การแข่งขันกีฬาในโรงเรียนเพลินพัฒนาเริ่มมีขึ้นตั้งแต่ ปีการศึกษา ๒๕๔๘ จากเสียงเรียกร้องของพี่ชั้น ๗ นักเรียนมัธยมรุ่นแรก
ที่โรงเรียนแบ่งนักเรียนออกเป็น ๔ หมู่ ตามฆราวาสธรรม คือ
ปีนี้เป็นปีที่ ๗ ของการจัดการแข่งขันกีฬา ทางคณะกรรมการจัดงานได้ริเริ่มให้มีการจุดกระถางคบเพลิงในพิธีเปิดขึ้นเป็นปีแรก หลายคนเป็นห่วงกังวลเรื่องความปลอดภัย แต่อีกหลายคนยืนยันว่าไฟเป็นสัญลักษณ์ของความรัก และความเป็นหนึ่งเดียวกันของมวลมนุษยชาติ แต่เมื่อหาวิธีคลี่คลายความกังวลได้แล้ว ทุกอย่างก็ดำเนินไปได้ดั่งที่มุ่งหวัง
การเรียนรู้เรื่องของความเป็นหนึ่งเดียว ได้ถ่ายทอดผ่านเรื่องเล่า และการวิ่งคบเพลิงไปรอบสนามของนักกีฬาหลากรุ่น ได้รวมเอาสายตาทุกคู่ และรวมเอาความรู้สึกของใจทุกดวงเอาไว้ด้วยกัน ราวกับว่าหัวใจของเราทุกดวงเป็นหนึ่งเดียวกันฉะนั้น
ตำนานที่คุณครูอ้อ – วนิดา สายทองอินทร์ เล่าขานในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๕๔ มีความว่า
การแข่งขันกีฬา เป็นพิธีกรรมที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อให้เราผู้เป็นดั่งพี่น้องกลับมาพบกันอีกครั้งด้วยดวงใจอันเปี่ยมไปด้วยความรักและมิตรภาพ ดังที่ได้เคยเกิดขึ้นในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค กีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ กีฬาที่มีจุดกำเนิด ณ เมืองโอลิมเปีย เชิงเขาโอลิมปัส
นอกจากจะเป็นพิธีกรรมเพื่อการกลับมาพบกันของเราผู้เป็นดั่งพี่น้องแล้ว ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคนั้นยังมีสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการจุดคบเพลิง ซึ่งกระทำขึ้นเพื่อระลึกถึงเทพผู้ให้ชีวิต และความรักแด่เราทั้งผอง
และ ณ บัดนี้ เราทั้งหลายผู้เป็นดั่งพี่น้อง เราจะมาร่วมระลึกถึงรากเหง้าแห่งมวลมนุษยชาติ โดยข้าพเจ้า นางสาว วนิดา สายทองอินทร์ ทำหน้าที่เป็นผู้บอกเล่าตำนาน
พร้อมด้วยเหล่านักกีฬาจากช่วงชั้นที่ ๑ ทั้ง ๙ คน ที่ทำหน้าที่เป็นเทพีผู้เชิญไฟมาให้กับมนุษย์ ความอ่อนเดียงสานี้เปรียบดั่งมนุษย์คนแรกที่ยังอ่อนด้อยต่อโลกยิ่งนัก พวกเธอจะเป็นผู้อัญเชิญแสงไฟส่งต่อไปให้กับรุ่นพี่ที่คือตัวแทนของมนุษย์รุ่นแล้วรุ่นเล่าที่ค่อยๆ เติบโตกล้าแกร่งมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเราก็ค่อยๆ เหินห่างและหลงลืมกันและกันจนกลายเป็นเช่นคนแปลกหน้า แต่ ณ บัดนี้เราจะกลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง
ไม่มีความเห็น