วันนี้เป็นอีกวันที่ชีวิตดำเนินต่อไป ตื่นตอนเช้าทำภาระกิจส่วนตัว แต่งตัวมาทำงาน และก็ปฏิบัติตามหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายแล้วตั้งแต่ต้นเทอม พอถึงคาบสอนเข้าไปสอนนักเรียนเหมือนอย่างเคย แต่วันนี้กลับรู้สึกว่า นักเรียนมีความกระตือรือร้นเป็นพิเศษ ผมได้คุยเกี่ยวกับการวางแผนชีวิตให้นักเรียนได้คิดว่า เขามีจุดประสงค์ในชีวิตอะไรบ้าง ใครมีความฝันอย่างไรบ้าง และตัวเองจะไปตามหาฝันของตนเองหรือไม่ ซึ่งนักเรียนก็มีหลายประเภท บ้างก็ตอบรับในโจทย์ที่เราตั้งให้ บ้างก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง เหมือนชีวิตของเขากำลังเป็นเรือที่ไม่มีหางเสือ วิ่งวนไปมาอยู่ในอ่าง หาจุดหมายปลายทางไม่ได้ อืมม น่าแปลกใจมาก ผมมามองดูตัวเองแล้วย้อน คิดไปเมื่อผมยังเป็นนักเรียนเหมือนเขา ผมเริ่มมีความคิดตั้งแต่สมัยที่ผมอยู่ ป.5-6 แล้วว่าจะดำเนินการอย่างไรกับชีวิตของตัวเองดี คือ ผมต้องศึกษาเล่าเรียน หาความรู้ให้กับตนเอง รู้เพียงเท่านี้ เพราะพ่อและแม่บอกว่าหน้าที่ของผมคือเรียนหนังสือ ผมก็ไม่ทำให้ท่่านเสียใจเลย เพราะผมก็เรียน เรียน จนในที่สุดก็ได้ทำงาน จนถึงปัจจุบัน
พอมามองดูนักเรียนที่เรียนหนังสือแล้ว ผมมองว่าสังคมทุกวันนี้เปลี่ยนไป พ่อแม่ไม่มีเวลาให้กับลูกๆ สถาบันครอบครัวเริ่มมีปัญหา ไม่มีการหันหน้ามาคุยกัน ปัญหาต่างๆ จึงเริ่มสะสมเข้ามาอย่างมากมาย ผมไม่ได้โทษว่าหลักสูตรไม่ดี ผมไม่ได้โทษที่นักวิชาการ แต่ผมคิดว่าเรามองข้ามปัญหาที่แท้จริงไป เรามัวแต่จะยกระดับผมสัมฤทธิ์ จนลืมไปว่า จะยกกันไปทำไม ในเมื่อเราไม่มีผลสัมฤทธิ์เสียด้วยซ้ำ เราจะต้องมาดูว่าจะพัฒนาระบบอย่างไร จะเปลี่ยนแนวความคิดของนักเรียนอย่างไร จะสกัดกั้นวัฒนธรรม อารยธรรมที่ไม่ดีอย่างไร เพราะเด็กเยาวชนทุกวันนี้ไม่มีภูมิคุ้มกัน เราน่าจะให้ความสนใจเรื่องนี้เสียมากกว่า นี้ก็เป็นความคิดของผมนะครับ แบบว่าปัญเจกบุคคล 5555
ไม่มีความเห็น