การทดลองเกษตรที่ล้มเหลวบนแนวทางของตนเอง


จากบล็อกที่ผ่านมาได้พูดถึงปลูกผักกาดและขายได้กำไรเล็กน้อยแล้ว ถือว่าไม่ขาดทุนล่ะกับต้นทุนที่ลงไป แต่ที่ผมได้ทดลองควบคู่กันไปกับการปลูกปกติมาปลูกลงกระถางรางหมูแบบพลาสติก อะไรเป็นเหตุให้ปลูกแบบนี้มันมีเหตุผลหลายๆ อย่างขอลีสต์เป็นข้อๆ ล่ะกัน

1.  ทดลองการปลูกผักกาดลงภาชนะที่มีพื้นที่จำกัด ความลึกของดินจำกัด
2.  ทดลองเรื่องดินว่าดินผสมตามความคิดผมเองมีส่วนการเจริญเติบโตแค่ไหน
3.  ทดลองเรื่องของแสงแดด ที่มีการควบคุมแสงให้น้อยลงมา
3.  ทดลองเรื่องของน้ำ ความชื้น เพราะเป็นกระถางแบบไม่มีที่ระบาย

ทุกอย่างที่ทดลองนี้เป็นการทดลองแบบบ้านๆ ไม่ได้มีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์แต่อย่างใด และการทดลองนี้ก็ควบคู่ไปกับการหว่านลงดินและมีแสงพอเพียง ตัวควบคุมในการทดลองครั้งนี้ได้ทดลองเรื่องแสงเป็นหลัก เพราะจากการหาข้อมูลนั้นเขาบอกตามหลักวิชาการว่าผักกาดนั้นไม่ชอบแสงมากเท่าไร ก็เลยใส่กระถางรางหมูแล้วนำไปตั้งที่มีแสงลดลง

การปลูกลงดินปกติ จะได้รับแสงตั้งแต่เวลาประมาณ 7 โมงเช้าจนถึง บ่าย 4 โมงเย็นผมให้การปลูกลงดินนั้นเป็นการได้รับแสง 100% ของวัน  ส่วนการปลูกในกระถางรางหมูนั้นแสงจะโดนเต็มๆ ตั้งแต่  7 โมงเช้าจนถึงเวลา 11 โมง คิดแล้วก็ได้รับแสงประมาณ 40% ของวัน ช่วงบ่ายจะไม่ได้โดนแสดงแดดเลยจะอยู่ในร่มแทน

ความชื้นของดินวัดโดยนิ้วมือ เอานิ้วมือกดๆ ผักกาดที่ปลูกในแปลงกับที่ปลูกในกระถางรางหมู ระยะเวลาปลูพร้อมกัน แต่ต่างกันตรงเวลาที่ห่างกันไม่เกินชั่วโมง  ส่วนผสมของดินนั้น แปลงปลูกปกติใส่แค่แกลบลงไปเท่านั้นตอนหว่าน  ส่วนดินในกระถางรางหมู ใช้ดินบริเวณแปลงปลูกผสมแกลบ ผสมเศษใบไม้แห้ง(ใบมะปราง) และใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ลงไปเล็กน้อยเรียกว่าบำรุงเต็มที่อย่างนั้นเหอะ

คราวนี้มาดูภาพดีกว่าล่ะครับจะอธิบายได้เยอะเลลยทีเดียว

ภาพข้างล่างนี้เป็นกระถางรางหมูที่ว่าและเป็นดินผสมตามที่บอกคือ แกลบ+ใบไม้แห้ง+ปุ๋ยหมักเม็ด



ผักกาดกวางตุ้งต้นหว่านตามลงไปพร้อมกับรดน้ำ ซองละ 10 บาท หว่านลงไปนิดเดียวเองยังไม่ถึงครึ่งซองเลย เป็นเมล็ดชนิดเดียวกันที่หว่านในแปลงปกติ



