     การช่วยเหลือผู้คนทำให้คุณภาพชีวิตของคุณดีขึ้น และคุณภาพชีวิตของคนรอบตัวคุณก็ดีขึ้นด้วย เมื่อคุณช่วยเหลือคนที่มีวิสัยทัศน์คล้ายกับของคุณ จะทำให้เกิดสภาวะ “ชนะทั้งคู่”  ขึ้นมาเป็นพิเศษ เพราะมันช่วยให้เขาได้รับสิ่งที่เขาต้องการ และเป็นธรรมดาเขาย่อมต้องการที่จะช่วยคุณเป็นการตอบแทน นอกจากนั้นทั้งสองฝ่ายยังจะได้เรียนรู้จากกันและกัน ในสภาวะเช่นนี้ทุกคนประสบชัยชนะ แม้ในบางครั้งบางคนอาจจะไม่ช่วยคุณเป็นการตอบแทนก็จงอย่าโกรธเคือง จงเดินหน้าต่อไปและยึดมั่นอยู่กับความคิดทางบวกและทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อ ผู้อื่นตลอดไป

กิจกรรมเพื่อความสำเร็จ

    1. หาเวลาสักวันหนึ่งเพื่อคิดพิจารณาอย่างลึกซึ่งถึงวิสัยทัศน์แห่งชีวิตของ คุณออกไปให้พ้นจากสิ่งรบกวนขัดขวางทั้งหลาย โดยอาจไปต่างจังหวัด หรือเช่าโรงแรม หรือไปที่ไหสักแห่งที่คุณหาความสงบได้
เอากระดาษ ปากกา ปฏิทิน และหนังสือบางเล่มที่จะช่วยคุณได้ไปด้วย เมื่อคุณอยู่คนเดียวแล้วจงถามคำถามต่อไปนี้แก่ตัวคุณเอง แล้วจดคำตอบไว้
    ก. อะไรคือความปรารถนาและพรสวรรค์ของฉัน? อะไรคือสิ่งที่ฉันทำได้ดีกว่าอย่างอื่นๆทั้งหมด หรือทำได้ดีกว่าคนอื่นๆที่ฉันรู้จักทั้งหมด?
    ข. อะไรคือสิ่งที่ฉันหลงไหล? มีสิ่งใดที่เกาะกุมหัวใจของฉัน และเพิ่มพลังในการทำงานและการพิชิตความสำเร็จของฉันบ้างไหม? ถ้ามีสิ่งนั้นคืออะไร?
    ค. อะไรคือเอกลักษณ์ในประวัติส่วนตัวของฉัน? อะไรคือประสบการณ์ชีวิตที่ทำให้ฉันมีเอกลักษณ์ และให้ความเข้าใจประสบการณ์และความปรารถนาแก่ฉันเป็นพิเศษ? อะไรที่ฉันสามารถทำได้เหนือกว่าธรรมดา?
    ง. อะไรคือเอกลักษณ์ของเวลาและสถานที่ที่ฉันอยู่? วิสัยทัศน์มักจะเกิดขึ้นโดยเป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ คนแต่ละคน ปัจจัยทางภูมิศาสตร์  บรรยากาศทางการเมือง ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ พื้นฐานทางวัฒนธรรมและปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย อาจมีส่วนด้วยทั้งนั้น อะไรก็ตามที่สามารถมีอิทธิพลต่อโอกาสของคนบันทึกไว้ให้หมด
    จ. ใครคือคนสำคัญที่ฉันได้ใกล้ชิด? ความสามารถพรสวรรค์ และสิ่งที่ชอบของคนที่คุณสามารถให้ความร่วมมือกับเขาอาจเป็นโอกาสที่คุณไม่ สามารถประสบได้โดยลำพังคุณเอง
    ฉ. ความต้องการอะไรที่ฉันอยากให้มันเป็นจริง? ความปรารถนาในสิ่งที่ต้องการสามารถจุดพลังให้วิสัยทัศน์
    ช. อะไรคือสิ่งยิ่งใหญ่ที่สุดที่ฉันใฝ่ฝันจะทำในชั่วชีวิตนี้? ทำตามขั้นตอนเหล่านี้ซ้ำปีละครั้ง หรือบ่อยครั้งเท่าที่คุณต้องการ บางทีคุณอาจจะพบว่าวิสัยทัศน์ของคุณเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ถ้าหลายปีผ่านไปวิสัยทัศน์ของคุณยังเหมือนเดิมเป็นวิสัยทัศน์ที่ใหญ่ ใหญ่เกินกว่าที่คุณคิดว่าจะพิชิตมันได้ แสดงว่าคุณกำลังเพ่งอยู่ที่วิสัยทัศน์ที่ดีในชีวิตคุณ คุณอาจจะพบวาหลายปีผ่านไปวิสัยทัศน์นั้นเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย หรือขยายใหญ่ขึ้น แต่มันจะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง

    2. หาเวลาสักสามสี่ชั่วโมง ทบทวนสภาพทางธุรกิจของคุณ เพื่อค้นหาวิสัยทัศน์ใหม่ๆที่คุณอาจไม่เคยคิดมาก่อน ทำตามคำแนะนำเหมือนกิจกรรมข้อ 1 หาสถานที่สงบๆและนำอุปกรณ์ที่จำเป็นด้วยบันทึกคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้
    ก.    อะไรคือความสามารถ พรสวรรค์ และทรัพยากรที่ฉันมีแต่ฉันไม่ได้ใช้?
    ข.    เอกลักษณ์ด้านเวลาและสถานที่ที่ฉันมีอยู่มีผลต่อธุรกิจของฉันอย่างไร?
    ค.    จากคำตอบของปัญหาข้างต้นทำให้ฉันมีโอกาสอะไรบ้าง?
    ง.    ถ้าไม่มีข้อจำกัดด้านทรัพยากร และฉันสามารถประสบความสำเร็จได้ อะไรคือเป้าหมายด้านธุรกิจของฉัน? โปรดจำไว้ว่า – ฝันให้ใหญ่
    จ.    ใครบ้างที่ฉันรู้จักซึ่งมีวิสัยทัศน์เหมือนฉัน? ฉันจะช่วยเขาได้อย่างไร และเขาจะช่วยฉันได้อย่างไร?

หมายเลขบันทึก: 42765เขียนเมื่อ 5 สิงหาคม 2006 12:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท