คณะที่ไปจัดแสดงนิทรรศการและประชาสัมพันธ์ งานศิลปหัตกรรมฯ(ศึกษาบันทึกที่นี่) ชวนไปศึกษาดูงานที่หนองคาย แต่ผู้เขียนจองตั๋วกลับเวลา ๑๓๕๕ น จึงจำใจสละสิทธิ์
“ อยากไปดูที่มีเศียรพญานาคใหญ่ๆ เคยเห็นแต่ในภาพของ Johannes ดูเหมือนจะอลังการมากเลย อยู่ที่ไหนนะ ” เอ่ยถามพร้อมบอกความต้องการของตน
“ ระหว่างทางไปหนองคายนี่แหละ เรียกว่าศาลาแก้วกู่ ห่างจากอุดรประมาณ ๕๐ กม ไปด้วยกันก็ได้ แต่ต้องนั่งรถโดยสารกลับมาที่นี่เอง ใช้เวลา ๑ ชั่วโมงก็ทันค่ะ ” น้องตุ๊ก สาวหนองคายบอกกล่าว-แนะนำ
" ใช่ว่าจะมีรถโดยสารไป-มาสะดวกนะ พี่ว่าเสี่ยงเกิน ไม่น่าจะกลับมาทัน ยกเว้นใช้รถส่วนตัว " พี่แต สาวอุดรฯ ปัจจุบันไปได้ดีอยู่ขอนแก่น วิเคราะห์สถานการณ์
จริงๆก็มีพี่แต๋ว พี่สนิทสอนภาษาญี่ปุ่นอยู่ที่อุดรฯ อีก ๑ คน แต่การมาครั้งนี้ไม่ได้บอกกล่าวเพราะเกรงว่าเวลาไม่พอเพียง คราวก่อนพี่เขายังพาไปเที่ยว หลายแห่งและเลยไปถึงสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่หนองคายโน่นแน่ะ
*** การมาครั้งนี้ตั้งใจมาช่วยงานจริงๆ จึงไม่ได้เผื่อเวลาไว้เที่ยวชมอย่างอื่น แต่หากมีความเป็นไปได้ก็อยากจะไปเหมือนกัน ***
" นี่เธอจะให้รับไปสนามบินด้วยกันหรือเปล่า " คุณพี่ X มาปฏิบัติราชการกับอีกคณะฯหนึ่ง พักที่โรงแรมบ้านเชียง ส่งเสียงมาทางสายโทรศัพท์
" ก็มารับหน่อยซิคะ " ตอบแบบขอร้องอยู่ในที
" ประมาณเที่ยงแล้วกัน เช้านี้จะไปเที่ยวไหนหรือเปล่า " ถามด้วยความสงสัย
" จะไปไหนได้ล่ะคะ ไม่มีปัญญากลับมาให้ทัน แต่ไม่เป็นไรเพราะซื้อการ์ดเล่นอินเทอร์เน็ตไว้ ๒๔ ชั่วโมง " Centara Hotel ตั้งราคาขูด เอ๊ย ราคาบริการแขกผู้ต้องการใช้อินเทอร์เน็ต ๕๓๐ บาท ทั้งๆที่ตนเองก็มีใช้ฟรี ๒๐ ชั่วโมง/เดือน แต่ไม่ได้ใช้อีกเช่นกันเพราะติดขัดขั้นตอนบางอย่าง ที่ยังไม่มีโอกาสไปเคลียร์เสียที
พี่เบิ้ม & พี่ X
“ นี่ตกลงน้องกลับเที่ยวบินเดียวกับพี่ X นี่นา เดี๋ยวพี่จะไปรับแล้วกัน แล้วจะให้ไปรับที่ไหนนะ ” พี่เบิ้มโทรฯมาจากขอนแก่น ซึ่งมีกำหนดเดินทางกลับอุดรฯเช้านี้
“ ที่โรงแรมซิคะ ”
“ ไม่ไปเที่ยวที่ศาลาแก้วกู่แล้วเหรอ ”
“ ไม่ไปแล้วค่ะ เพราะกลัวไม่ทันเครื่อง ”
“ ทำไมจะไม่ทัน พี่ไปรับที่โน่นก็ได้ ใช้เวลาเพียงแค่ ๓๐ นาทีเอง ”
“ เย้….. ได้ไปแล้ว ”
ตรวจสอบเวลามีเหลืออยู่ ๑๕ นาทีก่อนคณะฯจะออกเดินทาง รีบหยิบฉวยสิ่งของบางอย่างใส่กระเป๋าเดินทางแบบเร่งรีบก่อน รูดซิปปิดปากกระเป๋า คว้าเข็มขัดมาร้อยหูกางเกงแบบลวกๆ เมื่อประตูลิฟต์เปิด จึงกวาดสายตามองหาคณะฯในล็อบบี้พร้อมลากกระเป๋าปุเลงๆไปทางห้องอาหาร ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งก็กดหาหมายเลขโทรศัพท์ของคณะฯ
“ ฝากกระเป๋าก่อนไหมครับ แล้วค่อยไปห้องอาหาร ” เบลล์บอยสืบเท้าเข้ามาสอบถาม คงหวั่นว่าผู้เขียนจะลากกระเป๋าเข้าห้องอาหาร
“ ก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน แต่ขอโทรศัพท์ก่อนนะ ”
“ คิดไว้แล้วว่า มีหรือที่คนอย่างเธอจะไม่ได้ไป ” คุณพี่แต้เอ่ยด้วยน้ำเสียงขบขัน
ไม่ได้ศึกษามาก่อน ว่ามีอะไรให้ชมบ้าง แต่ปฏิมากรรมจำนวนมากที่ปรากฏให้เห็นเมื่อก้าวสู่สถานเทวาลัยแห่งนี้(ศึกษาประวัติได้ที่นี่) กระตุ้นให้หัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น โอ้โฮ..... มีสิ่งให้ศึกษามากมายกว่าที่คิด ครั้งแรกนึกว่ามีเพียงเศียรพญานาค เท่านั้น
ผู้เขียนยืนอยู่ตรงฐานแทบจะมองไม่เห็น จึงขยายภาพใหญ่ให้ชม
“ คนมีบุญเท่านั้นถึงจะได้มาที่นี่ ” ผู้ดูแลสถานเทวาลัยแห่งนี้ เอ่ยบอกอย่างศรัทธาในสถานที่ และอธิบายเพิ่มเติมถึงประวัติ-ขั้นตอนและแรงบันดาลใจในการปั้นรูปแต่ละปาง
หากจะศึกษากันอย่างละเอียดคงต้องใช้เวลานานพอดู จึงได้แต่ถ่ายภาพเก็บไว้ก่อนเป็นที่ระลึกในเวลาที่ค่อนข้างจำกัด
“ เกิดวันอังคารต้องใช้สีเหลืองอำพัน ” ผู้ดูแลสถานเทวาลัย แนะนำ เมื่อเห็นผู้เขียนเลือกเครื่องประดับมงคลสีดำถือไว้ในมือ
“ ชอบแต่สีดำ หากต้องเลือกเมื่อใดจะเลือกแต่สีดำทุกครั้งไป ”. ผู้เขียนเอื้อนเอ่ยบอกนิสัยของตน
“ สีดำหมายถึงพลังอำนาจ แต่หากอยากร่ำรวยต้องสีเหลือง ” ผู้ดูแลเสริมข้อมูลด้านความเชื่อ
“ ฉันให้เธอ ขอให้มีความสุข ประสบผลสำเร็จและร่ำรวย ”ผู้ดูแลผูกเชือกสีเหลืองที่ผ่านพิธีปลุกเสก มาแล้วให้ที่ข้อมือ “ โอ นี่มันลายมือของผู้ร่ำรวยทรัพย์สินเงินทองนี่นา ”
แปลกใจระคนตื่นเต้นและกังหาถึงความเป็นไปได้ " เป็นครูประเภทไม่ยอมหารายได้อื่นๆเสริมเช่นนี้ " จะรวยได้ไง
“ พวกเรา ๓ คนจะรวยกันใหญ่แบบไม่รู้ตัวเลยนะ ” คุณลักษณ์ เสริมคำกล่าวของผู้ดูแลฯ หลังจากได้รับฟังคำทายทักของเธอ
“ จะรวยทั้งที ขอรู้ตัวหน่อยไม่ได้เหรอ ” เอ่ยแซวเล่นตามประสาฯ
พระอุโบสถวัดโพธิ์ชัย
น้องตุ๊กเร่งรัดให้คณะฯเคลื่อนขบวนเมื่อเวลาล่วงเลยไปเกือบ ๑ ชั่วโมง เพื่อจะไปกราบหลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดหนองคาย ซึ่งอยู่ไม่ห่างกันนัก
หลวงพ่อพระใส
ได้พบพี่เบิ้มและพี่ X เพิ่งเดินทางมาถึงได้ไม่กี่อึดใจ จึงเดินขึ้นไปกราบหลวงพ่อพระใส ที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถวัดโพธิ์ชัย ด้วยกัน
หลวงพ่อพระใสหรือหลวงพ่อเกวียนหัก เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิรูปขัดสมาธิราบปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสีสุก มีพระรูปลักษณ์งดงาม พุทธศาสนิกชนตลอดทั้งสองฟากฝั่งแม่น้ำโขง ให้ความเคารพศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างมาก (ศึกษาประวัติได้ที่นี่)
ผู้เขียนไหว้ลาคณะฯ ขึ้นรถไปกับพี่ X โดยมีพี่เบิ้มเป็นสารถีนำพากลับสู่อุดรฯ และเลี้ยงอาหารกลางวัน ณ ร้านประจำที่ถนัดทำอาหารเจให้ลูกค้าคนสำคัญเช่นพี่เบิ้ม ก่อนไปส่งที่สนามบิน
อาหารเหนือปรุงแบบอาหารเจ
อำลาอุดรธานี ( UD TOWN) ส่งท้ายปีอย่างสุขสันต์ สุขที่ได้ทำงานจิตอาสา....สรวลสันต์ที่ได้พบปะเพื่อน-พี่ผู้มีอุดมการณ์เดียวกันและเที่ยวชมสถานที่ที่ใฝ่ฝันอยากไปเยี่ยมชม
พระบรมธาตุธรรมเจดีย์ วัดโพธิสมภรณ์ (ศึกษาได้ที่นี่)
จบท้ายด้วยภาพ.....ประทับใจของคนน่ารัก (ด้านขวา) ขอขอบคุณผู้เข้ามาเยี่ยมชมทุกท่านด้วยใจจริงค่ะ !
( เชิญชมภาพเพิ่มเติมจากสไลด์)
สุขสันต์ปีใหม่ครับลูกทูลหัว
อิจฉาจัง เจอน้องเป้ด้วย อิอิอิ
ชอบ อุดร หนองคายมั้ยคะ
มีความสุขมากๆๆตลอดปีนะคะ
สวัสดีปีใหม่ครับ มีความสุขมากๆ ครับ
(ลบข้างบนด้วยครับ Enter ค้าง)