สรุปผลเลยล่ะกัน การปลูกผักกาดแล้วโดนแสงแดดประมาณ 40% ต่อวันในช่วงเช้ามีผลอย่างมาก จะว่าไปแล้วผักกาดสามารถทนแสงแดดได้ดีทีเดียว แต่ความชื้นในดินต้องมีมาก เรียกว่ามากก็ว่าได้ ถ้าถ้าได้แสงแดดเพียง 40% ต่อวันก็จะมีผลอย่างรูปข้างล่างนี้ล่ะครับ



ก้านต้นยาวไปเลย ในขณะที่แปลงปกตินั้นก้านสั้นและแตกใบที่สองแล้ว จึงจัดการถอนต้นผักกาดทิ้งไปแล้วถ้าปล่อยไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นมาเพราะก้านต้นยาวไปแล้ว หลังจากถอนต้นผักกาดออกไปแล้วก็ได้ทำการนำเมล็ดผักกุ้ยฉ่าย มาลงแทน ณ เวลานี้ผ่านมา 2 สัปดาห์แล้วยังไม่มีทีท่าว่าเมล็ดจะขึ้นแต่อย่างไร จากข้อมูลที่ค้นมาเขาบอกว่า 10 วันก็จะแตกเมล็ด  1 เดือนก็จะขึ้นเป็นต้นประมาณ 2-3 ซม.แล้ว



แต่จากการทดลองมา ไม่ประสบผลสำเร็จในการใช้วิธีหว่านจากเมล็ด  สงสัยต้องกลับไปใช้วิธีเดิมๆ คือแยกกอซะแล้วล่ะวิธีนี้ได้ผลชัวร์แต่ผมอยากลองโดยวิธีอื่นบ้างล่ะ ถ้ามันไม่มีผลอะไรในเวลา 1 เดือนก็ว่าจะลองผักกาดกวางตุ้งต่ออีกครั้ง คราวนี้จะให้แสงแดด 100% เหมือนการปลูกในแปลงแต่จะทดลองในเรื่องของน้ำและปุ๋ย..... ว่าจะมีผลมากน้อยแค่ไหน ถ้าได้ความคืบหน้าในการทดลองอย่างไรเดี่ยวจะนำมาเขียนบล็อกอีกครั้งนึงล่ะครับ

หมายเลขบันทึก: 419448เขียนเมื่อ 10 มกราคม 2011 19:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ขอบคุณค่ะ..ได้ทดลองปลูก ผักกาดฮ่องเต้ ลงกระถาง..ผสมดินเองโดบใช้ปุ๋ยอินทรีย์สำเร็จรูปที่มีขายเป็นถุง..น้ำชุ่มและถูกแสง 100%..งามดีพอควร..กำลังจะแยกกระถางค่ะ..

                     ต้นกล้าผักกาดฮ่องเต้ อายุ ๒๐ วัน

 

ผักงามดีจัง ผมก็ชอบปลูกผักกาดฮ่องเต้อยู่เหมือนกัน แต่แถวนี้หาซื้อเมล็ดยากพอสมควรล่ะครับ ตอนผมไปซื้อเมล็ดผักกาดนั้นเขาบอกว่าฮ่องเต้หมด ขาดตลาดสักระยะเป็นอย่างนั้นไป

ต่อไปผมจะทดลองปลูกในกระถางให้ได้ผลล่ะครับ ตอนนี้อยู่ในช่วงลองผิดลองถูก ทดลองเรื่องต่างๆ หรือผมต้องลองเปลี่ยนกระถางเป็นกระถางดินเผาดีหรือเปล่าเนี่ย

