มีเรื่องราวดีดีน่าสนใจนะคะ
นึกถึงหลายๆ เรื่องจากบันทึกท่านรองฯ ล้วนเกี่ยวข้องกับ การยึดติดใน อำนาจ ศักดิ์ สิทธิ์ ในสังคม นะคะ
ความรุนแรงจึง ยังคงซุกซ่อนอยู่ทั้งแบบเปิดเผย เต็มใจ ไม่ว่าด้านเพศ ปัญหาที่ไม่น่าเกิดขึ้น . น่าสนใจค่ะ
ส่งกำลังใจแด่ แฟมิลี่แมน แดนตราด เห็นภาพนี้แล้ว ใช่เลยค่ะ คุณพ่อของเด็กม. ๔ :)
“ครู” “ความรู้” “เครื่องแบบ” “ตารางสอน” “ห้องเรียน” “โรงเรียน"
ดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่เป็นจริงที่ว่า..
มีความรุนแรงแฝงอยู่ในทุกเรื่องเหล่านี้..ขั้นอยู่กับสถานการณ์
"สวัสดีปีใหม่(ล่วงหน้า)" คุณ small man..(.หากเรา..เรียนรู้..งานวิจัย..ที่น่าสนใจ..เมื่อมี คำว่า "รู้" "เรียน" คำว่าฝึกฝน..หมั่นเพียรปฎิบัติมิได้ทิ้งอยู่แต่ใน"ข้อเขียน"..)..คงมีสักวันหนึ่ง..ที่เราและลูกหลาน..คงจะเดินออก..จาก ความรุนแรงที่ถูกหยิบยื่นให้ด้วยความสำนึกและเข้าใจ..ด้วยตนเอง..(และหากเรามีวันนั้น..โลกคงจะสงบและมีสันติ..และคงเป็นของขวัญปีใหม่ของทุกปี..ที่ล้ำค่าและยิ่งยงของมนุษยชาติ..เจ้าค่ะ..(แอบคิด..ตามประสายายธี)...
สวัสดีปีใหม่ ครับ ท่านรองครับ
อำนาจในโลกนี้มีอยู่สองอย่าง
คือ อำนาจจากความรุนแรง จากอาวุธ อันนี้ก็ควบคุมทางสังคมได้
อำนาจที่สองคืออำนาจจากการครอบงำ จากอาวุธอันละมุน
การกล่อมเกลาสืบทอด ก็ทำให้สังคมนั้นดำรงโครงสร้างอยู่ได้
ประเทศที่ยิ่งใหญ่ย่อมมีอำนาจทั้งสองนี้อย่างบริบูรณ์
เช่นประเทศมหาอำนาจของโลก มีอำนาจจากอาวุธที่สะสมไว้เป็นอันดับหนึ่ง
มีอำนาจอันละมุนจาก การให้ทุนแก่ประเทศโลกที่สามเพื่อให้การศึกษา
เพื่อเปลี่ยนทัศนคติที่ถาวร อย่างที่เขาเรียกว่าไอ้กล้วย คือผิวเหลือง ในขาว
เพื่อให้ยอมรับต่อกฎเกณฑ์ที่มหาอำนาจกำหนดขึ้นเพื่อให้เสียเปรียบแข่งขันไม่ไ้ด้
ผ่านงานวิชาการต่าง ๆ ที่ครอบงำอยู่ในสมอง
นอกจากนั้นยังใ้ช้วิธีการอำนาจอันละมุน ยกตัวอย่างเช่น ภาพยนต์ฮอลิวู๊ด
เพื่อเปลี่ยนทัศนคติถาวรให้คนนับถือประเทศมหาอำนาจนั้น
ถ้าวิกิลิกซ์ไม่เปิดเผยเรื่องราวต่าง ๆ เบื้องหลังต่าง ๆ อันเกิดจาการสร้างภาพ
นั้นเราคงมองเห็นแต่สิ่งที่เป็นเปลือกนอกของประเทศเหล่านั้น
ผ่านภาพยนต์เช่น saving private ryan อำนาจอันละมุนเป็นยองใยนี้
ประเทศเกาหลีนั้น
เริ่มจับทางได้ ก็เลยเลียนแบบประเทศมหาอำนาจนั้น ๆ ทุกวันนี้เราจึงคลั่งเกาหลี
เที่ยวเกาหลีเอาเงินไปให้เกาหลี ทั้งที่ไม่มีครูคนใดเลยที่สอนให้รักประเทศอื่น
ดังนั้นประสิทธิภาพของอำนาจอันละมุนนั้นระหว่าง ครู กับ สื่อบันเทิง
จึงเทียบกันไม่ติดเหมือนฟ้ากับเหว
ถามว่าอำนาจและความรุนแรงมาจากไหน
ถ้าคนหนึ่งคนใช้ไม้ตีหัวคนหนึ่งคน ------------เป็นความรุนแรงเชิงโครงสร้างกายภาพ
ถ้าคนหนึ่งใช้หลักการ วิธีการ อันละมุน ตีเข้าไปในสมองด้วยวิธีอันแยบยล--------------เป็นความรุนแรงที่ไม่มีใครจับได้
เราทั้งหลายก็ตกอยู่ในอำนาจของความละมุนนี้
ทำยังไงครับ รู้จักความรุนแรงอย่างที่ยกตัวอย่างมา
อำนาจในโลกนี้มีอยู่สองอย่างคือ อำนาจจากความรุนแรง จากอาวุธ อันนี้ก็ควบคุมทางสังคมได้
อำนาจที่สองคืออำนาจจากการครอบงำ จากอาวุธอันละมุน
อำนาจในโรงเรียน มาจากอำนาจดันครอบงำ จากอาวุธอันละมุน นะครับ
ภายใต้วาทกรรมที่ว่า "นักเรียนต้องเชื่อฟังครู และ ปฏิบัติตามกฏของโรงเรียน"
อันเป็นที่มาของความรุนแรง ส่งผลต่อปัญหานานัปการ ที่เกิดกับเด็ก
เรียนท่านอาจารย์
สวัสดีปีใหม่ 2554 นะครับ อ.smallman
บางเรื่องเห็นด้วย ไม่แค่คนเราทำสิ่งเหล่านี้ในระบบร.ร.แต่คนในครอบครัว ญาติมิตร สังคมทั้งในและต่างปท.หลายคนล้วนทำสิ่ง
เหล่านี้ด้วย ไหนจะสถาบันศาสนาอีกต่างหาก