อาหาร เครื่องดื่มสด ๆ มีไว้ดื่ม ไว้กินใน 1 วัน
ตู้เย็นทำให้อยู่ได้หลายวัน
แต่ถ้าไม่มีตู้เย็น ถ้าเรากิน เราดื่มไม่ไหว จิตใจก็ต้องนึกถึงการ "เผื่อแผ่" และการ "เจือจาน"
การเผื่อแผ่และเจือจานทำให้สังคมนี้น่าอยู่ขึ้น
เพราะคนในสังคมมีความเมตตา ความกรุณาต่อกัน
แต่ถ้ามีทางเลือกอื่นโดยเฉพาะตู้เย็น ตู้แช่ คนเราก็จะ "เก็บ" คนเราก็จะ "สะสม"
นอกจากเก็บของกินที่เป็นรูปธรรมแล้ว ก็ยังสะสมกิเลส สะสมความโลภไว้ในจิตใจอีกด้วย
เมื่อก่อนตู้เย็นเล็ก ๆ เก็บไม่พอ เดี๋ยวนี้หลายบ้านเปลี่ยนตู้เย็นให้ใหญ่ขึ้น
บางบ้านมีตู้เย็นหลายใบ...
การไม่มีตู้เย็นเลย มีประโยชน์ดังนี้ คือ ทำให้จิตใจเราสามารถสร้าง "เมตตาบารมี"
บางครั้งก็ต้องมีไฟท์บังคับกันบ้าง ไม่งั้นจิตใจของเราก็ชอบคิดเข้าข้างตนเอง นำเทคโนโลยีมาพัฒนาตน แต่ลืม "พัฒนาใจ"
เป็นสิ่งที่น่าคิดสำหรับสังคมไทย ว่าตู้เย็นเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อ "จิตใจที่ดีงาม..."
(ที่มาจากบันทึก ชีวิตที่เมืองลาว : 3 กุมภาพันธ์ 2554 "ตู้เย็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีเพื่อน...")
จริงด้วยครับ บางครั้งเราก็ลืมพัฒนาจิตใจตัวเองจริงๆ สมัยก่อนเราไม่มีตู้เย็น มีอะไรก็ต้องเผื่อแผ่เพื่อนบ้าน หรือไม่ก็ต้องแล่เป็นเนื้อปลาเเดดเดียว มิตรภาพระหว่างเพื่อนบ้านสมัยเมื่อยี่สิบปีก่อน กับปัจจุบันต่างกันมากครับ
มาอยู่ที่นี่เหมือนกับได้ย้อนอดีตกลับไปเห็นภาพเมืองไทยที่ครั้งยังเป็น "สยามเมืองยิ้ม..."
เทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้น ส่งผลทำให้คน "ยิ้ม" น้อยลง
ประการหนึ่งมาจากต้องดิ้นรนขวนขวายมาหาซื้อ "เทคโนโลยี"
ประการที่สองมาจากเทคโนโลยีที่กันเราให้ออกจากคำว่า "มิตรภาพ..."
เทคโนโลยีที่เราดิ้นรนไขว่คว้า ตามความหวังที่คนขายบอกว่าจะได้รับกลับมาซึ่ง "ความสุข"
เมื่อได้สิ่งนี้ ก็ต้องหาสิ่งนั้นเพิ่ม เมื่อมีไฟฟ้าก็ต้องหาเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่มีก็ทุกข์ ไหนเล่าคือ "ความสุข..."
คนเราเกิดมาก็ไม่มีอะไร แต่ทำไมจึงต้องดิ้นรนขวนขวายให้ได้ ให้มี
เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ "จำเป็น" ต้องมีในชีวิตหรือไม่
เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ทำให้คนเราเดินออกห่างความจริง
ความจริงของชีวิตที่ต้องมี "มิตรภาพ..."