สวัสดีคุณtemus (ขออภัยไม่ถนัดเรื่องภาษาอังกฤษเลย  จึงไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร)  วิธีการทดลองปลูกผักของคุณน่าสนใจนะ  โดยเฉพาะวิธีปลูกในรางหมู เพราะวิธีนี้จะช่วยให้ประหยัดเนื้อที่ได้ดี  แต่ที่ผักในรางหมูของคุณยืดยาวเพ่นพ่านนั้น เพราะ มันต้องการยืดตัวออกไปรับแสงแดด  เนื่องจากธรรมชาติของผักสวนครัวแทบทุกชนิดต้องการแสงแดดจัดในการเจริญเติบโต โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ  ปุ๋ย (อาหาร)  น้ำ   แสงแดด  คือปัจจัยสำคัญในการเจริญเติบโตของผัก  หรือพืชทั่ว ๆ ไป

ขออนุญาต แสดงความคิดเห็นนะ  การปลูกผักสวนครัว ไม่ว่าจะปลูกแบบใด หากเราได้ศึกษาถึงธรรมชาติของผักชนิดนั้น ๆ ประกอบกันไป จะช่วยให้เราพบวิธีการในการปลูกได้ดียิ่งขึ้น   อีกประการหนึ่ง  ดินผสมที่คุณคิดค้นขึ้นนั้น นับว่ายอดเยี่ยมมาก เพราะเป็นสูตรเฉพาะ  ประหยัด และมีประโยชน์  แต่ไม่ทราบว่าคุณนำแกลบ  ใบไม้ และปุ๋ยหมักเม็ดนั้น  คุณได้นำมาหมักรวมกันก่อนหรือไม่  หากไม่ได้นำมาหมักรวมกันไว้ก่อนนำไปเป็นดินปลูก  รากของผักก็จะใช้ประโยชน์จากดินได้ไม่เต็มที่  เพราะผักสวนครัวอายุสั้น อย่างมากก็ 45 วัน โดยประมาณ  การย่อยสลายของแกลบและใบไม้ ยังไม่ทันจะได้ที่ ผักก็จะได้อายุเก็บเกี่ยวก่อนแล้ว  อาจจะทำให้ผักขาดธาตุอาหารได้  ไม่โตเท่าที่ควร  ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นเฉพาะตัวเหมือนกันนะ  คุณคัดค้านได้เลย   ยังไงก็ยังเอาใจช่วยคุณนะ อย่าเพิ่งท้อถอย  เดินหน้าต่อไป   ขอบคุณ

ขอบคุณคุณมะเดื่อมากๆ เลยครับ ผมลืมนึกถึงเรื่องการหมักดินไปด้วยเลย เคยชินแบบนี้เลยลืมไป แต่ก็ได้ความรู้เรื่องแสงแดด ล่ะครับ แต่ก็จะทดลองไปเรื่อยๆ ลองผิดลองถูกตามแนวทางแปลกๆไปเรื่อยๆ

อยากทราบว่าถ่าเราได้แยกแสงออกเป็นแต่ล่ะสีแล้ว

เช่นเราเอาพลาสติกสีมากั้นแล้วทำให้แสงที่ส่องเข้าไปยังพืชนั้น

เป็นสีต่างๆที่เราต้องการ

อยากทราบว่าแสงแต่ล่ะสีนั้นมันจะมีผลต่การเติบโตของพืชหรืออย่างไรค่ะ

ช่วยตอบคำถามหน่อยค่ะ    ขอบคุณค่ะ

เรื่องสีนี่ไม่แน่ใจเหมือนกันครับผ้าที่คลุมทั่วไปนั้น เป็นปริมาณแสงเท่าที่รู้ ว่าแสงรอดเข้ามาได้กี่เปอร์เซนต์เท่านั้นเอง แต่ถ้าเอามาคลุมนั้นยังไม่ได้ลองเหมือนกันครับ ถ้ามีโอกาสลองทำเดี๋ยวจะนำมาลงให้อ่านต่อไปครับ

ได้ทดลองในลักษณะคล้ายกัน โดยใช้กระถางคล้ายกันมีอยู่วันหนึ่งฝนตกลงมาปรากฎว่าน้ำขังเพราะไม่มีที่ระบายน้ำ ตื่นเช้ามาผักสลบ และเน่าในที่สุด

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท