รักเธอประเทศไทย ตอน ลิขิตของฟ้า


มาเพื่อที่จะความดี เพื่อจะกลับขึ้นไปข่างบนอีก

เมื่อวานนี้ มีการพยากรณ์อากาศว่าจะแย่ที่สุดในรอบสี่สิบปีของชิคาโก้

ว่าจะมีหิมะตกสูงถึงสองศอก

จะเป็นปรากฎการณ์ Wipe Out ลมจะะพัดแรง ๕๐ ไมล์ต่อ ชั่วโมง

ผมเองเกิดมาก็ไม่เคยเห็นว่ามันคืออะไร

มีคนเขาเล่าว่าถ้าเกิดขึ้นกับใครจะแย่มากๆ

เวลาขับรถ จะเห็นแต่สีขาว เหมือนเอาสีขาวมาทาท้องฟ้า ทาถนน

รถที่ผ่านมาก็เกือบจะมองไม่เห็น เห็นแต่เสาไฟฟ้าตามข้างถนน

เส้นถนนกลางถนน ไม่เห็นเลย เพราะหิมะปกคลุม

พอผมได้ยินอย่างนี้ก็ตั้งใจจะหยุดอยู่บ้าน

ไม่เคยที่จะคิดต่อสู้ปรากฎการณ์ของฟ้าดิน

เพราะเคยเจอภาวะ ฝนตกรถติด มาก่อน

ถ้าสู้ไม่ได้ก็ยอมแพ้เสียดีกว่า

หมดเรื่องหมดราว

 

แต่เอาเข้าจริงๆ เราหยุดอยู่บ้านก็จริงแต่ลูกสาวคนที่สองต้องไปทำงาน

คนที่เล่าให้ฟังบ่อยๆนั้นแหล่ะครับ

ลูกสาวคนโตกับลูกสาวคนที่สอง

สมัยที่ยี่กู๋มาทำพิธีช่วยทำพิธีให้แม่เมื่อเกือบจะยี่สิบปีที่แล้ว

ลูกสาวคนที่สามยังไม่เกิด

พอยี่กู๋เห็นลูกสาวทั้งสองคน ยี่กู้หยุดคิดหยุดพูดสักพัก มองตามลูกสาวทั้งสอง

ตอนนั้นเธอทั้งสองอายุประมาณสี่ห้าขวบ
แล้วพูดว่า

ลูกคุณสองคนเขาเป็นเทวดามาเกิด

ผมถึงกับ โห …... ถึงป่านนั้นเชียวหรือ

แล้วทำไมเธอไม่เลือกครอบครัวที่ดีกว่าเรา

รวยกว่าเรา ตอนมาเกิด

ตอนหลังๆ เวลาคุยกับลูกจะเล่าเรื่องนี้ให้ลูกฟัง

แล้วบอกลูกว่า เธอมาเกิดเป็นลูกพ่อ ด้วยเหตุผลประการเดียว

ประการเดียวเท่านั้น

คือมาทำความดีเพื่อที่จะกลับขึ้นไปข้างบนอีก

แต่ผมลืมไป เพราะไม่รู้

ท่านอาจารย์ ดร.สนอง เขียนไว้ว่าเวลาขอเทวดามาเกิดเป็นลูก

ต้องขอบริวารมารองตีนรองเท้าพวกเธอให้ลงมาด้วย

เพราะพวกนี้เวลาลงมาเกิด เศษบุญมันติดมาด้วยจากข้างบน

ไม่ต้องทำอะไร เสพแต่ความสุขความสบายแต่อย่างเดียว

เวลาตื่นนอนก็ไม่ต้องเก็บที่นอน มีคนเก็บให้

เวลาจะกินก็ไม่ต้องทำเอง มีคนหาไว้ให้

ว่ากล่าวตักเตือนแม้แต่จะน้อยนิด พวกเธอจะน้อยใจเป็นวันๆ

ถ้าเราลืมขอ บริวารของเธอให้ลงตามลงมาบริวาร

ตัวเราพ่อแม่หล่ะครับ จะต้องบริการพวกเธอ

 

เธอกลับจากที่ทำงานมาสามทุ่ม อากาศเริ่มเลวร้ายเหมีอนคำพยากรณ์

หิมะตกเกือบถึงศอกแล้ว อากาศหนาวยะเยือก มองออกไปบนท้องฟ้า

มีแต่หิมะโปรยปรายลงมา รถราเกือบไม่ได้เห็นผู้คนหลบเข้าอยู่ในบ้านกันเกือบทั้งหมด

ยกเว้นลูกสาวผม ยังขับรถอยู่ในถนน

คุณแม่เธอเริ่มเป็นห่วง โทรศัพท์ติดต่อกันเป็นระยะๆ

ว่าให้ขับรถระวัง เธอบอกมาว่าถนนพอขับได้ จะขับช้าๆ

อีกสักครู่หลังจากเธอโทรมา ก็แลเห็นรถของเธอขับเขาซอยหน้าบ้านเข้ามา

ทุกคนดีใจที่เธอกลับบ้านด้วยความปลอดภัย

ผมเตรียมตัวเปิดประตูบ้านให้เธอ

แต่ทว่า …....

รถของเธอมาติดหิมะที่หนาเป็นศอกหน้าบ้าน รถเข้าไม่ได้

และไม่มีทางเข้าได้จริงๆ เพราะหิมะหนามากๆ

รถจะถอยก็ไม่ได้ จะขึ้นหน้าก็ไม่ได้ จะทำอย่างไรดี

ผมแต่งตัวใส่เสื้อหนาวเสร็จ เดินไปที่รถ บอกลูกสาวว่า

พ่อจัดการเอง ลงจากรถไปพักผ่อนข้างในบ้านเถอะ

ลูกสาวปิดเครื่องยนต์ ยื่นกุญแจให้พ่อ

บอกคำเดียวสั้นๆ แต่ระลึกในบุญคุณของพ่อว่า

Thank You …. Dad

แล้วเดินลงจากรถเข้าบ้าน

ผมถึงแม้จะขี้เกียจและแสนจะขี้เกียจ ก็ต้องหยิบมือกวาดสโนว์

ครับ เอาไปขุดสโนว์ที่หนาเป็นฟุต เพื่อที่เอารถเข้ามาจอดหน้าบ้าน

มีเครื่องขุดสโนว์ แต่เครื่องไม่ใหญ่พอสำหรับปรากฎการณ์ครั้งนี้

ใช้เวลานานประมาณเกือบชั่วโมง

ลูกสาวเห็นพ่อ แล้วสงสารพ่อพ่อ ออกจากบ้านลงมาช่วยกันขุด

ขุดๆๆๆๆๆๆๆ

ผู้เป็นแม่เห็นไม่เสร็จเสียที ลงมาช่วยด้วย บอกเธอจะขับรถยนต์เข้ามาเอง

เนื่องจากขุดสโนว์มาเป็นชั่วโมงแล้ว เริ่มเห็นทางหน้าบ้าน

รถเข้ามาจอดหน้าบ้านได้ด้วยความสวัสดีภาพ

 

เลยมาคิดได้ว่า จริงอย่างที่อาจารย์ ดร. สนอง เขียนบอก

ตอนขอเธอมาให้มาเกิด ไม่น่าลืม

น่าจะขอบริวารรองตีนรองเท้าของเธอให้ตามลงมาด้วย

จะได้ไม่ต้องลำบากอย่างนี้

เฮ้อ! ได้พูดแล้วค่อยโล่งใจไปหน่อย


Reuters – Cars sit abandoned on Lake Shore Drive as crews work to re-open the roadway in Chicago, February 2, 2011. …        

คำสำคัญ (Tags): #หิมะ
หมายเลขบันทึก: 423838เขียนเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2011 07:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 18:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

ขอบคุณคุณยายและคุณบีเวอร์ที่แวะมาเยี่ยมครับ

 

 

สวัสดีค่ะ ชื่นใจแทนลูกสาวของคุณคนบ้านไกลจังค่ะ มีคุณพ่อคุณแม่ที่น่ารักแบบนี้ ในฐานะลูกคนหนึ่งขอขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ที่น่ารักค่ะ..อากาศดีขึ้นหรือยังคะพักนี้ รักษาสุขภาพค่ะ

สวัสดีครับคุณปริม

ขอบคุณที่เป็นห่วง

ส่ง HomeMade Pizza มาให้ทำโดยลูกสาวคนโตครับ

สวัสดีค่ะ คุณคนบ้านไกล เอาจาก blog mepole มา paste ในนี้ด้วยกลัวคุณไกลบ้านไม่ได้ตามไปอ่านค่ะ

เมื่ออ่านแล้วรู้สึกจิตจะไม่ผ่องใสขึ้นมาทันที มีงานค้างคะแนนเด็กอีก 1 วิชา แต่จัด priority แล้วต้องตอบก่อนค่ะ

ได้อ่านบันทึกของคุนใบไม้ร้องเพลง เช่นกันค่ะ ก่อนที่จะเข้ามาที่บล็อกของตัวเอง อ่านจบไม่ได้เขียนตอบ แต่ตอบตัวเองเรียบร้อยว่า ทุกอย่างขึ้นกับใจที่จะเป็นตัวกำหนด ของ meepole มีกิเลสมาวางให้เห็นบ่อยๆชวนเข้า facebook  hi5 ไม่เอาทั้งนั้น twitter ก็ไม่เป็น chat โบราณ เคยตอบเพื่อน 3 ครั้งที่เข้ามาพอดีตอน mail นอกนั้นปฏิเสธหมดค่ะ แม้กระทั่งเจ้า blog นี่ แต่เพราะสามีไปปฏิบัติธรรม 1 เดือน เขาเลยห่วงเราว่าจะเป็นปูเสฉวน ก็เลยลงทะเบียนให้มาเขียน blog เพราะมองว่าเป็นด้านวิชาการมากที่สุดแล้ว ทั้งๆที่ไม่ไช่สิ่งที่ตั้งใจมาก่อน ถ้าคุณบ้านไกลย้อนไปอ่านครบ 1 เดือนของการเขียนของ meepole ก็จะเข้าใจค่ะ แต่เมื่อเข้ามาเขียนแล้วด้วยความคิดขณะเขียนได้ตั้งใจไว้  ว่า

เขียนเพื่อถ่ายทอดแลกเปลี่ยน สุขใจที่ได้ให้ความรู้ ประสบการณ์ การเก็บเกี่ยวของคนที่เข้ามาเป็นกำไรบุญของเรา หากเขาได้รับสิ่งที่เราตั้งใจให้ แม้กระทั่งการสละเวลาให้กับสังคมในนี้ (เพราะปกติจะมีงานเขียนที่จะส่งค้างมากมาย)  และ

เขียนเพื่อฝึกฝนตนเอง ในทุกด้าน

ปกติแล้ว meepole  จะ frame ตัวเองมากและมีโลกส่วนตัวที่ขอเลือกทุกอย่าง จึงเลือกที่จะไม่ออกหรือเปิดตัวกับสังคมและผู้คนที่วุ่นวาย หากจำเป็นโดยหน้าที่การงานก็จะออกแล้วอยู่นิ่งๆ มองเท่าที่เห็น แต่เมื่อเข้ามาใน GTK นี้ก็ได้พบปะผู้คนหลากหลาย ได้เรียนรู้ผ่านการเขียน แต่ยังสามารถมองเห็นความจริงบางอย่างจากข้อเขียนได้เช่นกัน บางคนเคยรู้จักอ่านข้อเขียนแล้วดูคนที่ติดตามอ่าน ก็เรียนรู้เช่นกันว่าบางคนเขียนเรื่องเก่ง บางคนเก็บแต่กาก หลายคนมองที่เปลือก หรือไม่ต้องมองอะไรเลยเพราะไม่ได้เข้ามาเพื่อเรียนรู้

แต่ในขณะเดียวกัน meepole ได้สิ่งดีๆจากในนี้เช่นกัน มี 2-3 คนที่ meepole ได้ตามอ่านแล้วเกิดประโยชน์ในด้านความคิด มีการดำเนินชีวิตที่มีเส้นทางที่สอดคล้องกัน สามารถลปรรกันได้ ในนี้รวมคุณบ้านไกลด้วย นี่เป็นประโยชน์ค่ะ

จึงเป็นการน่าเสียดายมากหากมิตรจากทางไกล จะตัดตัวออกไปจากสังคมนี้ meepole เคยคิดเช่นนี้เช่นกันเพราะต้องให้เวลากับการเขียนแม้ว่าจะใช้เวลาไม่มากนักก็ตาม แต่ก็กลับมาคิดว่าการให้ความรู้ โดยการค่อยๆเติมความคิด หลักธรรม เป็น soft approach ที่ดีโดยเฉพาะในสังคมที่มีการศึกษาในระดับหนึ่ง เหมือนดอกบัวในเหล่าที่สอง สาม และไกล้สี่ หากช่วงใหนไม่มีเวลาว่างมากก็สามารถเข้ามาได้เดือนละครั้ง

อย่างน้อยดิฉันขอบอกความตั้งใจที่เกิดหลังจากการอ่านท่องไปในข้อเขียนของคุณ ทำให้ตัดสินใจจะไปที่วัดถ้ำตองในช่วงปิดเทอม ชวนเพื่อน 3 คนที่สนิท ทุกคนแปลกใจด้วยเหตุผลหลายอย่าง แต่ขอเรียนคุณคนบ้านไกลว่าสิ่งที่คุณได้เขียนได้บังเกิดผลในการกระตุ้นให้ดิฉันออกจาก frame บางอย่างไปในที่ๆดิฉันขอเลือกแล้วเลือกอีกมานาน แต่จะขอหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยค่ะ

ที่เขียนมายาวมากเพื่อให้เห็นว่าสิ่งที่คุณได้ให้เวลาในการเขียนไม่ได้เปล่าประโยชน์ เป็นอีกวิธีของการปฎิบัติธรรมคือการให้ธรรมะ เช่นกันค่ะ

แต่สุดท้ายคงต้องเคารพในการตัดสินใจอีกครั้งของคุณ แต่หากจะหยุดจริงๆขอให้ช่วยบอกก่อนนะคะ

สวัสดีครับคุณ Mee_Pole

ถามภรรยาแล้ว ภรรยาอนุญาตให้เขียนบล็อกต่อไป 

ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ

สวัสดีค่ะ

         อ่านบันทึกนี้แล้วครูดาหลาคิดถึงลูกสาวคนเล็กที่อยู่นิวยอร์คมากต้อง

เผชิญกับพายุหิมะ  ขับรถออกไปทำงานไม่ได้ต้องขุดหิมะด้วยตัวเองฯลฯ

        โทรมาเล่าให้แม่ฟัง  แม่ยังไม่เข้าใจว่ามันหนาวเย็นขนาดไหน  เมื่อมาอ่าน

บันทึกนี้จึงรู้ว่าลำบากมาก  คุณคนไกลบ้านยังมีโอกาสได้ช่วยและดูแลลูก

         คนที่ไปอยู่เมืองนอกแล้วไม่อยากกลับมาเมืองไทย คงจะจริงนะคะ     

                                  

                                  มีดอกยี่โถจากบ้านครูดาหลามาฝากค่ะ 

สวัสดีค่ะ Ico48 แวมาอ่านมาชื่นชมภาพหิมะตามคำเชิญค่ะ...ชื่นใจแทนลูกสาวนะคะ มีคุณพ่อคุณแม่ที่น่ารักแบบนี้ ...หิมะที่นี่หนาไม่มาก แต่ปลายเดือนนี้จะไป Edmonton อากาศหนาวกว่ามาก วันนี้ทุกแห่งก็คงจะถูกปกคลุมด้วยหิมะแ­ล้ว..ขอบคุณค่ะ

  • ขอบคุณ "คุณน้องคนบ้านไกล" ค่ะ ที่เทียบเชิญให้มาดูหิมะ ขาวสวยมากเลยค่ะ
  • และได้ตามไปอ่าน Link ที่ยังไม่ได้อ่านด้วย
  • เป็นเรื่องราวที่ น่าศึกษามากค่ะ
  • ภาคภูมิใจแทนสมาชิกในครอบครัวที่มีคุณพ่อที่เป็นที่พึ่งได้ทั้งทางกาย ใจ และจิตวิญญาณ เช่นนี้

 

ลูกๆ ที่บ้านก็เริ่มจะเป็นแบบคุณคนบ้านไกล นี่หล่ะค่ะ เด็กๆ สมัยเลี้ยงยาก ว่ามั้ยค่ะ

ทำอย่างไรจะเลี้ยงลูกให้ได้ดี ช่วยแนะนำหน่อยนะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท